1 มี.ค. 2021 เวลา 01:43 • ประวัติศาสตร์
เรื่องราวของคฤหาสน์นองเลือดไม่ได้จบลงเพียงแค่ความโหดเหี้ยมของมาดามลาลอรี แต่ความน่ากลัวของคฤหาสน์หลังนี้คือเรื่องเกี่ยวกับวิญญาณที่เล่าขานกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่จะพบเจอเป็นภาพ หรือได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของเหล่าวิญญาณทาสที่ถูกทรมานราวกับต้องการร้องขอความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอก แม้กระทั่งคนที่อยู่ในคฤหาสน์ก็มักจะพบเห็นเฟอร์นิเจอร์ หรือข้าวของเคลื่อนย้ายได้เอง รวมไปถึงภาพใบหน้าของบางสิ่งบางอย่างปรากฏให้เห็นตามช่องหน้าต่างของตัวอาคารแห่งนี้ จนคฤหาสน์แหงนี้ถูกขนานนามว่า “คฤหาสน์แห่งความตาย”
6
มีอีกหนึ่งตำนานที่สำคัญเล่าว่า มาดามลาลอรีมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อว่า มาเรีย ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง โดยเพื่อนคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์มนต์ดำวูดู มาดามลาลอรีจึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับศาสตร์มืดเหล่านี้จากเพื่อนของเธอ และนั่นทำให้เธอกลายเป็นคนที่มีจิตใจวิปริตเกินมนุษย์ บริเวณรอบคฤหาสน์จึงเต็มไปด้วยซากศพที่ถูกฝังไว้ในลานด้านล่าง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นศพของพวกทาสที่ถูกมาดามลาลอรีทรมาน หรือนำมาประกอบพิธีทางไสยศาสตร์จนตายอย่างสยดสยองนั่นเอง
ภาพทาสที่ถูกทรมาน
อย่างที่เรารู้กันว่าหลังจากที่คฤหาสน์แห่งนี้ถูกชาวบ้านยึดจึงกลายเป็นคฤหาสน์ร้าง ขณะที่เป็นตึกร้างนี้เองได้มีผู้คนพบเห็นวิญญาณจำนวนมากกำลังเริงร่าเบิกบานในงานเลี้ยงราวกับภายในคฤหาสน์มีงานเลี้ยงสังสรรค์ แต่จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อมันเป็นคฤหาสน์ร้าง !
คฤหาสน์หลังนี้เปลี่ยนมือเจ้าของไปอย่างมากหน้าหลายตา แต่ก็ไม่มีใครสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้นาน บางคนอาศัยได้เพียง 3 เดือนก็ต้องย้ายออกเพราะมักถูกรบกวนด้วยเสียงแปลก ๆ ทั้งเสียงร้องและเสียงครวญครางในเวลากลางคืน
ภาพบรรยากาศภายในคฤหาสน์
นอกจากนี้ภาพที่เห็นจนชินตาคือมีภาพของวิญญาณทาสถูกเฆี่ยนตีด้วยความทารุณ เสียงร้องโหยหวนของเหล่าวิญญาณที่ทุกข์ทรมานดังออกมาจากคฤหาสน์แห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะถูกบูรณะให้กลายเป็นอะไร สถานที่แห่งนี้ก็จะถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันสีดำคล้ายร่างของคน บางคนเคยพบเห็นวิญญาณเด็กหญิงกระโดดจากดาดฟ้า บางคนเห็นทาสผิวดำไร้ศีรษะยืนถือหัวของตนเองอยู่ตรงระเบียง
1
ภาพของคฤหาสน์ในปัจจุบัน
เรื่องราวสยองขวัญของสถานที่แห่งนี้ยังคงถูกเล่าขานตั้งแต่ในอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน แม้เวลาจะผ่านไปนานกว่า 170 ปีเศษแล้ว แต่วงล้อแห่งกงกรรมยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น เพราะมาดามลาลอรีที่หนีออกจากคฤหาสน์ได้ในตอนนั้น บัดนี้วิญญาณของมาดามได้กลับมาสิงยังคฤหาสน์แห่งนี้ มีบางคนเห็นวิญญาณของทาสผิวดำร่างกำยำใหญ่โตใบหน้าถมึงทึงถือแส้หนังงูไล่ตีวิญญาณหญิงผิวขาววิ่งล้มลุกคลุกคลานพร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของมาดามลาลอรีที่กลับมาสิงสู่คฤหาสน์แห่งนี้ และกลายเป็นฝ่ายถูกทาสผิวดำเฆี่ยนตี และทรมานเสียเอง
1
ขอบคุณข้อมูลจาก
1
โฆษณา