27 ก.พ. 2021 เวลา 05:00 • หนังสือ
#12 เล่ม 2 บทที่ 4 หน้า 84 ~ 89
...
เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลกของเธอ (ซึ่งเกิดขึ้นอยู่ตลอดมาร่วม 3,000 ปีแล้ว) อย่างที่ฉันได้พูดเอาไว้ คือ ภาพสะท้อนของจิตสำนึกแบบรวมหมู่ของ "กลุ่มของเธอ" เป็นกลุ่มของมนุษย์ทั้งหมดบนโลกของเธอ
ซึ่งจิตสำนึกในระดับนี้นั้น คำอธิบายที่เหมาะสมที่สุดก็คือ "ล้าหลังและป่าเถื่อน" (primitive)
...
...
...
N : อืมมมม ใช่ครับ แต่ดูเหมือนเราจะหลุดจากประเด็นของคำถามในตอนต้นไปแล้วนะครับ
G : ไม่หรอก ก็เธอถามเรื่องของฮิตเลอร์ขึ้นมา ปรากฏการณ์ฮิตเลอร์เกิดขึ้นมาจากจิตสำนึกรวมหมู่หรือจิตสำนึกแบบกลุ่ม
ผู้คนมากมายกล่าวว่าฮิตเลอร์ครอบงำกลุ่ม (ในกรณีนี้คือเพื่อนร่วมชาติ) ด้วยเล่ห์กลและวาทศิลป์อันเป็นเลิศ แต่นั่นคือการโยนข้อกล่าวหาทั้งหมดไปให้ฮิตเลอร์รับผิดชอบแบบมักง่าย ซึ่งเป็นอะไรที่คนหมู่มากต้องการให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
แต่เธอต้องเข้าใจนะว่า ตัวฮิตเลอร์เพียงคนเดียวจะทำอะไรไม่ได้เลยถ้าคนเป็นล้านๆไม่ร่วมมือ สนับสนุน และสมัครใจทำตาม กลุ่มย่อยที่เรียกตัวเองว่าชาวเยอรมันต้องแบกภาระรับผิดชอบก้อนโตต่อเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นั้นด้วย
และในระดับหนึ่งแล้ว คนกลุ่มใหญ่ที่เรียกว่ามนุษยชาติมีส่วนต้องรับผิดชอบด้วยไม่ต่างกัน แม้จะดูเหมือนว่าไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม แต่การยังคงไม่แยแสและไม่ยินดียินร้ายต่อเคราะห์กรรมที่เกิดในเยอรมณี กระทั่งเหตุการณ์ลุกลามบานปลายไปจนถึงขั้นที่แม้แต่พวกไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของชาวบ้านยังทำเป็นไม่สนใจไม่ได้อีกต่อไป
✴️ เธอเห็นแล้วใช่ไหมว่าด้วย "จิตสำนึกรวมหมู่" แบบนี้ เป็นดั่งผืนดินชั้นดีที่เอื้อให้ขบวนการนาซีเติบโตขึ้นมาได้ ฮิตเลอร์คว้าโอกาสนั้นแต่เขาไม่ได้เป็นคนสร้างมันขึ้นมาตั้งแต่แรก ✴️
เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเข้าใจ`บทเรียน`ตรงนี้ จิตสำนึกของกลุ่มชนที่เอาแต่พร่ำถึงการแบ่งแยกและความเหนือกว่าของชาติพันธุ์ ทำให้ความเมตตากรุณาขาดหายไปในวงกว้าง เมื่อสูญเสียความเมตตากรุณา สำนึกผิดชอบชั่วดี (มโนธรรม) ก็ปลิวหายตามไปอย่างเลี่ยงไม่พ้น
แนวคิดรวมหมู่ที่มีรากฐานมาจากความเป็นชาตินิยมอันเข้มงวดนั้นมิได้แยแสสนใจในสภาพการณ์ของผู้อื่น ทว่าจะต้องทำให้ผู้อื่นรับผิดชอบในสภาพการณ์ของพวกตน ฉะนั้นจึงได้สร้างความชอบธรรมให้กับ 'การตอบโต้' 'การทำผิดให้เป็นถูก' และ 'สงคราม'
ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ (Auschwitz) คือวิธีแบบนาซีในการ "แก้ปัญหาชาวยิว" (คือความพยายามที่จะ "ทำผิดให้เป็นถูก") นั่นเอง
🔹ความน่ากลัว🔹 ของประสบการณ์ฮิตเลอร์มิได้อยู่ที่เขาได้ก่อกรรมทำเข็ญต่อมวลมนุษยชาติ แต่อยู่ที่ ✴️มนุษยชาติต่างยอมให้ฮิตเลอร์ทำอย่างนั้นได้✴️
🔹ความน่าประหลาด🔹 มิใช่เพียงคนอย่างฮิตเลอร์ได้ปรากฏขึ้นมา แต่ยังเป็นเพราะ ✴️คนจำนวนมากมายต่างพากันเอาด้วยกับฮิตเลอร์✴️
🔹ความน่าละอาย🔹 มิใช่เพียงฮิตเลอร์ฆ่าชาวยิวไปเป็นล้านๆ แต่ยังเป็นเพราะ ✴️ชาวยิวต้องถูกฆ่าเป็นล้านๆก่อนถึงจะคิดหาทางหยุดฮิตเลอร์✴️
🔹จุดมุ่งหมายของปรากฏการณ์ฮิตเลอร์🔹ก็คือ ✴️ให้มนุษยชาติได้เห็นโฉมหน้าของตัวเอง✴️
มีคุรุผู้ล้ำเลิศปรากฏขึ้นตลอดช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ คุรุแต่ละท่านต่างมอบโอกาสพิเศษเพื่อให้เธอจดจำได้ถึงตัวตนที่แท้จริง คุรุเหล่านี้ได้แสดงให้เธอเห็นถึงศักยภาพ "สูงสุด" และ "ต่ำสุด" ที่มนุษย์สามารถเป็นได้
พวกเขาได้ใช้ชีวิตเป็นตัวอย่างไว้อย่างแจ่มชัดและน่าทึ่ง ว่าการเป็นมนุษย์นั้นมีความหมายอย่างไรได้บ้าง ว่าใครคนหนึ่งสามารถมีประสบการณ์ได้ไกลเพียงใด ว่าพวกเธอมากมายมีความสามารถและไปไหนได้บ้าง... "ด้วยจิตสำนึกของเธอ"
เรื่องหนึ่งที่เธอต้องจำให้ได้ก็คือ ✴️จิตสำนึกคือทุกสิ่งและมันเป็นตัวสร้างประสบการณ์ของเธอ✴️
"จิตสำนึกแบบกลุ่ม" นั้นมีพลังมาก สามารถก่อให้เกิดผลอันงดงามเกินบรรยายหรือเลวร้ายเกินอธิบาย 🔸ทางเลือกขึ้นอยู่กับเธอเสมอ🔸
หากเธอไม่พอใจกับจิตสำนึกรวมหมู่ของกลุ่มเธอ 🔸จงพยายามที่จะหาทางเปลี่ยนแปลง🔸
วิธีที่ดีที่สุดในการเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกของผู้อื่นก็คือ 🔸ตัวเธอต้องแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่าง🔸
หากตัวอย่างจากเธอยังไม่พอ จงสร้างกลุ่มของตัวเองขึ้นมา...โดยมีเธอเป็นต้นกำเนิดของจิตสำนึกในแบบที่เธอปรารถนาให้คนอื่นมีประสบการณ์ พวกเขาจะได้รับประสบการณ์นั้น...เมื่อเธอทำอย่างนั้น
🔸ทุกสิ่งทุกอย่าง
🔸ทั้งหมดทั้งมวล
🌟เริ่มต้นที่เธอ🌟
1
เธอต้องการให้โลกเปลี่ยนไปใช่ไหม❓
✴️ถ้าอย่างนั้นจงเปลี่ยนสิ่งต่างๆในโลกของเธอด้วยตัวของพวกเธอเอง✴️
ฮิตเลอร์ได้มอบโอกาสทองให้พวกเธอทำอย่างนั้นได้ ปรากฏการณ์ฮิตเลอร์ (เป็นเช่นเดียวกันกับปรากฏการณ์หรือประสบการณ์แห่งพระคริสต์) นั้นมีความหมายลึกซึ้งอยู่ในตัวเอง 🔸ทำให้เธอได้รับรู้ถึงความจริงที่เกี่ยวกับตัวเธอ🔸
แต่ทว่าการตระหนักถึงเรื่องใหญ่แบบนั้นจะคงอยู่ต่อไปได้ (ไม่ว่าจะในกรณีของฮิตเลอร์ พระพุทธเจ้า เจงกิสข่าน พระกฤษณะ แอตติลลา★ หรือพระเยซู) 🔸ตราบเท่าที่ความทรงจำของเธอเกี่ยวกับพวกเขานั้นยังคงอยู่🔸
★แอตติลลา (Attila) : (406 - 453 ปีก่อนคริสตกาล) ผู้ปกครองของชนเผ่ามองโกลที่ขึ้นชื่อด้านการศึกสงครามและการกวาดต้อนชนเผ่าและอาณาจักรต่างๆมาเป็นบริวาร อีกทั้งยังเป็นศัตรูกับชาวโรมัน ~ ผู้แปล
นี่คือเหตุผลว่าทำไมชาวยิวถึงได้สร้างอนุสาวรีย์ให้แก่เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และขอให้พวกเธอจงอย่าได้ลืมเลือน เพราะพวกเธอทุกคนต่างก็มีความเป็นฮิตเลอร์อยู่ในตัวเพียงแต่จะมีอยู่มากหรือน้อยเท่านั้น
ฆ่าล้างชีวิตผู้คนก็คือฆ่าล้างชีวิตผู้คน ไม่ว่าจะเป็นที่เอาช์วิทซ ์หรือ วูนเด็ดนี★
★เหตุการณ์สะเทือนขวัญเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 1890 ที่กองทหารของสหรัฐฯเข้ากวาดล้างเข่นฆ่าชาวอินเดียนแดงที่เมือง Wounded Knee รัฐเซ้าท์ ดาโกตา ชาวอเมริกันโดยทั่วไปต่างสนับสนุนเหตุการณ์ครั้งนี้ มีการมอบเหรียญเกียรติยศ "Medal of Honor" จำนวนมากให้แก่เหล่าทหารและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลต่อปฏิบัติการกวาดล้างนี้
 
เหตุการณ์นี้ได้รับการสร้างเป็นภาพยนต์ชื่อ "Wounded Knee" และได้บันทึกไว้เป็นส่วนหนึ่งในหนังสือชื่อ "Bury my heart at Wounded Knee" ซึ่งได้รับการแปลเป็นภาษาไทยในชื่อ "ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี" ~ ผู้แปล
N : ดังนั้นฮิตเลอร์ถูกส่งมาเพื่อให้บทเรียนแก่พวกเราถึงความน่าสะพรึงกลัวที่มนุษย์สามารถทำได้ และให้บทเรียนว่ามนุษย์สามารถจมลงไปได้ลึกเพียงใดอย่างนั้นใช่ไหมครับ❓
G : ฮิตเลอร์ไม่ได้ถูกส่งมาให้พวกเธอ ✴️แต่ฮิตเลอร์เกิดขึ้นมาจากพวกเธอเองต่างหาก✴️
เขาเติบใหญ่ขึ้นมาเพราะ "จิตสำนึกรวมหมู่" และจะไม่สามารถยืนอยู่ได้หากปราศจากจิตสำนึกรวมหมู่แบบนั้นรองรับ นี่คือ "บทเรียน"
"จิตสำนึกแห่งความแบ่งแยก" การแบ่งแยกของเชื้อชาติ การแบ่งแยกแห่งชนชั้น พวกฉันสูงส่งกว่าพวกเธอ จิตสำนึกแบบ "เรา" กับ "มัน" / "พวกเรา" กับ "พวกมัน" นี่เองที่สร้าง 🔸ประสบการณ์ฮิตเลอร์ขึ้นมา🔸
"จิตสำนึกแห่งภราดรภาพอันศักดิ์สิทธิ์" (ทุกคนล้วนเป็นพี่น้องกัน) ความเป็นเอกภาพ ความเป็นหนึ่งเดียว จิตสำนึกแบบ "ของพวกเรา" แทนที่จะเป็น "ของแก" / "ของฉัน" นี่เองที่สร้าง 🔸ประสบการณ์แห่งพระคริสต์🔸
เมื่อความเจ็บปวดเป็น "ของพวกเรา"
มิใช่เพียงแค่ "ของพวกแก"
เมื่อความเบิกบานเป็น "ของพวกเรา"
มิใช่เพียงแค่ "ของฉัน"
เมื่อ "ประสบการณ์ทั้งหมดในชีวิต" ล้วนเป็นเรื่องของ "พวกเรา" ได้เมื่อไหร่ ✴️เมื่อนั้นจะเป็นประสบการณ์ชีวิตแห่งความสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงได้ในท้ายที่สุด✴️
N : แล้วทำไมฮิตเลอร์ถึงได้ขึ้นสวรรค์ล่ะครับ❓
G : เพราะฮิตเลอร์ไม่ได้ทำอะไร "ผิด" ฮิตเลอร์เพียงแค่ทำในสิ่งที่ทำ
ฉันขอย้ำกับเธออีกครั้งนะว่า คนเป็นล้านๆต่างพากันคิดว่าเขาทำ "ถูก" มานานตั้งหลายปี แล้วจะให้เขาคิดเป็นอื่นไปได้อย่างไร❓
ถ้าเธอโยนแนวคิดบ้าๆออกมา แล้วคนสิบล้านคนพากันเห็นด้วยไปกับเธอ เธอคงไม่คิดว่าตัวเองบ้าหรอกนะใช่ไหม❓
โลกได้ตัดสินใจ (ในที่สุด) ว่าสิ่งที่ฮิตเลอร์ทำนั้น "ผิด" พูดอีกอย่างก็คือ คนทั้งโลกได้ทำการประเมินตัวเองใหม่ว่า "ใครที่พวกเขาเป็น" และ "ใครที่พวกเขาเลือกจะเป็น" ...ในความสัมพันธ์ (ประสบการณ์) ที่มีต่อปรากฏการณ์ฮิตเลอร์
ฮิตเลอร์เป็นผู้สร้างบรรทัดฐานขึ้นมานะ❗ เขาเป็นผู้วางกรอบและกฏเกณฑ์ให้เราสามารถวัดและกำหนดแนวคิดที่มีต่อตัวเองได้ 🔸พระคริสต์ก็ทำแบบเดียวกันนี้ เพียงแต่อยู่คนละขั้วกันเท่านั้นเอง🔸
ยังมีพระคริสต์และฮิตเลอร์รายอื่นๆอีก และจะมีต่อไป ฉะนั้นจงจับตามองเอาไว้ให้ดี เพราะผู้มีจิตสำนึกทั้ง 'สูง' และ 'ต่ำ' ได้เดินอยู่ท่ามกลางพวกเธอ ไม่ต่างจากที่`เธอ`ก็เดินอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้น
จิตสำนึกแบบไหนกันล่ะที่เธอจะนำติดตัวไปด้วย❓
N : ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับว่าฮิตเลอร์ขึ้นสวรรค์ได้ยังไง เป็นไปได้ยังไงที่เขา `ได้รับรางวัล` จากสิ่งที่ทำลงไป
G : อย่างแรก จงเข้าใจว่าความตายมิใช่จุดสิ้นสุดแต่เป็นจุดเริ่มต้น มิใช่สิ่งน่าหวาดหวั่นแต่คือความเบิกบาน มิใช่การปิดลงแต่คือการเปิดออก
✨ห้วงขณะเปี่ยมสุขที่สุดในชีวิตของเธอคือห้วงขณะที่มันจบสิ้นลง✨
เพราะว่ามันหาใช่การ`สิ้นสุด`ไม่ ทว่าจะดำเนินสืบไปอย่างงดงาม เต็มเปี่ยมไปด้วยสันติสุข เต็มเปี่ยมไปด้วยปัญญาและความเบิกบาน ยากเกินจะอธิบายและเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะเข้าใจ
ฉะนั้น สิ่งแรกเลยที่เธอจะต้องเข้าใจให้ได้ (ซึ่งฉันได้อธิบายให้เธอฟังไปแล้ว) ก็คือ ฮิตเลอร์ไม่ได้ "ทำร้าย" ใครเลย
ในอีกแง่หนึ่ง เขาไม่ได้ "ก่อความทุกข์" ให้กับใครเลยด้วยซ้ำ แต่ทำให้มัน "สิ้นสุดลง" ต่างหาก
พระพุทธเจ้านั้นเองที่กล่าวว่า "ชีวิตคือทุกข์" พระพุทธเจ้าพูดถูกทีเดียว★
★ในแง่นี้ก็คือ ตอนเราใช้ชีวิตอยู่ในโลกวิญญาณนั้น เราจะมีความสุขมากกว่าตอนมามีกายเนื้อมากๆ จะมีการอธิบายถึงเรื่องนี้อีกครั้งอย่างละเอียดในเล่ม 3 ครับ
1
—แอดมิน—
N : ถึงผมจะยอมรับในสิ่งที่พระองค์พูดมา แต่จริงๆแล้วฮิตเลอร์ไม่ได้`รู้`สักหน่อยว่าตัวเองกำลัง`ทำดี` เขาคิดว่าตนกำลัง`ทำไม่ดี`อยู่นะครับ❗
G : ไม่ใช่เลย ฮิตเลอร์ไม่ได้คิดว่าตัวเองกำลังทำบางสิ่งที่ "ไม่ดี" จริงๆแล้วเขาคิดว่าเขากำลังช่วยเพื่อนร่วมชาติของเขาอยู่ต่างหาก นี่เองคือสิ่งที่เธอไม่เข้าใจ
✴️ไม่มีใครทำอะไร 'ผิด' เมื่อดูจากกรอบการมองโลกของเขา✴️
ถ้าเธอคิดว่าฮิตเลอร์ทำสิ่งต่างๆลงไปด้วยความวิกลจริต โดยที่ตลอดเวลาก็รู้ตัวว่าตัวเองกำลังวิกลจริต แสดงว่าเธอไม่ได้เข้าใจอะไรเลยเกี่ยวกับความสลับซับซ้อนของประสบการณ์มนุษย์
ฮิตเลอร์คิดว่าตัวเองกำลังทำ`สิ่งที่ดี`แก่พี่น้องร่วมชาติ และพี่น้องร่วมชาติก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน❗
นั่นล่ะคือความวิกลจริตของเรื่องนี้❗
วิกลจริตเพราะคนเกือบทั้งประเทศเห็นด้วยกับฮิตเลอร์❗
เธอประกาศออกมาว่าฮิตเลอร์นั้นทำ "ผิด" ซึ่งก็ดีแล้ว ด้วยมาตรวัดนี้เธอถึงให้นิยามกับตัวเองได้ ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ซึ่งก็ดีแล้ว 🔸แต่จงอย่าประณามฮิตเลอร์ที่ได้แสดงสิ่งนั้นให้เธอเห็น★🔸
✴️เพราะต้องมีใครสักคนเป็นคนทำอยู่ดี✴️★★
★ที่ได้แสดงความวิกลจริตให้มนุษยชาติเห็น
★★เพราะจิตสำนึกรวมหมู่ของคนทั้งโลกเป็นแบบนั้น มันต้องเกิดขึ้นเพราะใครบางคนอยู่ดี และในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเท่าที่เรารู้ก็ไม่ได้มีฮิตเลอร์เพียงคนเดียวที่ทำแบบนั้น ถ้าเราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือสงครามอีก จิตสำนึกรวมหมู่ของคนทั้งโลกต้องเปลี่ยนไป เริ่มต้นง่ายๆได้ที่ตัวเราเป็นคนแรก โดยเลิกเสพข่าวลบๆเหล่านั้นเสีย สื่อที่เป็นลบนี่แหละที่คอยชี้นำจิตสำนึกรวมหมู่ของมนุษย์ เราไม่สามารถเปลี่ยนสื่อเหล่านั้นได้ในตอนนี้ แต่เราเลือกได้ที่จะไม่เสพมัน
—แอดมิน—
ไม่มีทางที่เธอจะรู้หนาวถ้าไม่มีร้อน
ไม่รู้สูงถ้าไม่มีต่ำ
ไม่รู้ซ้ายหากไร้ขวา
🌟 จงอย่าประณามสิ่งหนึ่งแล้วหันไปชื่นชมอีกสิ่ง เพราะถ้าทำอย่างนั้นก็ไม่มีวันที่เธอจะเข้าใจ 🌟
ผู้คนต่างประณามอดัมกับอีฟมานานนับพันปีแล้ว ทั้งสองถูกกล่าวหาว่าได้กระทำบาปกำเนิด แต่ฉันจะบอกเธอว่า : แท้จริงแล้วมันคือ `พรกำเนิด` ต่างหาก เพราะถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้ (ที่ทำให้เกิดความรู้ดีรู้ชั่ว) ✨เธอจะไม่มีวันรู้ด้วยซ้ำว่าความเป็นไปได้แห่งความเป็นคู่นี้มีอยู่❗✨
จริงๆแล้วก่อนเหตุการณ์ที่เรียกกันว่า "การถูกขับจากสวนแห่งชีวิตนิรันดร์" (Fall of Adam)
ความเป็นคู่นี้ `หาได้มีอยู่ไม่` มันมิได้มี "มาร" หรือ "ปีศาจ" แต่อย่างใด
ทุกๆคนและทุกๆสิ่งดำรงอยู่ในสภาวะแห่งความสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว มันคือสรวงสวรรค์อย่างแท้จริง ทว่าเธอก็ไม่รู้หรอกว่านั่นคือสรวงสวรรค์ (ไม่อาจมีประสบการณ์ถึงภาวะแห่งความสมบูรณ์แบบนั้นได้) เพราะ 🔸ไม่มีอย่างอื่นให้เธอรับรู้🔸
เธอยังจะประณามอดัฟกับอีฟต่อไป หรือควรจะขอบคุณพวกเขาดี❓
และจากสิ่งที่เธอพูด ฉันควรจะทำอย่างไรกับฮิตเลอร์ดี❓
ฉันจะบอกเธอว่า : ความรัก ความเมตตากรุณา ปัญญา การให้อภัย รวมถึงเจตนารมณ์และพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้านั้น ยิ่งใหญ่ไพศาลมาก 🌟พอที่จะคลอบคลุมถึงอาชญากรและอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้ด้วย🌟
เธออาจจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้ แต่มันก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะเธอเพิ่งจะได้รู้ว่าเธอมาอยู่ที่นี่เพื่อจะได้ค้นพบในสิ่งใด...
(จบ)(บทที่ 4)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา