10 มี.ค. 2021 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
“การโจรกรรมเพชรที่แอนต์เวิร์ป (Antwerp diamond heist)” การโจรกรรมเพชรครั้งใหญ่ที่สุดของโลก
ย่านการค้าเพชรในแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม เป็นแหล่งค้าเพชรรายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก
สถานที่นี้มีเพชร ทองคำ และทรัพย์สมบัติมากมายนับพันล้าน เป็นที่หมายตาของเหล่ามิจฉาชีพ ระบบความปลอดภัยจึงต้องเข้มงวดตามไปด้วย
การจะเข้าไปในตึกใหญ่ซึ่งเก็บเพชรนั้น ต้องผ่านระบบการตรวจรักษาความปลอดภัยกว่า 10 ด่าน ตั้งแต่การตรวจด้วยระบบอินฟราเรด ตรวจสอบสนามแม่เหล็ก ห้องนิรภัยที่ล็อกอัตโนมัติ ทำให้การเข้ามาของมิจฉาชีพแทบจะเป็นไปไม่ได้
หากแต่มีกลุ่มโจรชาวอิตาลีกลุ่มหนึ่ง นำโดย “ลีโอนาร์โด โนทาร์บาโทโล (Leonardo Notarbatolo)” คิดจะเข้าไปขโมยเพชร
3
ลีโอนาร์โด โนทาร์บาโทโล (Leonardo Notarbatolo)
ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2003 (พ.ศ.2546) โจรกลุ่มนี้สามารถเข้าไปในตึกที่เก็บเพชร และทำการโจรกรรมเพชรครั้งประวัติศาสตร์ สามารถขโมยเพชรไปได้เป็นจำนวนกว่า 100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,000 ล้านบาท) และจนถึงทุกวันนี้ เพชรที่ถูกขโมยไปก็ยังได้คืนกลับมาไม่ครบ
โนทาร์บาโทโลซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรปล้นเพชร ได้เปิดเผยในภายหลังว่าตั้งแต่อายุได้เพียงหกขวบ เขาก็เริ่มลักเล็กขโมยน้อย และในปีค.ศ.2000 (พ.ศ.2543) เขาก็ได้ทำการเช่าที่พักแถบย่านการค้าเพชร และวางแผนโจรกรรมครั้งประวัติศาสตร์
ตำรวจเชื่อว่าเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนการโจรกรรมเพชร หากแต่โนทาร์บาโทโลกลับให้การตรงกันข้าม
โนทาร์บาโทโลให้การว่า วันหนึ่งขณะที่เขากำลังขายสินค้าที่ขโมยมาให้ดีลเลอร์ขาประจำรายหนึ่ง ดีลเลอร์ที่เขาค้าขายด้วยก็ได้บอกกับเขาว่า เขารู้ว่าโนทาร์บาโทโลนั้นรู้ทางหนีทีไล่ย่านการค้าเพชรเป็นอย่างดี หากเขาสามารถแอบถ่ายภาพระบบรักษาความปลอดภัยภายในตึกได้ โนทาร์บาโทโลจะได้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 100,000 ยูโร (ประมาณ 360,000 บาท)
โนทาร์บาโทโลตอบรับงานนี้ และได้แอบถ่ายภาพด้านในของแหล่งค้าเพชรด้วยกล้องที่ซ่อนไว้ในปากกา และการโจรกรรมนี้เป็นฝีมือการวางแผนของโนบาร์โทโล หรือว่าเขาเพียงแค่โจรรับจ้าง ก็ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
แต่อย่างไรก็ตาม โนทาร์บาโทโลและพรรคพวกก็สามารถเจาะเข้าไปในตึกที่เก็บเพชรจำนวนมาก และรอดพ้นจากระบบรักษาความปลอดภัยได้สำเร็จ ซึ่งแม้แต่ตำรวจก็ตอบไม่ได้ว่าพวกเขาทำได้อย่างไร
และอันที่จริง พวกเขาน่าจะรอดเงื้อมมือตำรวจไปได้แล้ว หากไม่ใช่เพราะหนึ่งในสมาชิกแก๊งที่เป็นที่รู้จักในชื่อของ “สปีดี้ (Speedy)”
สปีดี้นั้นเป็นเพื่อนวัยเด็กของโนทาร์บาโทโล ทำให้เขาสามารถเข้าร่วมกลุ่มโจรกรรมนี้ได้ ถึงแม้ว่าสมาชิกคนอื่นๆ จะไม่ค่อยแน่ใจในตัวเขานักก็ตาม
ขณะลงมือโจรกรรม สมาชิกคนอื่นๆ ก็รับหน้าที่ขนย้ายเพชร ส่วนโนทาร์บาโทโลและสปีดี้ก็ต้องเร่งทำลายหลักฐานทุกอย่างที่จะสาวมาถึงตัวพวกตนได้
3
ขณะกำลังหาที่ๆ จะทำลายหลักฐาน สปีดี้เกิดกลัวจนสติแตกและบอกให้โนทาร์บาโทโลจอดรถ ก่อนที่จะโยนหลักฐานต่างๆ ทิ้งเข้าไปในป่าข้างทาง
โนทาร์บาโทโลนั้นวางแผนว่าจะนำหลักฐานไปทำลายที่ฝรั่งเศส แต่ในเมื่อเป็นอย่างนี้ก็ช่วยไม่ได้ ต้องเลยตามเลย
แต่ทั้งคู่ไม่ทราบเลยว่าบริเวณที่ตนเอาหลักฐานมาโยนทิ้ง เป็นที่ๆ มีเจ้าของ และเมื่อเจ้าของมาเห็นขยะมากมายที่ถูกนำมาทิ้งในที่ดินของตน ก็ได้ทำการแจ้งตำรวจ
1
เมื่อตำรวจมาตรวจสอบ ก็พบใบเสร็จค่าสิ่งของต่างๆ ที่กลุ่มโจรไปซื้อมาเพื่อใช้โจรกรรม และหลักฐานต่างๆ ซึ่งมากพอจะจับโนทาร์บาโทโล
สุดท้าย โนทาร์บาโทโลและพรรคพวกก็ถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 5-10 ปี ทิ้งไว้ซึ่งตำนานการโจรกรรมเพชรครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของโลก
โฆษณา