1 มี.ค. 2021 เวลา 04:50 • หนังสือ
#13 เล่ม 2 บทที่ 5 หน้า 90 ~ 95
N : ในเล่มแรกพระองค์สัญญาไว้ว่าจะอธิบายเรื่องที่ใหญ่ขึ้นอีกหลายๆเรื่องในเล่มที่ 2 เช่น...
▶️ เรื่องที่ว่างและเวลา (space & time)
▶️ ความรักและสงคราม
▶️ ความดีและความชั่ว
▶️ รวมถึงประเด็นด้านภูมิศาสตร์
▶️ ระบบเศรษฐกิจและการเมืองในระดับโลกที่สำคัญที่สุด
▶️ และยังสัญญาด้วยว่าจะลงรายละเอียดบางอย่างในเรื่องประสบการณ์ทางเพศของมนุษย์
G : ใช่ ทั้งหมดนั่นฉันได้สัญญาเอาไว้
🔹เล่มแรก🔹 ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับคำถามส่วนบุคคล เป็นเรื่องของชีวิตส่วนตัว
🔹เล่มสอง🔹 จะเกี่ยวข้องกับการอยู่ร่วมกันในระดับสังคมโลก
🔹เล่มสาม🔹 จะเป็นบทสรุปของหนังสือทั้งสามเล่มด้วยความจริงอันกว้างใหญ่ที่สุดนั่นคือ ความเป็นไปของจักรวาล ภาพรวมทั้งหมด และการเดินทางของจิตวิญญาณ
เมื่อรวมทั้งสามเล่มเข้าด้วยกันจะเป็นคำแนะนำและข้อมูลในปัจจุบัน★ที่ดีที่สุดของฉันที่มีต่อทุกเรื่อง ตั้งแต่การผูกเชือกรองเท้าไปจนถึงความเข้าใจในจักรวาลของเธอ
★คำแนะนำล่าสุดของพระองค์เกิดขึ้นในปี 2560 อยู่ในหนังสือที่มีชื่อว่า สนทนากับพระเจ้า เล่ม 4 แสดงว่าจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกเปลี่ยนจากเดิมไปมากแล้ว พระองค์ถึงต้องมาให้ข้อมูลและความรู้เพิ่มเติมให้กับมนุษย์เพื่อให้เหมาะสมที่สุดกับจิตสำนึกมวลรวมของมนุษย์ในปัจจุบัน
—แอดมิน—
N : แล้วเรื่องของ "เวลา" นี่ พระองค์พูดสิ่งที่ควรต้องพูดจบแล้วหรือยังครับ❓
G : ฉันพูดไปหมดแล้วเท่าที่เธอจำเป็นต้องรู้
✨ ไม่มีเวลาหรอก
✨ ทุกสิ่งดำรงอยู่พร้อมกัน
✨ ทุกเหตุการณ์เกิดขึ้นในขณะเดียวกัน
หนังสือเล่มนี้กำลังถูกเขียนขึ้น และขณะที่มันกำลังถูกเขียนอยู่นี้มันได้เขียน`เสร็จเรียบร้อย`ไปแล้ว มันมีอยู่ก่อนแล้ว จริงๆเธอได้ข้อมูลทั้งหมดนี้มาจากตรงนั้นนั่นล่ะ ได้มาจากหนังสือที่มีอยู่ก่อนแล้ว เธอเพียงทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเท่านั้น
นี่คือความหมายของคำว่า...✴️แม้ก่อนเธอจะร้องขอ ฉันก็ได้ให้ไปแล้ว✴️
N : ข้อมูลทั้งหมดนี้ที่เกี่ยวกับเรื่องของ "เวลา" ดูเหมือน...ผมจะพูดว่ายังไงดี...มันดูน่าสนใจแต่ก็น่าประหลาด แล้วจะนำไปปฏิบัติในชีวิตจริงได้หรือครับ❓
G : ความเข้าใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับเรื่องของเวลาจะทำให้เธอใช้ชีวิตอยู่ในโลกสัมพัทธ์ได้อย่างเป็นสุข โลกที่เธอ`รู้สึก`ว่า...🔸เวลานั้นเคลื่อนไหว เคลื่อนที่ไป แทนที่จะหยุดนิ่งอยู่กับที่🔸
✴️"ตัวเธอนั่นล่ะที่เคลื่อนไหว"
ไม่ใช่เวลา
✴️"เวลาไม่เคยเคลื่อนไหว"
เพราะมีเพียงห้วงขณะเดียวเท่านั้น
ในระดับหนึ่งเธอเข้าใจในเรื่องนี้อย่างลึกล้ำ นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเมื่อมีบางสิ่งสุดงดงามและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมายเกิดขึ้นในชีวิตเธอ หลายครั้งเธอจะพูดว่ามันเหมือน "เวลาได้หยุดลง"
เวลาหยุดนิ่งอย่างนั้นจริงๆ และเมื่อเธอเองก็หยุดด้วย บ่อยครั้งเธอจึงได้รับประสบการณ์ถึงห้วงขณะอันตราตรึงที่สุดของชีวิต
N : ผมรู้สึกว่ามันยากที่จะเชื่อ มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงครับ❓
G : วิทยาศาสตร์ของพวกเธอ`พิสูจน์`เรื่องนี้ได้แล้วในทางคณิตศาสตร์ สูตรสมการต่างๆถูกเขียนขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่า...ถ้าเธอเข้าไปในยานอวกาศแล้วบินไปได้ไกลพอและเร็วมากพอ เธอจะสามารถบินวนไปรอบโลกจนกลับมาทัน "เห็นตัวเองกำลังขึ้นบิน"
นี่แสดงว่า "เวลามิใช่สิ่งเคลื่อนไหว"
ทว่าเป็น "สนามให้เธอเคลื่อนผ่าน"
(ซึ่งในกรณีนี้ โลกก็คือยานอวกาศ)
พวกเธอบอกว่าต้องใช้ 365 "วัน" ถึงจะได้หนึ่งปี แต่ทีนี้อะไรคือ "หนึ่งวัน"❓ พวกเธอได้ตัดสินใจ (เอาเองตามใจชอบโดยไม่มีเหตุผล ฉันคงต้องพูดแบบนี้) ว่า "หนึ่งวัน" คือ "เวลา" ที่โลก (ยานโลก) ได้หมุนรอบตัวเองครบหนึ่งรอบ
พวกเธอรู้ได้อย่างไรว่าโลกหมุนอยู่จริงๆ❓ (พวกเธอ "ไม่รู้สึก" ว่ามันกำลังเคลื่อนที่อยู่ด้วยซ้ำ❗) พวกเธอได้เลือกเอาจุดอ้างอิงจากในสวรรค์ (ดวงอาทิตย์) พวกเธอบอกว่าต้องใช้เวลาเต็ม "วัน" เพื่อให้ยานโลกฝั่งที่พวกเธออาศัยอยู่หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ จากนั้นก็หันออกแล้วก็หันเข้าไปใหม่
พวกเธอยังได้แบ่ง "วัน" ออกเป็น 24 "ชั่วโมง" (เอาเองตามใจชอบอีกครั้ง) ซึ่งจริงๆพวกเธออาจจะบอกเอาเองตามใจว่า "10" หรือ "73" ก็ยังได้❗
จากนั้นพวกเธอยังแบ่ง "ชั่วโมง" ออกเป็น "นาที" อีก พวกเธอบอกว่าแต่ละหน่วยของ "ชั่วโมง" ยังประกอบไปด้วยหน่วยย่อยอีก 60 หน่วย เรียกว่า "นาที" ซึ่งแต่ละ "นาที" ยังจะประกอบไปด้วยหน่วยที่เล็กลงไปอีก 60 หน่วย เรียกว่า "วินาที"
อยู่มาวันหนึ่ง พวกเธอสังเกตว่าโลกมิได้หมุนอยู่แค่เพียงเท่านั้น แต่ยัง`บิน`ได้ด้วยอีกต่างหาก❗ พวกเธอเห็นว่ามันกำลังเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ว่าง (อวกาศ : space) ไปรอบดวงอาทิตย์
พวกเธอยังคำนวณอย่างพิธีพิถันว่า โลกต้องหมุนรอบตัวเอง 365 ครั้งถึงจะโคจรรอบดวงอาทิตย์ได้หนึ่งรอบ จำนวนที่โลกหมุนนี้พวกเธอเรียกมันว่า "หนึ่งปี"
ทีนี้มันเริ่มยุ่งขึ้นมานิดๆแล้วเมื่อพวกเธอตัดสินใจที่จะแบ่ง "หนึ่งปี" ออกเป็นหน่วยย่อยที่เล็กกว่า "ปี" แต่ใหญ่กว่า "วัน"
พวกเธอจึงสร้าง "สัปดาห์" และ "เดือน" ขึ้นมา แล้วก็จัดการให้มีจำนวนเดือนเท่ากันในทุกๆปี แต่จำนวนวันในแต่ละเดือนจะไม่เท่ากัน
พวกเธอไม่สามารถหาวิธีหารจำนวนวัน (365) ที่เป็นเลขคี่ด้วยจำนวนเดือน (12) ที่เป็นเลขคู่ให้ลงตัวได้ ก็เลยตัดสินใจว่า บางเดือนต้องมีจำนวนวันที่มากกว่า❗
พวกเธอรู้สึกว่าต้องคงเลข 12 เอาไว้ในฐานะหน่วยย่อยของปี เพราะนั่นคือจำนวนของวงโคจรทางจันทรคติที่พวกเธอสังเกตเอาจากการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ใน "หนึ่งปี"
เพื่อจะให้สามเหตุการณ์พิเศษนี้ (1️⃣การโคจรรอบดวงอาทิตย์ 2️⃣การหมุนรอบตัวเองของโลก 3️⃣วงโคจรของดวงจันทร์) ไปด้วยกันได้ พวกเธอก็เพียงแค่ปรับเปลี่ยนจำนวน "วัน" ในแต่ละ "เดือน" เสีย
แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ได้ช่วยขจัดปัญหาให้หมดไป เพราะการประดิษฐ์คิดค้นก่อนหน้านี้ของพวกเธอยังคง 🔹สร้าง🔹 สิ่งที่เรียกว่า "เวลา" ขึ้นมาอยู่ตลอด
ซึ่งพวกเธอก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันอย่างไรดี ก็เลยตัดสินใจอีกว่าภายในทุกๆไม่กี่ปีจะมีอยู่ปีหนึ่งที่มี`วันมากกว่า`ปีอื่นๆอยู่หนึ่งวัน แล้วเรียกมันว่า "ปีอธิกสุรทิน"★ แล้วก็ขำไปกับมัน และพวกเธอก็ใช้ชีวิตอยู่กับประดิษฐกรรมเหล่านี้แล้วหันมาบอกว่าคำอธิบายเรื่องเวลา`ของฉัน`นั้น "ไม่น่าเชื่อ"❗
[★ปีอธิกสุรทิน คือ ทุก 4 ปี ในเดือนกุมภาพันธ์จะมีวันเพิ่มเป็น 29 วัน จาก 28 วัน ~ ผู้แปล
พวกเธอยังสร้าง "ทศวรรษ" (10 ปี) กับ "ศตวรรษ" (100 ปี) ขึ้นเองตามใจชอบ (อีกแล้ว) (ที่น่าสนใจก็คือสร้างจากฐาน 10 `ไม่ใช่` ฐาน 12) เพื่อจะวัดการเดินทางของ "เวลา" เพิ่มเติม
ทว่าทั้งหมดที่พวกเธอกำลังทำอยู่นี้ จริงๆเป็นเพียงแค่ ✴️การสร้าง "วิธีการวัด" การเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ว่าง (space : อวกาศ) เท่านั้นเอง✴️
ฉะนั้นเราได้เห็นแล้วว่า ✴️เวลาไม่ได้เคลื่อนผ่านไปไหนแม้แต่นิดเดียว✴️
🌟แต่เป็น "วัตถุ" ต่างหากที่เคลื่อนผ่านและวนเวียนอยู่ในสนามสถิตที่พวกเธอเรียกมันว่า "พื้นที่ว่าง" (space : อวกาศ)🌟
"เวลา" จึงเป็นเพียงวิธีการที่พวกเธอใช้
★นับการเคลื่อนไหว★ เพียงเท่านั้น❗
นักวิทยาศาสตร์เข้าใจความสัมพันธ์นี้อย่างลึกซึ้ง ฉะนั้นจึงใช้คำพูดว่า "ความเกี่ยวเนื่องโยงใยของพื้นที่ว่างและเวลา" (Space - Time Continuum)
ไอน์สไตน์และคนอื่นๆได้ประจักษ์ว่า🔸เวลาคือประดิษฐกรรมทางใจ🔸 🔸เป็นมโนคติเชิงสัมพันธ์🔸
"เวลา" คือ 🔸สิ่งซึ่งสัมพันธ์กับพื้นที่ว่างที่ดำรงอยู่ระหว่างวัตถุ❗🔸
(ถ้าจักรวาลกำลังขยายตัว...ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ...นั่นหมายความว่าในปัจจุบันโลกต้องใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ "นานขึ้น" กว่าเมื่อหนึ่งพันล้านปีก่อน เพราะมี "พื้นที่ว่าง" ให้ต้องโคจรเพิ่มขึ้น)
เพราะฉะนั้น นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน ปี ทศวรรษ และศตวรรษ ต้องใช้จำนวนเวลาที่มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้วัฏจักรของเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ในปัจจุบันเมื่อเทียบกับที่เกิดขึ้นในปี 1492❗
(ทีนี้ "วัน" ไหนล่ะที่ไม่ใช่ 24 ชั่วโมง❓ "ปี" ไหนล่ะที่ไม่ใช่ 12 เดือน❓)
ตอนนี้ เครื่องวัดเวลาชนิดใหม่ของพวกเธอซึ่งมีความสลับซับซ้อนสูงได้บันทึกความไม่ลงตัวของ "เวลา" โดยในแต่ละปีนาฬิกาทั่วโลกจะถูกปรับเวลาให้เข้ากับจักรวาลที่ไม่ยอมอยู่นิ่งๆ❗
นี่เรียกว่า เวลามาตรฐานสากล★ (Greenwich Mean Time : GMT) และที่มัน "หยาบคาย"★★ (Mean) ก็เพราะไปทำให้จักรวาลกลายเป็นพวกโกหกหลอกลวง❗
★เวลามาตรฐานสากล : ด้วยเหตุที่แต่ละท้องถิ่นมีเวลาแตกต่างกัน จึงมีการกำหนดเวลาที่มีตำแหน่งอ้างอิงในแต่ละพื้นที่ขึ้นเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานและการสื่อสารระหว่างกัน เรียกว่า "เวลาเฉลี่ยกรีนิช" (Gree-nwich Mean Time หรือ GMT) เป็นเวลาเฉลี่ยท้องถิ่นที่เมืองกรีนิช ประเทศอังกฤษ ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นลองติจูดที่ 0 องศา
 
★★ คำว่า "mean" ที่มาจาก Greenwich Mean Time นั้นนอกจากจะแปลว่า "ค่าเฉลี่ย" ได้แล้ว ยังมีความหมายว่า "หยาบคาย" ได้อีกด้วย
~ ผู้แปล ~
ไอน์สไตน์ได้สร้างทฤษฎีขึ้นมาว่า :
ถ้า "เวลา" ไม่ได้เคลื่อนที่หากแต่เป็น `ตัวเขาเอง` ที่กำลังเคลื่อนผ่านพื้นที่ว่างด้วยระดับความเร็วใดๆแล้วล่ะก็...
ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือ "เปลี่ยนปริมาณพื้นที่ว่างระหว่างวัตถุ" (หรือ "เปลี่ยนอัตราเร็วที่เขาเคลื่อนผ่านพื้นที่ว่างจากวัตถุหนึ่งไปยังอีกวัตถุหนึ่ง") แล้วจะสามารถ 🔹เปลี่ยนเวลา🔹 ได้
นี่คือ "ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป"★ ของไอน์สไตน์ ซึ่งขยายความเข้าใจในปัจจุบันของพวกเธอเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเวลาและพื้นที่ว่าง
★ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General Theory of Relativity) อ่านเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์ครับ ผู้เขียนสรุปไว้ได้ดีมากทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น และถ้ามีเวลาก็ควรอ่านในคอมเมนท์ด้วยครับ ได้ประโยชน์มากเช่นกัน —แอดมิน—
ทีนี้เธออาจจะเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไม ถ้าเธอเดินทางไกลออกสู่อวกาศและหวนกลับมา เธออาจจะมีอายุเพียงสิบปี ขณะที่เพื่อนๆบนโลกมีอายุปาเข้าไปสามสิบปีแล้ว❗
ยิ่งเธอออกไปไกลมากแค่ไหน เธอก็จะยิ่ง🔹บิดงอความเกี่ยวเนื่องของพื้นที่ว่างและเวลามากขึ้นเท่านั้น🔹 และยิ่งมีโอกาสน้อยลงที่เธอจะกลับมาเห็นคนที่มีชีวิตอยู่ในตอนที่เธอจากไปยังมีลมหายใจอยู่❗
แต่ถ้าใน "อนาคต" นักวิทยาศาสตร์บนโลกนี้ สามารถพัฒนาวิธีที่จะ "ขับเคลื่อนตัวเองให้`เร็ว`ขึ้น" พวกเขาจะสามารถ "โกง" จักรวาลและคงความสอดคล้องไปกับ "เวลาจริง" บนโลกได้ พอกลับมาก็จะพบว่าเวลาที่ผ่านไปบนโลกเท่ากับเวลาที่ผ่านไปในยานอวกาศ
ที่ชัดเจนก็คือ ถ้าขับเคลื่อนตัวเองให้เร็วขึ้นไปอีก เราจะกลับมาถึงโลกได้ก่อนที่จะออกไปนอกโลกเสียด้วยซ้ำ❗
หมายความว่า "เวลาบนโลกเดินช้ากว่าเวลาบนยานอวกาศ" เธออาจเดินทางกลับมาหลังจากที่หายไป "สิบปี" โดยที่ "ช่วงเวลา" บนโลกกลับผ่านไปแค่เพียง "สี่ปี" เท่านั้น❗
🌟 "ยิ่งเพิ่มความเร็วเข้าไป" สิบปีในอวกาศอาจเป็นเพียงแค่สิบนาทีบนโลก 🌟
ทีนี้ การเคลื่อนที่ข้าม "รอยผับ" (fold) ในผืนผ้าแห่งพื้นที่ว่าง (fabric of space) (ไอน์สไตน์และคนอื่นๆเชื่อว่า "รอยผับ" ต่างๆมีอยู่จริง ซึ่งพวกเขาก็เข้าใจถูกต้องแล้ว)
ในทันทีที่เธอได้เคลื่อนที่ข้าม "พื้นที่ว่าง" "ในหนึ่งห้วงขณะสั้นๆ" จะถือได้ไหมว่าปรากฏการณ์ของพื้นที่ว่างและเวลานี้แท้จริงแล้วได้ "เหวี่ยงเธอ" ให้ "ย้อนเวลา" กลับไปได้น่ะ❓★
★อ่านทบทวนเรื่องของเวลาที่พระองค์ได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ได้ตามลิ้งค์ครับ —แอดมิน—
ถึงตอนนี้ก็ไม่ควรยากจนเกินไปที่จะเห็นได้ว่า "เวลา" ไม่มีอยู่จริง
✴️เว้นแต่เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นในจิตใจของเธอเพียงเท่านั้น✴️
ทุกสิ่งที่เคยเกิดขึ้น และที่จะเกิดขึ้นต่อไป...ล้วนกำลังเกิดขึ้นอยู่🔹ในตอนนี้🔹
ส่วนความสามารถของเธอที่จะสังเกตเห็นความจริงนี้หรือเปล่า ก็ขึ้นอยู่กับ 🔹มุมมองของเธอ🔹 หรือ
🔸ตำแหน่งที่เธออยู่ในพื้นที่ว่าง หรือ ตำแหน่งที่เธออยู่ในอวกาศ🔸 (place in space) เท่านั้นเอง
✴️ถ้าเธออยู่ในที่ที่ฉันอยู่เธอจะสามารถเห็นมันทั้งหมดในตอนนี้เลย❗✴️
เข้าใจไหม❓
N : โว้ววว ผมเริ่มเข้าใจแล้วครับในทางทฤษฎี❗
G : ดีแล้ว ฉันอธิบายให้เธอฟังในแบบที่เข้าใจได้ง่ายมากๆ...ง่ายจนแม้แต่เด็กก็ยังเข้าใจได้เลย อาจฟังดูไม่เป็นวิชาการเท่าไหร่ แต่ก็ช่วยให้เข้าใจได้ดีทีเดียวล่ะ
N : ทีนี้วัตถุทางกายภาพจะมีข้อจำกัดเรื่องความเร็ว แต่ถ้าเป็น "สิ่งที่ไร้รูป" อย่าง `ความคิด` `วิญญาณ`...ในทางทฤษฎีแล้วมันจะสามารถเคลื่อนผ่านอีเทอร์★ได้ด้วยความเร็วสุดหยั่ง❗
★ทฤษฎีอีเทอร์ หรือ 'ตัวกลาง' อ่านเพิ่มเติมได้ตามลิงค์ครับ
 
—แอดมิน—
G : นั่นล่ะ❗ ใช่เลย❗
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆขณะฝัน รวมถึง 🔹ประสบการณ์การวิญญาณออกจากร่าง (out-of-body)🔹 และ 🔹ประสบการณ์ทางจิตอื่นๆ🔹
ถึงตรงนี้เธอเข้าใจ
🔹ประสบการณ์เดจาวู🔹 แล้วนะ
เธอได้อยู่ตรงนั้นมาก่อนแล้ว❗
...
...
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา