Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Play Now Thailand
•
ติดตาม
17 มี.ค. 2021 เวลา 11:00 • กีฬา
TIMEOUT
Eddie the Eagle (2015) - อินทรีบินต่ำ
โดย ธ.เจริญมิตร
*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์
3
บทหนังเรื่องนี้เขียนขึ้นโดยอ้างอิงจากเหตุการณ์จริงหลายส่วน บุคคลจริงหลายคน เรื่องราวประวัติศาสตร์ในวันนั้นถูกนำมาตกแต่งเพิ่มด้วยจินตนาการอีกเล็กน้อยเพื่อเสริมอรรถรสในการชม ให้ผู้ชมได้ย้อนกลับไปเอาใจช่วยนกอินทรีเอ็ดดี้กันอีกครั้ง
เมื่อได้อ่านหนังสือภาพกีฬา “ห้วงแห่งความรุ่งโรจน์” (Moment of Glory) ด.ช. ไมเคิล “เอ็ดดี้” เอ็ดเวิร์ดส์ ก็ใฝ่ฝันจะได้เป็นนักกีฬาโอลิมปิกตั้งแต่นั้นมา เขาฝึกกลั้นหายใจใต้น้ำ วิ่งข้ามรั้ว ยกน้ำหนัก กระโดดค้ำถ่อ พุ่งแหลน ทุ่มน้ำหนักและอื่นๆ แว่นสายตาสั้นหนาเตอะที่สวมอยู่แตกหักจนต้องเปลี่ยนอันแล้วอันเล่า คุณแม่เขายังคอยสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่คุณพ่อนักฉาบปูนมือฉมังบอกว่าให้ล้มเลิกเสียเถอะ “แกไม่ใช่นักกีฬา” มาหัดทำงานฉาบปูนเสียดีกว่าเดี๋ยวพ่อจะสอนให้อย่างดี
เอ็ดดี้ (ทารอน เอ็ดเกอร์ตัน) ไปฝึกงานกับพ่ออยู่ไม่นานก็ได้รับแรงบันดาลใจใหม่อีกหน ไหนๆ ก็ไม่ได้ไปโอลิมปิกฤดูร้อนแล้ว เขาจะไปเป็นนักกีฬาสกีลงเนิน ขอไปแข่งช่วงฤดูหนาวแทนก็แล้วกัน เอ็ดดี้ไปลองฝึกซ้อมกับทีมอยู่พักใหญ่ก็โดนคัดชื่อออกด้วยทักษะกีฬาอันย่ำแย่ และผลงานรั้งท้ายตลอดเวลา แต่เสียใจได้ไม่เท่าไร เขาก็เปลี่ยนเป้าหมายอีกรอบหนึ่งจะไปเป็นนักสกีกระโดดไกล เพราะได้รู้ว่ากีฬานี้บนเกาะอังกฤษไม่ค่อยมีใครเล่น ทั้งยังไม่ได้ส่งนักกีฬาประเภทนี้มาตั้งแต่ปี 1928 แล้ว ความหวังของเอ็ดดี้จึงเรืองรองขึ้นมาอีกครั้ง
2
ที่เมืองการ์มิสช์-พาร์เทนเคอเชน (Garmisch-Partenkirchen) แคว้นบาวาเรีย ในเยอรมนี นักกีฬาชื่อเสียงโด่งดังหลายคนรวมตัวฝึกซ้อมกันอยู่ ณ สกีรีสอร์ท เอ็ดดี้จึงพาตัวเองไปฝึกฝนที่นั่นด้วย เขาได้พบ มัตตี นือแกเน็น (Matti Nykänen - The Flying Finn) แชมป์โอลิมปิกคนล่าสุด นอกจากนี้ยังพบ บรอนสัน เพียรี (ฮิว แจ็คแมน) อดีตนักกีฬาขี้เมาที่ไปไม่ถึงฝันมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น เอ็ดดี้ตื๊อเขามาช่วยเป็นโค้ชให้ เพียรีไม่สนใจทว่าต้องยอมใจอ่อนเมื่อเห็นความมุ่งมั่น และร่างตันๆ อันสะบักสะบอมของเจ้าหนุ่มบริติช
ในที่สุดเขาก็ผ่านเกณฑ์คัดเลือกขั้นต่ำอย่างเฉียดฉิว ได้เป็นตัวแทนของอังกฤษเข้าแข่งโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งที่ 15 ปี 1988 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองคัลการี ประเทศแคนาดา สถิติของเอ็ดดี้ห่างชั้นกับผู้เล่นระดับนำสุดกู่ และพ่ายแพ้ไปตามคาดหมาย ทว่าความเป็นมนุษย์สามัญธรรมดา กับท่าทีติดดินจับใจผู้ชมทั่วสนาม ผู้บรรยายตั้งสมญาให้เขาว่าอินทรีเอ็ดดี้ (Eddie The Eagle) จากท่าดีใจสุดขีดในวันนั้น สื่อมวลชนรายงานข้อมูลของเขาแบบเจาะลึกจนโด่งดังทั่วอังกฤษ ในเวลาต่อมาเขาตัดสินใจลงแข่งขันกระโดดที่ความสูง 90 เมตรเพิ่มอีกหนึ่งรายการ แม้จะลงสู่พื้นได้อย่างปลอดภัย แต่ก็พ่ายยับเยินเช่นเคย
อย่างไรก็ตามเอ็ดดี้ครองสถิติสกีกระโดดไกลของอังกกฤษตั้งแต่ปี 1988 ถึง 2001 ที่ความสูง 70 เมตร เขากระโดดได้ 61 เมตร และที่ความสูง 90 เมตร เขากระโดดไกล 71 เมตร ปีต่อมาคณะกรรมการโอลิมปิกสากลลงมติเปลี่ยนแปลงเกณฑ์คัดเลือกขั้นต่ำให้ผู้แข่งขันรอบสุดท้ายจะต้องมีสถิติติด 1 ใน 50 อันดับแรก หรืออย่างน้อยคิดเป็น 30% แรกของนักกีฬานั้นๆ ทั่วโลก ซึ่งกฎนี้มีชื่อเรียกกันเล่นๆ ว่า Eddie the Eagle Rule ส่งผลให้เจ้าของเคสอดเข้าร่วมแข่งขันที่ฝรั่งเศสปี 1992 ที่นอร์เวย์ปี 1994 และครั้งสุดท้ายที่ญี่ปุ่นปี 1998 เพราะเขาไม่เคยผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำอีกเลย
1
มีฉากหนึ่งที่น่าประทับใจในหนัง คือฉากที่ มัตตี นือแกเน็น คุยกับเอ็ดดี้ขณะขึ้นลิฟต์ไปด้วยกันว่า “นายกับเราก็เหมือนเวลาบ่ายโมงกับสิบเอ็ดโมง นายก็รู้อยู่แหละว่ามันใกล้กันมากๆ เรื่องจะชนะหรือแพ้นั้นก็แค่เรื่องของคนดาดๆ จะสนใจ นักกีฬาอย่างเรากระโดดออกไปเพื่อปล่อยวิญญาณให้เป็นอิสระ ตอนนี้ก็เหลือเพียงเราสองคนแล้วที่จะสร้างประวัติศาสตร์ได้ ถ้าไม่ตั้งใจทำให้ดีที่สุด...โดยเฉพาะต่อหน้าคนดูทั้งโลกแบบนี้...มันจะค้างคาอยู่ข้างในใจตลอดไป และค่อยๆ ฆ่าเราไปเรื่อยๆ” เอ็ดดี้ยิ้มรับแล้วตอบกลับไปแค่ “โชคดีนะ มัตตี” ...คนหนึ่งเก่งที่สุดกับอีกคนหนึ่งธรรมดาที่สุด กลับต้องการสิ่งเดียวกัน อยากพุ่งทะยานออกไปเพื่อปลดปล่อยตัวเองจากทุกพันธนาการ ลอยละล่องไปในอากาศเย็นยะเยือกชั่วขณะ จิตใจสัมผัสเจตจำนงเสรี เป็นห้วงแห่งความรุ่งโรจน์จนกระทั่งเท้าแตะพื้น แล้วห้วงเวลานั้นจึงค่อยสิ้นสุดลง
โอลิมปิกเป็นมหกรรมกีฬาอันยิ่งใหญ่ของโลก นักกีฬาแต่ละคนอดทนฟันฝ่าอุปสรรค ฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรง บ่มเพาะจิตใจจนแข็งแกร่ง มุมานะพัฒนาตนให้พ้นขีดจำกัดเดิม จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี เพื่อเข้าร่วมชิงชัยในห้วงเวลาสั้นๆ หลักชั่วโมง หลักนาที หลักวินาที และวัดกันที่เสี้ยววินาทีเดียว ใน”ห้วงแห่งความรุ่งโรจน์” เท่านั้นเอง
2
นักกีฬาชั้นดีมักมีคนคอยสนับสนุน มีทุนคอยเสนอเพื่อให้เป็นตัวแทนไปสร้างสถิติใหม่ๆ รับรอยยิ้มกับคำชื่นชมจากผู้คนรายรอบ ขณะที่นักกีฬาฝีมือไม่ถึงขั้น แทบไม่มีใครมาเหลียวแล ต้องระดมทุนสร้างบันไดทีละขั้นด้วยตัวเอง เดินก้มหน้าผ่านคำเยาะเย้ยถากถางรายวัน
ยังมีคนที่รักในกีฬาอย่างสุดหัวใจ เขาไม่ใส่ใจว่าต้องใช้ทรัพยากรมากขนาดไหน ไม่รู้ว่าระดับศักยภาพของตัวเองไม่มีโอกาสชนะใครอื่นแม้แต่นิดเดียว เอาแต่จดจ้องที่เป้าหมาย แถมไม่สนใจคำดูแคลนใดๆ เลยด้วย เขาต้องการมีส่วนร่วมและต้องการชนะแค่ตนเองเท่านั้น ถึงแม้เป็นผู้พ่ายแพ้ในการแข่งขันซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เขากลับสามารถเปิดโลกกีฬาให้กว้างขวางกว่าสถิติโลกใหม่หรือเหรียญรางวัลใดๆ ส่งแรงบันดาลใจพุ่งตรงไปสู่แฟนๆ และผู้ด้อยโอกาสทั่วโลกได้สัมฤทธิ์ผล ผู้ชมทั้งหลายยอมศิโรราบให้แก่หัวใจอันยิ่งใหญ่ของนกอินทรีตัวน้อยที่บินไม่ขึ้นตัวนี้
.
ปิแอร์ เดอ คูเบอร์แต็ง ผู้ริเริ่มกีฬาโอลิมปิกสากลเมื่อปี 1896 ได้กล่าวไว้ว่า
“สาระสำคัญในกีฬาโอลิมปิก มิใช่ชัยชนะ แต่คือการเข้าร่วม สาระสำคัญในชีวิต มิใช่ประสบผลสำเร็จ แต่คือการดิ้นรนต่อสู้”
(The important thing in the Olympic games is not winning but taking part. The important thing in life is not the triumph but the struggle.)
1
#EddietheEagle #MomentofGlory #ปิแอร์เดอคูเบอร์แต็ง #TIMEOUT #โอลิมปิก #เล่นเป็นเรื่อง #PlayNowThailand
4 บันทึก
14
4
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
TIMEOUT: ดูหนังดูละครย้อนดูตัว
4
14
4
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย