Blockdit Logo (Mobile)
หนังสือสนทนากับพระเจ้า
•
3 มี.ค. 2021 เวลา 05:13 • หนังสือ
#15 เล่ม 2 บทที่ 6 หน้า 103 ~ 109
N : อธิบายเรื่อง "ที่ว่าง" ให้ผมฟังหน่อยครับ
G : "ที่ว่าง" (ช่องว่าง , พื้นที่ว่าง : space) ✴️คือเวลาที่สำแดงตัวออกมา✴️
ในความเป็นจริงแล้วไม่มีสิ่งที่เป็นที่ว่าง (ช่องว่าง) อยู่จริงๆหรอก (พื้นที่ที่ "ว่างเปล่าหมดจด" โดยไม่มีสิ่งใดเลยอยู่ในนั้น)🔸ทุกๆสิ่งจะเป็นอะไรบางสิ่งอยู่เสมอ🔸
แม้กระทั่งที่ว่าง (ช่องว่าง) อัน "ว่างเปล่าอย่างที่สุด" ก็ยังปกคลุมไปด้วยไอแสนบางเบาที่แผ่ขยายออกไปทั่วพื้นที่อันไร้ขอบเขตที่ดูเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเลยอยู่ในนั้น
เมื่อไอนั้นจางหายไปก็จะเหลือพลังงาน พลังงานอันบริสุทธิ์ พลังงานที่สำแดงตัวออกมาในรูปแบบของการสั่นสะเทือน การสั่นไหว 🔸การเคลื่อนที่ของสิ่งอันเป็นทั้งหมดนั้นด้วยความถี่อันจำเพาะเจาะจง🔸
"พลังงานที่มองไม่เห็น" นี้เอง คือ "ที่ว่าง" ✴️ซึ่งเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวสสารให้คงรูปเอาไว้ได้✴️
ครั้งหนึ่ง (ใช้เวลาที่เป็นเส้นตรงของเธอเป็นตัวอย่าง) สสารทั้งหมดในจักรวาลควบแน่นเข้าด้วยกันเป็นจุดที่เล็กมากๆ พวกเธอจินตนาการถึงความหนาแน่นของมันไม่ออกหรอก เพราะพวกเธอคิดกันว่าสสารที่ปรากฏอยู่`ในตอนนี้`นั้น ทึบตัน
จริงๆแล้วสิ่งที่พวกเธอเรียกว่า "สสาร" นั้น 🔸เกือบทั้งหมดของมันคือพื้นที่ว่าง🔸
วัตถุที่เป็น "ของแข็ง" ทั้งหมดนั้นมี "สสาร" ที่เป็นของแข็งเพียง 2% ส่วนอีก 98% ก็คือ "อากาศ"❗
1
🌟พื้นที่ว่างระหว่างอนุภาคต่างๆที่เล็กที่สุดของสสารในวัตถุทั้งหมดนั้นมีมากมายมหาศาล เปรียบได้กับพื้นที่ว่างระหว่างดวงดาวต่างๆบนฝากฟ้าในยามค่ำคืน ทว่าพวกเธอก็ยังเรียกวัตถุเหล่านี้ว่า "ของแข็ง"🌟
🔹เมื่อครั้งแรกเริ่ม จักรวาลทั้งหมดนั้น "แข็ง" จริงๆนั่นแหละ
🔹ระหว่างอนุภาคต่างๆของสสารเกือบจะไม่มีพื้นที่ว่างอยู่เลย
🔹"พื้นที่ว่าง" ทั้งหมดถูกนำออกไปจากสสาร
🔹และเมื่อ "พื้นที่ว่าง" อันมากมายมหาศาลหายไป
🔹สสาร (จักรวาล) นั้นจึงมีขนาดที่เล็กกว่าหัวเข็มหมุนเสียอีก
จริงๆแล้วมันมี "ช่วงเวลาก่อนเวลานั้นอยู่" ✴️เป็นช่วงที่ไม่มีสสารใดๆทั้งสิ้น — มีเพียงรูปแบบอันบริสุทธิ์ที่สุดของพลังงานแห่งการสั่นสะเทือนสูงสุด✴️ ซึ่งพวกเธอเรียกมันว่า "ปฏิสสาร"★
★อ่านเพิ่มเติมเรื่อง 'ปฏิสสาร' ได้ตามลิ้งค์ครับ
หลังจากอ่านเรื่องปฏิสสารแล้ว ย้อนขึ้นไปอ่านย่อหน้าข้างบนอีกที จากนั้นให้คิดทบทวนถึงเรื่องของ "เวลา" ที่พระองค์ได้อธิบายไปแล้วว่าเวลานั้นไม่มีอยู่จริง ทุกสิ่งเกิดขึ้นพร้อมกันในปัจจุบันขณะ
 
ซึ่งก็น่าจะทำให้เข้าใจกันมากขึ้นแล้วนะครับ ว่าจริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้น
—แอดมิน—
🌟นั่นคือช่วงเวลา "ก่อน" การกำเนิดขึ้นของ 'เวลา' ก่อนการปรากฏขึ้นของ 'จักรวาลทางกายภาพ' อย่างที่พวกเธอรู้จักอยู่ในตอนนี้🌟
🔸ไม่มีสสารใดๆดำรงอยู่🔸 บางคนเข้าใจว่าสิ่งนี้คือแดนสุขาวดี หรือ "สรวงสวรรค์" เพราะ "ไม่มีสิ่งใดเลยที่เป็นสสารวัตถุ"❗ (nothing was the matter)★
★ประโยคนี้เป็นการเล่นกับคำว่า matter ซึ่งนอกจากจะแปลว่า "วัตถุ / สสาร / มวลสาร" ได้แล้ว ยังมีความหมายว่า "สำคัญ / มีคุณค่า / มีความหมาย" ได้อีกด้วย
 
ประโยคนี้จึงแปลอีกแบบได้ว่า : "ไม่มีสิ่งสลักสำคัญอันใดเลย" หรือ "ไม่มีสิ่งใดมีคุณค่าและความหมาย" หรือ "ไร้ซึ่งนิยามและชื่อใดๆ"
—แอดมิน—
(มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ภาษาในปัจจุบันของเธอ เมื่อเธอสงสัยว่ามีอะไรบางอย่างผิดปรกติไปเธอจะพูดว่า "What the matter?"★)
★เป็นอะไรรึเปล่าเจ้าสสาร?
—แอดมิน—
แรกเริ่ม "พลังงานอันบริสุทธิ์" (ซึ่งก็คือฉัน❗) ✴️สั่นสะเทือนด้วยความเร็วเพื่อให้เกิดรูปธรรมทางกายภาพขึ้นมาเป็นสสารทั้งหมดในจักรวาล❗✴️
พวกเธอสามารถทำอย่างนั้นได้ด้วยเหมือนกัน จริงๆ "พวกเธอก็ทำอยู่ทุกวัน" นั่นล่ะ ✴️ความคิดทั้งหลายคือพลังสั่นสะเทือนอันบริสุทธิ์ซึ่งสามารถสร้างวัตถุธาตุทางกายภาพขึ้นมาได้❗✴️
1
ถ้าพวกเธอจำนวนมากพอ "คงความคิดใดความคิดหนึ่งไว้" ✴️พวกเธอจะส่งผลกระทบและแม้กระทั่งสร้างส่วนหนึ่งของจักรวาลทางกายภาพของพวกเธอขึ้นมาได้เลย✴️
ซึ่งฉันอธิบายให้ฟังไปแล้วในเล่มหนึ่ง★
★อ่านทบทวนได้ตามลิ้งค์ครับ
—แอดมิน—
N : จักรวาลกำลังขยายตัวอยู่หรือเปล่าครับ❓
G : ด้วยอัตราเร็วที่เธอจิตนาการไม่ออกเลยล่ะ❗
N : มันจะขยายตัวตลอดไปอย่างไม่มีวันจบสิ้นหรือเปล่าครับ❓
G : ไม่ มันจะไปถึงจุดหนึ่งที่พลังงานซึ่งผลักดันการขยายตัวอยู่นี้หมดไป และพลังงานที่ยึดเหนี่ยวสิ่งต่างๆเข้าด้วยกันจะเข้ามาแทนที่ โดยจะดึงดูดทุกสิ่ง "กลับเข้าหากัน" อีกครั้ง
1
N : พระองค์หมายความว่าจักรวาลจะหดตัว❓
G : ใช่ อาจพูดได้ว่าทุกสิ่งจะ "กลับเข้าที่" และเธอจะกลับสู่สรวงสวรรค์อีกครั้ง ไม่มีวัตถุสสาร มีแต่พลังงานบริสุทธิ์ ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ : ✨มีแต่ฉัน❗✨
ในท้ายที่สุด "ทั้งหมดจะกลับมาหาฉัน" นี่คือจุดเริ่มต้นของคำพูดที่ว่า "สุดท้ายก็เท่านี้" ("It all down to this")
N : ซึ่งก็หมายความว่าจะไม่มีพวกเราอีกต่อไป❗
G : 🔹ไม่มีในรูปแบบทางกายภาพ🔹
✨ แต่เธอ "จะดำรงอยู่เสมอ"
✨ เธอ "ไม่อาจไม่ดำรงอยู่"
✨ เธอคือ "สิ่งที่เป็นนิรันดร์"
N : จะเกิดอะไรขึ้นครับหลังจากจักรวาล "ล่มสลาย"❓
G : กระบวนการทั้งหมดจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง❗ จะมีสิ่งที่เรียกว่าบิ๊กแบงใหม่อีกที จักรวาลใหม่จะถือกำเนิดขึ้น
🔸มันจะขยายตัวและหดตัว
🔸และจะเป็นไปในลักษณะนี้อีกครั้ง
🔸แล้วก็อีกครั้ง และก็อีกครั้ง
🔸ชั่วกาลปาวสาน ไม่มีที่สิ้นสุด
1
✨นี่คือลมหายใจเข้าออกของพระผู้เป็นเจ้า✨
N : เอ่ออ...ผมคงต้องพูดอีกครั้งนะครับว่าทั้งหมดนี้มันน่าสนใจมากๆ ...แต่ก็แทบจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันของผมเลย
G : อย่างที่ฉันได้บอกไป การใช้เวลามากเกินไปกับการพยายามไขปริศนาที่ลึกลับที่สุดของจักรวาล อาจไม่ใช่ 🔹การใช้ชีวิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุด🔹สักเท่าไหร่
แต่ก็ยังได้รับประโยชน์อยู่บ้างเหมือนกันจากการเปรียบเทียบแบบง่ายๆนี้เพื่ออธิบายให้เห็นถึงกระบวนการในภาพใหญ่
N : อย่างเช่น❓
G : เช่น...
✴️ ความเข้าใจว่าสรรพสิ่งนั้นไหลเวียนเป็นวัฏจักร รวมทั้งตัวชีวิตเองด้วย
✴️ ความเข้าใจเกี่ยวกับวงจรชีวิตของจักรวาลนี้จะช่วยให้เธอเข้าใจวงจรชีวิตของจักรวาลที่อยู่ใน "ตัวเธอ"
✴️ ชีวิตดำเนินไปเป็นวัฏจักร
✴️ ทุกสิ่งล้วนหมุนเวียนเป็นวัฏจักร
✴️ ทุกทุกสิ่ง
เมื่อเธอเข้าใจในสิ่งนี้ เธอก็จะสามารถ ✨สนุก✨ ไปกับ "กระบวนการ" แทนที่จะกล้ำกลืนฝืนทน
💫 สรรพสิ่งไหลเคลื่อนเป็นวัฏจักร
💫 ชีวิตมีท่วงทำนองตามธรรมชาติ
💫 ทุกๆสิ่งเคลื่อนไหวสอดประสานไปตามท่วงทำนองแห่งจักรวาล
นั่นเองจึงมีคำกล่าวว่า : "สรรพสิ่งต่างหมุนเวียนเปลี่ยนผัน มีท่วงทำนองอยู่ในทุกเรื่องราวภายใต้สรวงสวรรค์"★
(For everything there is a season ; and a time for every purpose under heaven)
★เนื้อหาส่วนหนึ่งจากพระคัมภีร์ไบเบิล
—แอดมิน—
ใครเข้าใจเรื่องนี้ถือเป็นผู้ฉลาด ใครที่นำความเข้าใจนี้ไปใช้ถือเป็นผู้เฉียบแหลม
มีไม่กี่คนหรอกที่จะเข้าใจจังหวะของชีวิตได้ดีไปกว่าผู้หญิง ผู้หญิงใช้ชีวิตทั้งชีวิตไปตามท่วงทำนอง ชีวิตของพวกเธอเป็นท่วงทำนองในตัวมันเอง
ผู้หญิงสามารถ "ไหลไปตามกระแสแห่งชีวิต" ได้ดีกว่าผู้ชาย
ผู้ชายต้องการที่จะผลัก ดึง ฝืน และควบคุมกระแสแห่งชีวิต — ผู้หญิงจะเข้าไปมีประสบการณ์จากนั้นจะหล่อหลอมประสบการณ์นั้นขึ้นเพื่อให้เกิด "ภาวะแห่งความสอดคล้องกลมกลืน"
ผู้หญิงได้ยินท่วงทำนองแห่งดอกไม้ในสายลม เห็นความงดงามในสิ่งที่มิอาจแลเห็น รู้สึกถึงแรงฉุด กระชาก และปลุกเร้าของชีวิต รู้ถึงเวลาที่ควรก้าว เวลาที่ควรหยุด เวลาที่ควรหัวเราะ เวลาที่ควรร้องไห้ เวลาที่ควรยึดไว้ เวลาที่ควรปล่อยไป
ผู้หญิงส่วนใหญ่จากร่างไปด้วยความสง่างาม – ผู้ชายส่วนมากมักฝืนสู้
ผู้หญิงยังดูแลร่างกายของตัวเองได้ดียิ่งกว่าขณะอยู่ในร่าง – ส่วนผู้ชายดูแลร่างกายของตัวเองได้อย่างน่าสยดสยอง
ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับวิธีที่พวกเขา (ทั้งหญิงและชาย) ปฏิบัติต่อชีวิตด้วย
🔸แน่นอนว่าทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น🔸 ฉันเพียงแต่พูดถึงในภาพรวมและพูดถึงวิถีที่สิ่งต่างๆเป็นมาจนถึงตอนนี้เท่านั้น เป็นการพูดแบบกว้างที่สุด
แต่หากเธอมองชีวิตให้ดีและยอมรับกับตัวเองถึงสิ่งที่กำลังเห็นและได้เห็นมาตลอด ถ้าเธอ "ยอมรับ" สิ่งเหล่านี้ได้ เธอจะได้พบกับความจริงบางอย่างจากภาพรวมนี้
N : ฟังแล้วรู้สึกแย่ยังไงก็ไม่รู้ครับ ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งกว่า เป็นพวกที่มี "องค์ประกอบที่ถูกต้อง" มากกว่าพวกผู้ชาย
G : ส่วนหนึ่งของท่วงทำนองที่ยิ่งใหญ่ของชีวิตก็คือ 'หยินและหยาง'★ ด้านหนึ่งของ "สิ่งใดๆ" ไม่ได้ "สมบูรณ์แบบกว่า" หรือ "ดีกว่า" อีกด้าน
🔸ทั้งสองด้านเพียงเป็นเช่นนั้นเอง🔸 (ซึ่งก็เป็นอะไรที่เยี่ยมยอดทั้งคู่) นั่นคือ "มันเป็นเพียงแค่ด้านหนึ่งเท่านั้น"
★มีสัจธรรมแฝงอยู่มากมายในภาพ หยิน-หยาง นี้ ลองไปดูคลิปนี้กันครับ (เลือกซับไทยได้) อธิบายได้ดีมากๆ ดูแล้วจะเข้าใจมากขึ้นถึงสิ่งที่พระองค์กำลังอธิบายอยู่ตรงนี้ —แอดมิน—
ชัดเจนว่าผู้ชายนั้นเป็นภาพสะท้อนของความศักดิ์สิทธิ์จากอีกด้าน ซึ่งผู้หญิงเห็นแล้วต่างก็อิจฉาไม่น้อยไปกว่ากัน
ทว่าก็มีคำกล่าวไว้ว่า :
▪️การเป็นผู้ชายนั้นเป็นเหมือนดั่งสนามทดสอบหรือการทดลองของพวกเธอ
▪️เมื่อเป็นผู้ชายมายาวนานพอ
▪️เมื่อต้องทนทุกข์กับความโง่เขลาของตัวเองจนเกินพอ
▪️เมื่อโดนลงโทษด้วยความเจ็บปวดมามากพอจากความวิบัติที่ตัวเองก่อขึ้น
▪️เมื่อทำร้ายคนอื่นจนมากพอจึงได้หยุดพฤติกรรมของตน
▪️เปลี่ยนความก้าวร้าวเป็นมีเหตุผล
▪️เปลี่ยนการเหยียดหยามเป็นความกรุณา
