27 ก.พ. 2021 เวลา 11:11 • การตลาด
วันนี้ขอพาไปพบกับระบบการค้าแห่งความซื่อสัตย์ เชื่อใจ และไมตรี ในชนบทประเทศสวิตเซอร์แลนด์กันค่ะ
วิถีชีวิตชนบทที่สวิตเซอร์แลนด์ เราจะพบเจอการเปิดร้านขายผลผลิตทางเกษตรกรรมโดยเจ้าของอยู่หลายแห่ง ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างทำให้ไม่สามารถมานั่งเฝ้าหน้าร้านคอยให้บริการลูกค้าได้ทั้งวัน จึงเกิดการเปิดร้านขายแบบให้บริการตนเองขึ้น
ร้านค้าบริการตนเองของฟาร์มแถวบ้านเก่า (มะลิเพิ่งขวบนิดๆ)
ของทุกอย่างมีรายละเอียดราคาเขียนไว้ชัดเจน
ของบางอย่างที่ต้องชั่งตวงวัด ก็จะมีตาชั่งอิเลคทรอนิค และป้ายหมายเลขของสินค้านั้น ๆ เช่น บล็อคโคลี่หมายเลข 05 ผู้ซื้อเพียงหัวบล็อคโคลี่ที่ต้องการวางลงตาชั่ง กดหมายเลข 05 ก็จะปรากฎราคาขึ้นมา ใกล้กับตาชั่งจะมีสมุดโน้ต ดินสอ และเครื่องคิดเลข ที่ผู้ซื้อจะจดราคาของที่จะซื้อลงไป แล้วทำการคำนวนเอง
1
ตาชั่ง กล่องเงิน เครื่องคิดเลข กระดาษ ดินสอ พร้อม - ผู้ซื้อคิดเงินเองค่ะ
เมื่อได้ของครบตามที่ต้องการ และคำนวนราคาที่ต้องชำระแล้ว ก็สามารถเปิดกล่องเก็บเงินที่วางไว้ใกล้กับตาชั่ง จ่ายเงิน-ทอนเงิน ด้วยตัวเองให้เรียบร้อยเป็นอันเสร็จพิธี กลับบ้านได้ (บางครั้งเงินไม่พอก็เขียนโน้ตแจ้งไว้ได้ แล้ววันหลังแวะมาชำระ)
ร้านค้าประเภทนี้ 99% จะเป็นร้านที่เปิดอยู่หน้าบ้านของผู้ทำเกษตรกรรมโดยตรง หรือเจ้าของไร่เจ้าของฟาร์มนั่นเอง ดังนั้นของที่วางขายก็เป็นของที่มาจากฟาร์มนั้น ๆ หรืออาจจะเป็นของฝากขายจากผู้คนในหมู่บ้านเดียวกัน อาทิแยม หรือผักดองของคุณยายบ้านนั้น ถุงเท้าถักของคุณป้าบ้านนี้ ไข่ไก่จากฟาร์มเล็ก ๆ ใกล้เคียง ก็นำมาฝากวางขายไว้ด้วย
ผัก ผลไม้ตามฤดูส่งตรงจากไร่ และ ผลิตภัณฑ์แปรรูปทางธรรมชาติ
พูดกันตามตรงราคาผักผลไม้ หรือของแปรรูปต่าง ๆ ที่ขายโดยตรงจากฟาร์มนั้น บางครั้งสูงกว่าการเข้าไปหาซื้อในซุปเปอร์มาเก็ตเสียอีก แต่คนก็ยังหมั่นไปอุดหนุนร้านจากฟาร์มโดยตรงกันสม่ำเสมอ เพราะรู้กันดีว่า พ่อค้าคนกลางอย่างซุปเปอร์มาเก็ตกดราคาชาวไร่มากขนาดไหน เงินที่ควรจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ถูกแรงกดดันจากเจ้าตลาดที่ถือไพ่เหนือกว่า จนรัฐบาลต้องเข้ามาอุ้ม มาประกันราคา หรือข่าวการประท้วงเรื่องราคาก็ได้ยินกันเป็นประจำ
1
แต่บางอย่างก็ราคาถูกกว่าในซุปเปอร์มาเก็ต เช่นฟักทองสำหรับประดับบ้านเป็นต้น (นางแบบ - มะลิวัยขวบกว่า)
การมาอุดหนุนโดยตรงที่ฟาร์ม นอกจากจะได้ของสดชัวร์ ๆ ยังเป็นการมอบไมตรี และกำลังใจให้กันแบบไม่ต้องพูดมาก เพราะซุปเปอร์มาเก็ตที่สะดวกสบายกระจายอยู่ทั่วไปหาซื้อผักผลไม้ได้ไม่ยาก แต่ทั้ง ๆ ที่เพิ่งกลับจากซุปเปอร์มาเก็ต ก็ละที่จะซื้อบางอย่างเพราะจะผ่านไปอุดหนุนที่บ้านฟาร์ม ก็คือการส่งสาห์นหากัน คือการตบบ่าให้กำลังใจกัน คือการสื่อสารแบบวิถีชนบทของที่นี่
1
เป็นอีกเรื่องที่มดรู้สึกประทับใจ ในตอนแรกประทับใจแค่เรื่องของความซื่อสัตย์ และไว้ใจกัน แต่เมื่อทราบว่าของที่ขายนั้นบางอย่างแพงกว่าในซุปเปอร์มาเก็ต แต่คนก็ยังพร้อมจะอุดหนุนเพราะต้องการส่งกำลังใจให้กัน ก็ยิ่งประทับใจลึกซึ้งขึ้นไปอีก นี่คืออีกเหตุผลที่ไม่ว่าจะย้ายบ้านกี่ครั้งก็จะเลือกอยู่เขตชนบททุกครั้งไป ❤️
1
ตู้ขายนมสดที่ต้องนำบรรจุภัณฑ์จากบ้านมาเติมเอง ตู้นี้วางอยู่หน้าฟาร์มวัว นมที่ได้คือนมสด ๆ จากเต้าที่นำมาขายใหม่ ๆ ทุกเช้า ยังไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ ต้องนำไปต้มเอง (นายแบบ - พ่อมะลิ)
ฟาร์มใกล้บ้านอีกแห่งที่มักจะมีผลิตผลมาวางขายที่ซุ้มริมถนน
เวลามีเพื่อนจากเมืองไทยมาเยี่ยมเยียน การพาไปซื้อผลิตภัณฑ์ ผลิตผลโดยตรงจากฟาร์ม โดยที่ต้องบริการตนเอง คิดเงินเอง ทอนเงินเอง เป็นเรื่องที่ตื่นตาตื่นใจกันมาก ๆ
อีกร้านในละแวกบ้านเก่า ในภาพเป็นเพื่อนมดกับพ่อมะลิ กำลังคำนวนเงินเคร่งเครียด
ที่นิยมอีกอย่างก็คือ การแบ่งพื้นที่บางส่วนในการปลูกพืชผักผลไม้ มาปลูกดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ให้ผู้คนที่สนใจ มาเลือกตัดด้วยตนเอง โดยจะมีราคาแจ้งสำหรับดอกไม้แต่ละชนิด
1
Source : Loorenhof.ch
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเพจนะคะ
แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ที่คอมเม้นด้านล่างเลยค่ะ
🙏❤️

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา