13 มี.ค. 2021 เวลา 09:30 • ประวัติศาสตร์
"สมัคร สุนทรเวช" นายกรัฐมณตรีที่มีฝีปากที่เด็ดและกล้าหาญ
สมัคร สุนทรเวช
สมัคร ท่านเป็นนายกรัฐมณตรีที่หลายคนก็ต้องรู้จักท่านในนาม "ลุงหมัก" "ชมพู่"(ลักษณะจมูก) หรือพิธีกรรายการชิงไปบ่นไปหรือหกโมงโขยงเช้า
ซึ่งใน"Blockdit"ยังคงไม่ค่อยมีผู้ใดเขียนบทความถึงท่านสมัคร แต่ท่านสมัครก็มีความสำคัญในแวดวงทางการเมือง เคยเป็นทั้ง สส. สว. รัฐมณตรีฯ และนายกรัฐมณตรีคนที่ 25 ของไทย และนายสมัครก็ยังถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ท่านพ้นจากนายกฯเนื่องจากเป็น(ลูกจ้าง)ตามใน"พจนานุกรม"!!!
นายสมัครผู้นี้มักมีวาทะที่ฝีปากที่เด็ด เผ็ด มันส์ และท่านเป็นคนช่างกล้าพูดกล้าแสดงออก และเป็นต้นตำรับคำศัพท์ทางการเมืองที่เรียกผู้ที่แปรพักตร์จากฝ่ายตัวเองไปอยู่ฝ่ายตรงข้ามว่า "งูเห่า"
และหากสังเกตดีๆ สมัครจะชอบพับกระดาษเป็นรูปนก เวลายามว่างอยู่เสมอ
นายสมัครตามประวัติของท่าน เป็นนิสิตนักศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในหนังสือการเมืองเรื่องตัณหาก็ได้พูดถึงว่า ท่านเคยเขียนคอลัมนิสต์วิพากษ์วิจารณ์จนอาจารย์ในมหาวิทยาลัยไม่พอใจ แสดงทุกอย่างในการต่อต้านความคิดเห็นของนายสมัคร และสมัครยังเคยแอบทำป้ายประท้วงแล้วไปติดทั่วมหาวิทยาลัย จนกลายเป็นข่าวคึกโครมในสมัยนั้น
จากนั้นท่านก็เป็นนักเขียนคอลัมนิสต์แบบไม่ประจำ ทั้ง สยามรัฐ มุมน้ำเงิน ฯลฯ
สมัคร เข้าวงการการเมืองคือเป็น สส.พรรคประชาธิปัตย์ ปี 2511 และมีบทบาทสำคัญในช่วงการชุมนุมตุลา 19 โดยเป็นนักจัดรายการวิทยุยานเกราะหรือ สายสื่อของเหล่าทหาร เพื่อปลุกระดมประชาชนเกลียดชังนักศึกษาที่พยายามต่อต้าน
หลังจากตุลา 19 สมัครก็เป็น รมว.มหาดไทยและลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์และตั้งพรรคประชากรไทยขึ้นมาโดยมีตนเป็นหัวหน้าพรรค
บทบาทของสมัครจะมีความโดดเด่นจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 และการปราศรัยโจมตีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ และการกล่าวปราศรัยจับผิดพวกนักการเมืองที่ทุจริตด้วยทีท่าประจำของเขาและโดดเด่น
หลังจากนั้น นายสมัครได้แข่งขันการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ และได้รับเลือกตั้ง พ.ศ.2543 ด้วยคะแนเสียง 1,016,096 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนเสียงมากที่สุด นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ โดยอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ระหว่างพ.ศ. 2543-2547 นับเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพฯคนที่ 13 และเป็นคนที่ 5 ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ต้องพ้นตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ในคดีเรื่องการทุจริตกรณีจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง
สมัคร ตอนเป็นวัยหนุ่ม
ในปี 2549 รัฐบาลพรรคไทยรักไทยของทักษิณที่เป็นนายกฯก็ถูกรัฐประหารเสียก่อน ในช่วงรัฐประหารก็มีพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกพลางก่อน ก่อนที่จะจัดการเลือกตั้งและสมาชิกอดีตไทยรักไทยก็ตั้งพรรคการเมืองใหม่ชื่อว่า "พลังประชาชน" ซึ่งก็มีข่าวลือแพร่มาว่า ทักษิณได้โทรศัพท์ทาบทามสมัครมาเป็นหัวหน้าพรรค จึงทำให้หลายคนคิดว่า สมัครคือ"นอมินี"ทักษิณ
เมื่อพรรคพลังประชาชนชนะ ก็มีการคัดเลือกนายกฯและในที่สุด ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปีทางการเมืองของสมัคร ก็ได้เป็นนายกรัฐมณตรีซักทีนึง
สมัคร(นายกฯ) พร้อมคณะรัฐมณตรี
แต่แล้วเมื่อท่านได้ไปเป็นพิธีกรรายการต่างๆจนมีการฟ้องร้องว่าขัดกับรัฐธรรมนูญว่าด้วยคุณสมบัตินายกรัฐมณตรี จึงมีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
รายการที่ท่านจัดมีชื่อว่า "ชิมไปบ่นไป" คือเป็นรายการโทรทัศน์ประเภทการทำอาหาร ไปสถานที่ต่างๆเพื่อทำอาหารแจกจ่ายและสร้างบรรยากาศให้ตลาดคึกคัก(กระตุ้นเศรษฐกิจนั่นแหละ) ซึ่งดำเนินรายการโดย สมัคร สุนทรเวช โดยออกอากาศครั้งแรกทางไอทีวี
ในวันที่ 9 ก.ย.51 นายชัช ชลวร ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมคณะได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในกรณีที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความสิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 267 ประกอบมาตรา 182(7) เนื่องจากรับเป็นพิธีกรกิตติมศักดิ์ ของรายการ “ชิมไปบ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า” ซึ่งคณะตุลาการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง เห็นว่านายสมัครกระทำต้องห้ามขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 267 เรื่องคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี จึงทำให้นายสมัครสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรีลง แต่ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการไปจนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ซึ่งก็มี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯมาเป็นนายกรัฐมณตรีคนต่อไปแทนก่อนมีการเลือกตั้งอีกครั้ง
สมชาย วงศ์สวัสดิ์
หลังจากที่สมัครถูกตัดสินจึงต้องออกจากนายกฯ แต่ก็มีการประชุมสภาให้นายสมัครมาเป็นนายกอีกครั้ง แต่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคฝ่ายค้านต่างอยากสนับสนุนอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมณตรีแทน แต่คะแนนก็เสียไป เมื่อกลุ่มเนวิน(ภูมิใจไทย)ได้ไปสนับสุนฝ่ายค้านทำให้คะแนนเสียงไม่พอ นายสมัครจึงยุติทางการเมืองทันที ส่วนสมชายก็เป็นนายกฯต่อไป
สมัคร ก็ได้ใช้เวลาพักผ่อนแต่แล้วเมื่อท่านชราลงอาการเจ็บป่วยก็ถามหา ท่านไปตรวจและพบว่าเป็นมะเร็งตับจึงทำการรักษาซักระยะและได้ไปรักษาที่สหรัฐอเมริกาและกลับไทยเหมือนเดิม แต่ด้วยอาการทรุดหนัก สมัครจึงต้องจากไปอย่างสงบ เมื่อวันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 สิริอายุได้ 74 ปี
ซึ่งในวันเดียวกันก็มีเรื่องประหลาดในสภาเกิดขึ้น เมื่อระหว่างประธานสภาฯแจ้งข่าวการจากไปของท่าน ซักครู่ก็มีภาพลึกลับเป็นภาพสมัครกำลังยกมือไหว้ เสมือนอำลาต่อสภาและประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคกล่าวว่าไม่มีการใส่รูปนี้หรือตัดต่อแต่อย่างใด
สว.สะดุ้ง!!... ภาพ "สมัคร" ยกมือไหว้โผล่กลางสภา
นี่ก็คือเรื่องราวโดยสังเขปของ สมัคร สุนทรเวช ผู้เป็นนายกรัฐมณตรีอีกคนนึงที่ประวัติศาสตร์การเมืองไทยคงไม่ลืมบุคคลท่านนี้ต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา