'Passengers' & 'Baby driver' ตัวอย่างของหนังรัก ๒ เรื่อง ๒ แนว
ที่กว่าจะแสดงตัวตนให้รู้ว่า
แท้ที่จริง คือหนังรัก ก็กลับทำเอาผู้ชม หลงประเด็นไปซะไกล นึกว่าเป็นหนังแนวอื่น ไปซะงั้น ⏰💗🌈
ที่ชัดๆ เลย คือเรื่องแรกค่ะ เพราะเท่าที่ผ่านตา
'Passengers' ค่อนข้างจะเจอะคำวิจารณ์ด้านลบ ในแง่ที่ว่า ...
เป็นหนังไซ~ไฟ ที่ตอนท้ายหลงประเด็น กลับนำเสนอแต่ด้านของความรักของพระ ~ นางทั้งคู่
ก็แหง๋ล่ะสิ..! ดิชั้นแอบเถียงในใจ
ก็เรื่องนี้ แท้จริงเป็นหนังรักล้วนๆ ที่มาในหีบห่อของหนังวิทยาศาสตร์ ~ โลกอนาคต 🦋🧭🚀
ส่วน 'Baby driver' ก็เช่นกันค่ะ เรื่องนี้ถ้าจะถามไป ใครๆ ก็คงตอบ แนวแอ้คชั่นทริลเลอร์ชัดๆ
แต่สำหรับดิชั้น นั่นแค่การนำเสนอในรูปแบบภายนอก เนื้อแท้ กลับเป็นหนังรักโรแมนติกต่ะหากล่ะค่ะ
แถมแกนแก่นของความรักทั้ง ๒ เรื่อง ก็ยังเหมือนกันอีก ตรงที่ ได้เจอะกับรักที่ใช่ ในเวลาที่ ( โคตรจะ ) ไร้ความพอดีอย่างสุดๆ
pix. credit ; Gg image
และเรื่องของเวลา ที่ผิดพลาดอย่างที่สุด เห็นได้ชัดๆ จาก 'Passengers' ค่ะ
ที่พระ ~ นางทั้งคู่ กลับตกหลุมรักซึ่งกัน ก่อนเวลาอันควร ถึง ๙สิบปีทีเดียวล่ะค่ะ 🎈☘⏳
( แต่ ๙สิบปีที่ว่า พออยู่ในอวกาศ กับการเดินทางด้วยความเร็วเป็นปีแสง บิ๊กแฟนตัวยงหนัง 'Interstellar' เช่นดิชั้นยังมึนตึ้บ ว่านับเวลากันยังไง ( ฟร้ะ?! ))
( วงเล็บจะเยอะไปไหน?!? ) แอบงงตัวเองแปร๊บ แฮร่ร์
ก็เท่ารู้มา ที่ความเร็วสูงกลางห้วงอวกาศ ปรมาจารย์ท่านบอกว่า 'เวลา' ยืดหดกันได้
เอ่ออ.. ดิชั้นว่า เราละประเด็น เรื่องเวลา ยืดๆ หดๆ ได้กันก่อนค่ะ ⏰🌸🎁
เอาเป็นว่า พระเอกเกิดแอ๊คซิเดนท์ ที่ต้องตื่นจากแคปซูลกลางยานลำเลียง
ก่อนเวลาที่ใกล้จะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ของดาวอาณานิคม ล่วงหน้าถึง ๙สิบปี ด้วยความผิดพลาดทางเทคนิคของแคปซูลจำศีลของตนเอง
และเรื่องมาวุ่น ก็เพราะฮีดันแอบตกหลุมรักอีก ๑สาวสวยในแคปซูลจำศีล อย่างที่ไม่ว่าจะถอนอย่างมากเท่าไร ตัวก็ยังกลับจะจมไปในหลุมลึกแห่งรัก งู้ยย์ ( เขียนเองเขินเอง อิอิ ) 💝🥰🎶
ไม่เล่าต่อล่ะค่ะ เพื่อนๆ เอาเป็นว่า ทั้งคู่อินเลิฟกันก่อนเวลาอันเหมาะสมอย่างที่ว่าไว้น่ะค่ะ
และด้วยการนำเสนอภาพห้วงอวกาศแสนอลังการที่มีให้ชมตลอดทั้งเรื่อง จุดนี้ คือ อะไรที่ว้าวมากๆ สำหรับดิชั้น
และที่ชอบสุด คือ ตอนเหตุการณ์ยานลำเลียงขนาดใหญ่ขัดข้องจนสูญเสียแรงโน้มถ่วงกลางคัน ขณะที่นางเอกกำลังว่ายน้ำกลางสระ ซีนนี้ทำได้ดีมากมาย ชอบอีกล่ะค่ะ 🤗🚀🌊
แต่โดยสรุป ชอบซีนจบเป็นที่สุด แต่ไม่บอกดีกว่าอ่ะค่ะ ว่าเพราะอะไร ขออุบเอาไว้ ให้เพื่อนๆ ลองไปชมเอง อิอิ
ขอตัดกลับมาที่อีกเรื่อง ๑ ค่ะ
'เบบี้' เรื่องนี้ดิชั้นบอกเลย ว่านำเสนอได้ปังหัวใจ แก่คนที่หลงรักในเสียงเพลงอย่างสุดๆ เรื่อง๑ เลยล่ะค่ะ
ด้วยหลายฉากหลายตอน ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ แค่ใช้ภาพเล่าเรื่อง ประกอบด้วยเสียงเพลงมันส์ๆ ที่ตามพล็อตนั้น คือ เพลงจากไอพอดที่พระเอกฟังอยู่แทบจะตลอดเวลา มาเป็นองค์ประกอบดำเนินเรื่อง 🧭🦋⏰
และสาเหตุที่พระเอกพูดเพียงน้อยๆ แต่ฟัง ( เพลง ) หนัก ( มว้าาก )
หนังก็มาเฉลยได้ดี ด้วยซีนที่สะเทือนอารมณ์ทั้งพระเอกและคนดู ในช่วงกลางๆ ของเรื่อง
ส่วนตัวแล้ว สำหรับเรื่อง 'เบบี้'ดิชั้นชื่นชมผู้รับบทนำทุกคนเลยล่ะค่ะ
ที่ต่างทำหน้าที่ได้ดี จนเราอินตามไปด้วยกับอารมณ์รัก ~ โลภ ~ โกรธ ~ หลง ของทุกๆ คน 💕🍹🎉
ทั้งคุณ 'เควิน สเปซี่' & พี่ 'เจมี่ ฟ้อกซ์'
ส่วนพระเอกนั้น เดิมคุ้นหน้ากัน ในบทบาทพี่ชายผู้อ่อนแอ ของน้อง'ทริซ' จาก 'Divergence'
สำหรับเรื่องนี้ ถือว่า น้องพระเอกแสดงอารมณ์ได้ดีมากๆ ตลอดทั้งเรื่อง ยกให้สอบผ่านสบายๆ ไปเลยกับบทนำบทนี้
ส่วนน้องนางเอก 'ลิลี่ เจมส์' ก็ไม่แพ้กันเลยค่ะ เรื่องนี้น้องโดดเด่นมากๆ ในความสดใส & 'น่ารัก' และก็ 'น่า'ที่จะให้พระเอกหลง 'รัก' 💗🤩💟
และที่ว่าไว้ ในเรื่องของ 'เวลา' อันไม่เหมาะสม ก็เพราะทั้งคู่ดันมาอินเลิฟกัน ในช่วงเวลาที่ 'เบบี้' ( รึว่า ตัวพระเอก ) กำลังหนีหัวซุกหัวซุน จากทั้งตำรวจ และฆาตกรจอมโหดพอดีน่ะค่ะ
สรุปว่า 'เบบี้' นี่ ดิชั้นชอบในการเล่าเรื่องด้วยเพลงและภาพ ชอบดารานำ และ ชอบพล้อตที่สอนใจได้ตลอดทั้งเรื่อง แม้ภาพที่นำเสนอจะดุเดือดเลือดกระเซ็นมากไปหน่อย ก็เถอะค่ะ
แถมยังเป็นหนังกล่องด้วยนะคะ ทั้งเข้าชิง & กวาดรางวัลมาด้วยล่ะค่ะ
เห็นทั้งบู๊สะบั้น & ยิงถล่มทั้งเรื่องซะงี้ ก็เหอะ 😅🚀🎯
เป็นไงบ้างคะ รีวิวหนังรัก ๒ เรื่อง ๒ รส ในบทความเดียว สำหรับเพจ 'เจ้าปัญหา' ที่เวลามีน้อยซ์ จึงตัองใช้สอยอย่างประหยัด อิอิ 🍭🕊😊
แล้วค่อยหาเรื่องมาเล่า & เม้าท์มอยกันอีกนะคะ เพื่อนๆ
c U next time kaa... 🤗💝
- 7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