▪️เปลี่ยนจากต้องชนะอยู่เสมอเป็นไม่มีใครต้องแพ้
 
เมื่อนั้นเอง 🔸เธอจะกลายเป็นผู้หญิง🔸
▪️เมื่อเธอได้เรียนรู้ว่าอำนาจนั้นมิใช่ "ความถูกต้อง"
▪️ความแข็งแกร่งมิได้หมายถึงการมี "อำนาจเหนือกว่า"
▪️หากแต่เป็น "อำนาจร่วมกัน" เป็นอำนาจที่แท้จริงที่จะไม่เรียกร้องอะไรจากใครโดยเด็ดขาด
เมื่อเธอเข้าใจในสิ่งนี้ เมื่อนั้นเธออาจคู่ควรที่จะใช้ร่างแห่งเพศหญิง เพราะในที่สุดเธอก็ได้เข้าใจใน🔸แก่นแท้แห่งเพศหญิง🔸แล้ว
N : ถ้าอย่างนั้นเพศหญิงหญิงก็ดีกว่าเพศชายจริงๆ
G : ไม่ใช่เลย❗ ไม่ได้ "ดีกว่า" เพียงแค่แตกต่างเท่านั้น❗
เธอตัดสินไปเอง ไม่มีสิ่งไหนหรอกที่จะ "ดีกว่า" หรือ "เลวกว่า" ในโลกความจริงทางวัตถุนี้ ✨มีแค่เพียงสิ่งที่เป็นเช่นนั้นเอง — และสิ่งที่เธอปรารถนาที่จะเป็น✨
ร้อนไม่ได้ดีไปกว่าหนาว บนไม่ได้ดีไปกว่าล่าง ประเด็นนี้ฉันได้บอกเธอไปแล้ว เพราะฉะนั้นเพศหญิงจึงไม่ได้ "ดีกว่า" เพศชาย มันแค่เป็นอย่างที่เป็น 🔹เหมือนที่เธอก็เป็นอย่างที่เป็นนั่นล่ะ🔹
อย่างไรก็ตามไม่มีใครถูกห้ามหรือถูกจำกัดมากไปกว่าใคร เธอสามารถเป็นในสิ่งที่เธอปรารถนาที่จะเป็น เลือกในสิ่งที่เธอปรารถนาที่จะมีประสบการณ์ ไม่ว่าจะในชีวิตนี้หรือชีวิตหน้าหรือชีวิตต่อไปจากนั้น ไม่ต่างจากที่เคยเป็นมาในชีวิตก่อน
✨ พวกเธอแต่ละคนมีทางเลือกเสมอ
✨ พวกเธอแต่ละคนเกิดขึ้นมาจากสิ่งอันเป็นทั้งหมดนั้น
✨ พวกเธอแต่ละคนต่างก็มีทั้งความเป็นชายและความเป็นหญิงอยู่ในตัวเอง★
✨ จงแสดงออกและมีประสบการณ์ถึงด้านนั้นของเธออย่างที่เธอพอใจจะแสดงออกและมีประสบการณ์
และได้โปรดจงรู้ไว้ว่า : 🌟พวกเธอทุกคนมีสิทธิเป็นได้ทุกอย่าง🌟
★สังเกตมั้ยครับว่า พระองค์ไม่ได้ประณามคนที่มีความผิดปรกติทางเพศเลย (พวกเราตัดสินกันไปเองว่ามันผิดปรกติ) พระองค์ไม่ได้บอกว่ามันเป็นบาปหรือมันเกิดมาจากกรรมเก่าหรืออะไรทั้งนั้น ไม่ว่าพวกเราปรารถนาที่จะมีประสบการณ์ในแบบไหนก็ตาม ได้ทั้งหมดเลย รู้สึกได้ถึงความรักอันไร้เงื่อนไขและยิ่งใหญ่ของพระองค์มั้ยครับ —แอดมิน—
N : ผมยังไม่อยากคุยประเด็นอื่น อยากคุยเรื่อง "ผู้หญิง - ผู้ชาย" ต่อไปอีกสักหน่อย พระองค์สัญญาเอาไว้ในตอนจบของเล่มแรกว่าจะลงรายละเอียดอีกมากในทุกแง่ทุกมุมของเรื่องทางเพศในโลกแห่งความเป็นคู่นี้
G : ใช่ ฉันว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะคุยเรื่องเซ็กส์กัน
(จบ)(บทที่ 6)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา