25 ก.พ. 2021 เวลา 13:30 • สุขภาพ
11 สิ่งที่ควรทำก่อนเข้านอน แล้วช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย
การลดน้ำหนักไม่ใช่ทำได้แค่เฉพาะในฟิตเนส แต่ในช่วงก่อนเข้านอน หากทำตามนี้ได้ก็ลดความอ้วนได้เหมือนกัน
1. กินสแน็กก่อนนอน
อ่านไม่ผิดหรอกครับว่าเราแนะนำให้กินอาหารก่อนนอน เพราะจริง ๆ แล้วกลไกการเบิร์นไขมันและนำโปรตีนไปสร้างกล้ามเนื้อจะทำงานอย่างขยันขันแข็งในช่วงที่เรากำลังนอนหลับนี่แหละ ดังนั้นสแน็กที่ควรต้องกินก่อนเข้านอนสัก 1-2 ชั่วโมงก็น่าจะเป็นของว่างที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่ร่างกายคู่ควร เช่น อาหารโปรตีนสูงอย่างถั่ว อัลมอนด์ เนยถั่ว รวมทั้งอาหารชนิดคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอย่างโฮลวีท โฮลเกรน และวิตามินจากผลไม้สักหน่อย ซึ่งจุดนี้อาจเลือกกินขนมปังโฮลวีททาเนยถั่ว กับฝรั่งหรือแอปเปิลสัก 2-3 กลีบก่อนเข้านอนก็ได้นะ
2. ดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ สักแก้ว
สำหรับคนที่คิดว่ากินอาหารก่อนนอนไม่น่าจะไหว งั้นเราขอแนะนำให้ดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ สักแก้วก่อนนอนก็ยังดีครับ เพราะเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีโปรตีนสูง มีวิตามิน และสารอาหารดี ๆ ต่อการลดน้ำหนักก็มีให้เลือกดื่มอยู่หลายรายการเหมือนกัน
3. คาร์ดิโอสักนิด
อย่างที่รู้กันดีว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอช่วยเบิร์นไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถ้าสามารถคาร์ดิโอเป็นประจำทุกวันก็จะช่วยลดไขมันหน้าท้องได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว ทั้งนี้การออกกำลังกายคาร์ดิโอก็ทำได้หลายสไตล์นะครับ สะดวกแบบไหนก็เลือกแล้วจัดให้ไวเลย
4. ต่อด้วยเวทเทรนนิ่ง
ผลการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Sport Nutrition เผยว่า การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งในช่วงก่อนเข้านอนจะช่วยให้ร่างกายเบิร์นไขมันได้ดีขึ้น โดยมีแนวโน้มจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญให้ร่างกายเบิร์นได้ยาว ๆ ไปถึง 16 ช่วงโมงหลังการเล่นเวทเลยทีเดียว และถ้าจะให้ดีมากขึ้นไปอีกควรเล่นเวทต่อจากการคาร์ดิโอโดยทันทีครับ เพราะนักวิจัยบอกว่าวิธีออกกำลังกายต่อเนื่องกันแบบนี้จะช่วยเร่งการเผาผลาญเหมือนติดเทอร์โบเลยล่ะ
5. อาบน้ำเย็นกันเถอะ !
ถ้าอยากให้ร่างกายเพื่มการเผาผลาญได้มากขึ้นสาว ๆ ที่ติดอาบน้ำอุ่นก็ต้องยอมเปลี่ยนมาอาบน้ำเย็นนะครับ เพราะตามธรรมชาติแล้วเมื่อร่างกายของเราสัมผัสกับความหนาวเย็น ร่างกายจะผลิตไขมันสีน้ำตาล (brown fat) ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีที่มีคุณสมบัติช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันออกมา สรุปแล้วนี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีลดน้ำหนักง่าย ๆ น่าสนใจไม่น้อย
6. อยู่ห่างจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
คนที่ใช้แท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนเล่นอินเทอร์เน็ตก่อนจะปิดไฟนอน อาจได้รับผลกระทบจากแสงสีน้ำเงินบนหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ ทำให้คุณเกิดอาการนอนหลับไม่สนิทได้ นั่นเพราะแสงสีน้ำเงินบนหน้าจอจะไปยับยั้งการทำงานของสารเคมีในสมองที่เรียกว่าเมลาโทนิน ซึ่งเป็นตัวช่วยให้เรานอนหลับได้ดี เพราะสมองสับสนคิดว่า นี่ยังเป็นเวลากลางวันอยู่ จึงอาจจะนอนหลับได้ยากขึ้น ส่งผลต่อกระบวนการเบิร์นไขมันของร่างกายในช่วงที่เรานอนหลับโดยตรงเลย
7. เล่นจ้ำจี้ก่อนนอน
ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยควิเบค ประเทศแคนาดา เผยผลการสำรวจที่น่าสนใจว่า ผู้หญิงจะเบิร์นไขมันในร่างกายออกไปได้ราว 90 กิโลแคลอรี หลังจากมีเซ็กส์เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ขณะที่ผู้ชายสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินทิ้งได้ถึง 120 กิโลแคลอรีต่อการเล่นจ้ำจี้ 1 ยก ! โอ้โห...นับเป็นวิธีลดน้ำหนักก่อนเข้านอนที่น่าจะสร้างความฟินให้กับคนมีคู่ไม่เบาเลยล่ะเนอะ
8. ปรับอุณหภูมิในห้องนอนให้เย็นสบาย
National Institute of Health Clinical Center ทำการศึกษาและพบว่า การนอนหลับในห้องที่มีอุณหภูมิพอเหมาะจะช่วยให้ร่างกายเบิร์นแคลอรีได้มากขึ้นประมาณ 7% เพราะอากาศที่เอื้อให้นอนหลับสบายจะป้องกันภาวะนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ หรือภาวะสะดุ้งตื่นมาตอนดึก ซึ่งจะรบกวนการหลั่งฮอร์โมนตัวที่ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ หรือบางคนสะดุ้งตื่นกลางดึกแล้วก็นอนไม่หลับตลอดคืนอีกเลยก็มี ซึ่งก็จะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอล​ (ฮอร์โมนแห่งความอ้วน) ตื่นตัวและหลั่งออกมา ส่งผลให้ในตอนเช้าเรารู้สึกเพลีย ๆ และอยากกินของหวาน อาหารขยะมากขึ้นได้ ดังนั้นแนะนำให้ปรับอุณหภูมิในห้องนอนในระดับที่ร่างกายรู้สึกสบาย สนับสนุนให้การนอนหลับเป็นไปอย่างราบรื่นเพื่อเป็นการตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมจะดีกว่า
9. เติมกลิ่นเปปเปอร์มินต์ในห้องนอน
การศึกษาจากวารสาร Neurological and Orthopaedic Medicine พบว่า อาสาสมัครที่ดมกลิ่นเปปเปอร์มินต์ทุก ๆ 2 ชั่วโมงมีแนวโน้มลดน้ำหนักได้ประมาณ 2.2 กิโลกรัมต่อเดือน ! นอกจากนี้การดมกลิ่นแอปเปิลเขียว กล้วย และวานิลลา ก็ทดแทนกลิ่นเปเปอร์มินต์ได้เช่นกัน โดยนักวิจัยได้อธิบายไว้ว่า อาจจะเป็นเพราะกลิ่นหอมในระดับพอดี ๆ ของเปเปอร์มินต์และผลไม้เหล่านี้ ที่ทำให้ร่างกายควบคุมความอยากอาหารได้ดีกว่าปกติ ดังนั้นคนที่มักจะหิวตอนดึกหรือมักจะตื่นเช้ามาพร้อมกับอาการอยากน้ำหวานขั้นสุดลองใช้วิธีนี้ช่วยนะ
10. ปิดไฟให้มืดที่สุด
ฮอร์โมนเมลาโทนินจะเป็นตัวการสำคัญในการช่วยเบิร์นไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย แต่เจ้าเมลาโทนินจะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในห้องที่มืดสนิทที่สุด เพราะหากมีแสงเล็ดลอดเข้ามาแม้เพียงเล็กน้อย ฮอร์โมนเมลาโทนินจะตอบสนองต่อแสงด้วยการป่วนให้เราหลับ ๆ ตื่น ๆ จนในที่สุดร่างกายก็ได้รับการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
11. อย่านอนดึก !
ถ้านอนไม่พอ หรือน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน ร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะกระตุ้นให้คุณรู้สึกหิว ดังนั้นเมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะตกเป็นเบี้ยล่างของความอยากอาหารไปโดยปริยาย และที่สำคัญอาหารที่ร่างกายรู้สึกอยาก ก็จะเป็นอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และอาหารรสหวานทุกชนิด เพราะร่างกายจะได้ดึงเอาน้ำตาลเหล่านี้ไปเพิ่มในกระแสเลือด เพื่อให้รู้สึกสดชื่น บรรเทาอาการง่วงซึมไปบ้าง ฉะนั้นถ้าไม่อยากอ้วนอีกต่อไปก็พยายามอย่านอนดึกหรือนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน
นอกจากวิธีช่วยลดน้ำหนักก่อนเข้านอนเหล่านี้แล้ว ก็อย่าลืมควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วยนะ
โฆษณา