3 มี.ค. 2021 เวลา 10:05 • หนังสือ
ระหว่าง “พนักงานผู้คงเส้นคงวา” กับ “พนักงานผู้บ้าบิ่น” คุณเป็นคนประเภทไหน?
“เอ็ดดี้” ผู้คงเส้นคงวา เป็นพนักงานที่ไม่ชอบความเสี่ยง รูปลักษณ์ภายนอกดูดี
วางตัวเหมาะสม
ทำให้หัวหน้ายินดีเลื่อนตำแหน่งให้ เพราะตัวเองจะได้ดูดีไปด้วย
เขาก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว เงินเดือนปรับเพิ่มตามตำแหน่ง ไม่ใช่ตามความสามารถ
สุดท้าย เขาก็ไต่ขึ้นไปถึงระดับผู้บริหาร
เมื่อถึงเวลาแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการ “เอ็ดดี้” เป็นพนักงานที่ดีมาตลอด
แต่เขาดูทื่อเกินไป ไม่เคยสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ไม่เคยทำให้บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นเลย
ในแผนกเดียวกัน มีคนหนุ่มฝีมือดีที่ได้รับเงินเดือนแค่ 1 ใน 3 ของเขา
แถมพวกพนักงานหนุ่มสาวยังเชื่อฟังเขาอีกด้วย
สุดท้าย “เอ็ดดี้” ในวัย 40 ปี ไม่ได้ถูกเลือกให้รับตำแหน่งดังกล่าว
และพออายุ 47 ปี ก็ต้องออกจากงาน
เขาไม่สามารถก้าวไปสู่จุดสูงสุดได้
เขาร่วงลงมาและปีนกลับขึ้นไปไม่ได้
อาชีพการงานของเขาจบสิ้นลงทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเลย
...คุณคิดว่า...แล้วทำไมชีวิต “เอ็ดดี้” ถึงกลายเป็นแบบนี้?
ส่วน “เอริก้า” ผู้บ้าบิ่น ตอนยังสาว เธอแต่งตัวไม่เหมือนพนักงานบริษัทซักนิด
อาจดูขัดหูขัดตาบ้าง แต่ไฟแรง และผลิตไอเดียหลุดโลกออกมาเรื่อยๆ
บริษัทจึงยังเก็บเธอไว้
ไอเดียส่วนใหญ่ของ “เอริก้า” ถูกมองว่าทำไม่ได้จริง
ถ้าไม่สุดโต่งเกินไปก็งี่เง่าสิ้นดี
แต่ก็มักมีคนในบริษัทหยิบไอเดียอันโลดโผนของเธอไปต่อยอด
จนคนอื่นๆต้องสนใจ เพราะแตกต่างและสดใหม่
3 ปีต่อมา “เอริก้า” ยังคงผลิตไอเดียที่นำไปใช้ไม่ได้ออกมาเรื่อยๆ
เธอดูขัดหูขัดตามากขึ้นทุกที จนถูกไล่ออกในที่สุด
แต่น่าแปลกที่เธอหางานใหม่ได้ไม่ยากเลย
เพราะมีคนมากมายที่ยังจำไอเดียดีๆของเธอเมื่อ 3 ปีก่อนได้
การจ้าง “เอริก้า” ช่วยให้บริษัทแห่งใหม่มีสีสันเพิ่มด้วย
แต่แล้วประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอย เธอถูกไล่ออก!!!
แต่ตอนนี้เธอมีผลงาน 2 ชิ้น ที่ทำให้ทุกคนจำเธอได้
ชีวิตของเธอเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงแบบนี้มาตลอด
แม้ว่าขาลงจะบ่อยกว่าก็เถอะ
พอ “เอริก้า” อายุ 40 ปี เธอก็มีประวัติผลงานที่ยอดเยี่ยม
กลายเป็นคนที่ใครๆก็ให้ความนับถือ
ยังคงเป็น “เอริก้า” ผู้บ้าบิ่นคนเดิม แต่เนื้อหอมสุดๆในวงการ
...เพราะเธอไม่ทำตามใคร
คิดตรงกันข้าม
จากเรื่องเล่านี้ คุณอยากมีชีวิตแบบ “เอ็ดดี้” หรือ “เอริก้า”
คุณอาจคิดว่า การใช้ชีวิตที่คงเส้นคงวา ตามวิถีทางที่ควรจะเป็น
เป็นมุมมองที่ดีอยู่แล้ว
แต่ปัญหาคือ คุณคิดถูกเกินไป และทุกคนก็มักจะคิดเหมือนคุณหมด
อยากชวนอ่านหนังสือ “ไม่ว่าจะคิดอะไร ให้คิดตรงกันข้าม”
“Whatever You Think, Think the Opposite”
ที่รวบรวมความคิดที่ดู “ผิด” ในสายตาคนส่วนใหญ่
แต่กลายเป็นความสำเร็จระดับโลก
จะเริ่มเห็นประโยชน์ของการตัดสินใจ “แย่ๆ” และความคิดที่ไร้เหตุผลมากขึ้น
ลองคิดกลับด้านและทำในสิ่งที่ไม่เคยทำดูบ้าง
คุณอาจจะโดดเด่นกว่าคนอื่น และมองเห็นโอกาสดีๆในแบบที่ไม่มีใครเห็นอีกด้วย!
รายละเอียดหนังสือ
“ไม่ว่าจะคิดอะไร ให้คิดตรงกันข้าม”
มีภาพสีประกอบเรื่องเล่าสั้นๆ ให้ได้คิด อ่านแล้วคุณอาจจะได้ไอเดียใหม่ๆติดไปด้วย
สำนักพิมพ์วีเลิร์น
เขียนโดย พอล อาร์เดน (Paul Arden) ผู้ซึ่งเคยถูกไล่ออกถึง 5 ครั้ง
เพราะคิดต่างจากคนอื่น กล้าที่จะคิดตรงกันข้ามและทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ
จนกลายเป็นตำนานในฐานะครีเอทีฟมือฉมังของบริษัทโฆษณาชื่อดัง
อย่าง “Saatchi & Saatchi”
แปลโดย อรณี อรุณีกุล
144 หน้า ราคาปก 170 บาท
สามารถติดตามเราได้ที่ https://www.blockdit.com/mymemoriesreviews
My Memories Reviews ep.165
3/3/2021
#MyMemoriesReviews
#เรื่องน่าจำนำมาเล่า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา