27 ก.พ. 2021 เวลา 13:00 • สุขภาพ
มาดูปฏิกิริยา หรือการทำงานของร่างกาย
เมื่อเราดื่มน้ำอัดลมเข้าไป! 😲
1
อากาศร้อนๆแบบนี้ หลายคนคงนึกอยากดื่มเครื่องดื่มเย็นๆสักแก้วเพื่อดับกระหาย 'น้ำอัดลม' คงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่เรามักนึกถึง ด้วยรสชาติหวานซ่าที่ถูกปากถูกใจใครหลายๆคน
3
แต่ข้อเสียของน้ำอัดลมก็มีไม่น้อย
หากกินเกินพอดี หรือบ่อยเกินไป
ย่อมเป็นการทำร้ายร่างกายอีกทางหนึ่ง
วันนี้จึงอยากพาทุกคนไปดูปฏิกิริยา หรือการทำงานของร่างกายเมื่อเราดื่มน้ำอัดลมเข้าไป แต่ก่อนที่จะเข้าเรื่อง เรามารู้จักส่วนประกอบหลักในน้ำอัดลมกันก่อนดีกว่า ว่ามีส่วนผสมอะไร และอันตรายต่อร่างกายยังไงบ้าง ?
1
ส่วนผสมในน้ำอัดลม :
1. กรดคาร์บอนิก ฟอสฟอริก
เป็นองค์ประกอบที่ทำให้น้ำอัดลมซ่าและมีฟอง กรดคาร์บอนิกยังสามารถย่อยสลายหินปูนได้ และยังสามารถกัดกร่อนกระดูกและฟันได้ นั่นแปลว่า หากเราดื่มน้ำอัดลมบ่อยๆ อาจทำให้ฟันผุ และกระดูกพรุนได้เร็วกว่าคนที่ไม่ดื่ม
4
2. น้ำตาล
น้ำตาลที่ใช้คือซูโครส(น้ำตาลทราย) เป็นสารที่ให้ความหวานและพลังงาน ซึ่งถูกใส่ลงไปในน้ำอัดลมในปริมาณที่มากพอสมควร จึงไม่แปลกที่เมื่อเราดื่มน้ำอัดลมบ่อยๆ น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้น
3
3. วัตถุกันเสีย
ใส่เพื่อให้สามารถเก็บน้ำอัดลมไว้ได้นาน สารตัวนี้มีฤทธิ์เป็นกรดค่อนข้างแรง มีผลให้เกิดการระคายเคืองทางเดินอาหารได้
8
4. สี กลิ่น รส สังเคราะห์
2
น้ำอัดลม ผ่านการแต่งสี กลิ่น รสมาแล้ว ซึ่งสี กลิ่น รสที่นำมาใช้ ก็คือสารเคมีสังเคราะห์นั่นแหละ อันตรายของสารเหล่านี้คือ มันเป็นสารก่อมะเร็ง นั่นแปลว่า ถ้าเราดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ อาจเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้ง่าย
2
5. คาเฟอีน
สารตัวนี้มีฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางหรือสมอง ทำให้สมองเกิดความตื่นตัว
แต่เมื่อหมดฤทธิ์ สมองจะอ่อนล้ามาก
2
6. น้ำ
เป็นองค์ประกอบหลักของน้ำอัดลม
น้ำทำให้ร่างกายสดชื่น แล้วยังรักษาสมดุลต่างๆของร่างกายอีกด้วย
3
ขอบคุณภาพจาก https://images.app.goo.gl/HGZJGrJQDe4bYVpo8
ทีนี้เรามาเข้าเรื่องกัน!
เมื่อน้ำอัดลมหนึ่งกระป๋องตกถึงกระเพาะอาหาร
ร่างกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองดังนี้
1
• 10 นาทีแรก
น้ำตาลจำนวน 7.5 - 10 ช้อนโต๊ะ (ซึ่งเกินมาตรฐานที่แพทย์แนะนำต่อวัน) จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายทันที
3
• นาทีที่ 20
น้ำตาลในเลือดจะพุ่งสูงขึ้น ร่างกายจึงรีบปล่อยอินซูลินออกมา ตับจะตอบสนองด้วยการเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นไขมัน
6
• นาทีที่ 40
คาเฟอีนจะถูกดูดซึมเสร็จสมบูรณ์แล้ว ม่านตาดำจะขยาย ความดันเลือดจะสูงขึ้น ตับก็จะเร่งส่งน้ำตาลไปยังเส้นเลือดมากขึ้นอีก ตุ่มรับอะดีโนซีนในสมองถูกบล็อก ส่งผลให้เราไม่ง่วงนอน
8
• นาทีที่ 45
สมองจะสั่งการให้ร่างกายเร่งสร้างโดพามีนเพื่อกระตุ้นให้เรารู้สึกมีความสุข
5
• นาทีที่ 60 หรือเมื่อครบ 1 ชั่วโมง
เกิดการรวมตัวกันของกรดฟอสฟอริกกับแคลเซียม แมกนีเซียมกับสังกะสีที่อยู่ในลำไส้ ทำให้เกิดกระบวนการเผาผลาญน้ำตาลในปริมาณสูง คาเฟอีนที่อยู่ในน้ำอัดลม จะทำให้เราอยากปัสสาวะในช่วงนี้ สารเพิ่มความหวานทำให้มีการปัสสาวะขับแคลเซียมออกไปจากร่างกาย นั่นแปลว่าร่างกายเราจะสูญเสียแคลเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี โซเดียม อิเล็กตรอไลด์ และน้ำด้วย
15
ขอบคุณภาพจาก https://images.app.goo.gl/7jmE3u2J3fS3n5eb6
เมื่อกระบวนการทุกอย่างสิ้นสุดลง ร่างกายจะเกิดอาการ “Sugar Crash” ซึ่งทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลียหลังจากที่บริโภคน้ำตาลเป็นจำนวนมาก และนั่นก็ทำให้เรารู้อยากดื่มน้ำอัดลมเพิ่มอีก
11
อ่านแล้ว น่ากลัวปนกับสงสารร่างกายตัวเอง
เหมือนกันนะ ที่ต้องรับบทหนักขนาดนี้ 😯
.
การทำงานของร่างกายหลังจากการดื่มน้ำอัดลม 1 ชั่วโมง เป็นงานการวิจัยของ Niraj Naik เภสัชกรเจ้าของบล็อก The Renegade Pharmacist ซึ่งเรื่องนี้มีการแพร่หลายอย่างมากในต่างประเทศ
2
Niraj Naik ยังกล่าวอีกว่า .. การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ความดันโลหิตสูง เป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคอ้วนได้
หลายคนอาจบอก
ก็หลงรักไปแล้วจะให้ทำไง ?😁
ก็ลองปรับลดปริมาณ และความถี่ในการดื่มลงครับ หากจะดื่ม ก็ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะพอควร ไม่ควรดื่มเป็นประจำครับ
อ้างอิง :
ธนพงษ์ วสุธนทรัพย์
3
โฆษณา