17 มี.ค. 2021 เวลา 12:20 • การศึกษา
“การสอนเพศศึกษาและการป้องกันการคุกคามทางเพศ”
เพศศึกษาไม่ได้มีแค่เรื่องเพศสัมพันธ์ การคุมกำเนิด และการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และไม่ใช่เรื่องของผู้ใหญ่เท่านั้น แต่เพศศึกษาเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ในทุกช่วงวัย โดยในแต่ละช่วงวัยจะต้องเรียนรู้สิ่งที่เหมือนกันซ้ำ ๆ วนไป และก็มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้แตกต่างกันด้วย
สิ่งหนึ่งที่ต้องมีการเรียนรู้ซ้ำ ๆ ตั้งแต่อนุบาลยันชราภาพ คือ สิทธิเสรีภาพและความเป็นส่วนตัวในร่างกายของตนเองและของผู้อื่น ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ว่าเรามีความยินยอมในร่างกายของตนเอง และเราต้องเคารพผู้อื่น
เรื่องที่ 1 : การยินยอมให้ผู้อื่นจับหรือสัมผัสตัว
ความยินยอมในการอนุญาตให้สัมผัสตัวต่อแต่ละคนแตกต่างกัน และเรามีสิทธิในการปฏิเสธการกระทำที่เราไม่ชอบหรือคิดว่าไม่เหมาะสมได้ เรื่องนี้เด็กโตและผู้ใหญ่จะรู้ดี แต่กับเด็กเล็ก พ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูจะต้องสอนด้วย โดยเฉพาะเรื่องของอวัยวะเพศ ว่าไม่ให้คนอื่นมาจับ ยกเว้น พ่อแม่ ผู้ปกครอง แพทย์ พยาบาล
เรื่องแรกเรื่องเดียวอาจช่วยป้องกันการคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศได้ในหลายกรณี แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ในอีกหลายกรณี โดยเฉพาะ sexual abuse ในเด็ก ที่ผู้กระทำเป็นบุคคลใกล้ชิดและเป็นที่ไว้วางใจของเด็ก เช่น ผู้ปกครอง แพทย์ เป็นต้น
เรื่องที่ 2 : การจับหรือสัมผัสตัวผู้อื่น
เราสามารถจับหรือสัมผัสตัวผู้อื่นได้ หากอีกฝ่ายยินยอม หากไม่แน่ใจก็ขออนุญาตเสียก่อน และเราต้องเรียนรู้ที่จะสังเกตท่าทางของผู้อื่นที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ‘ฉันไม่ชอบหรือไม่ยินยอม’ หรือ ‘คุณได้ล้ำเส้นเข้ามาในพื้นที่ส่วนของฉันแล้ว’ เช่น เอเดินเข้าไปใกล้บี แล้วบีก้าวถอยหลัง เอควรจะหยุดเดินเข้าไปหาบี เพราะบีส่งสัญญาณว่าเอเข้ามาใกล้เกินไปแล้ว โดยการถอยออกห่าง เป็นต้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ต้องสอนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นอกจากนี้ผู้ใหญ่ต้องไม่ใช้อำนาจที่เหนือกว่าเด็กมาบังคับเด็กให้กอด จูบ หอมแก้ม หรือทำอะไรก็แล้วแต่ที่เด็กมีท่าทีไม่ยินยอม ในกรณีของคนรักก็เช่นกัน ไม่ควรบังคับให้คู่ของตนมีเพศสัมพันธ์ด้วย หากอีกฝ่ายแสดงออกว่าไม่อยาก ก็ควรพูดคุยกันดี ๆ ไม่ควรบังคับกัน
เรื่องที่ 3 : การปฏิบัติตัวต่อทุกเพศด้วยความเคารพและให้เกียรติกัน
ทุกคนควรปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพและให้เกียรติกัน ผู้ชายไม่ควรใช้กำลังหรือวาจาทำร้ายผู้หญิง ผู้หญิงก็ไม่ควรทำร้ายผู้ชายด้วยเช่นกัน และทั้งผู้ชายและผู้หญิงและเพศอื่น ๆ ก็ไม่ควรทำร้ายกัน นอกจากนี้ไม่ควรใช้คำพูดที่เหยียดเพศ และคอยช่วยเหลือกันตามสมควร สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ การไม่ใช้อำนาจทางเพศในทางที่ผิด เช่น การที่ผู้หญิงทุบตีผู้ชายเพื่อบังคับให้เขายอมทำอะไรบางอย่างให้ เพราะรู้ว่าฝ่ายชายไม่ยอมทำร้ายผู้หญิงอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เป็นต้น
หากทุกคน ทุกช่วงวัย มีการเรียนรู้ 3 เรื่องนี้ จะเข้าใจว่า ตนเองมีสิทธิในร่ากายของตนเองว่าจะยินยอมให้ใครมาจับหรือสัมผัสได้เมื่อไร และคนอื่น ๆ ก็มีสิทธิในลักษณะเดียวกันนี้เช่นกัน หากเราเคารพรักสิทธิของตนเอง เราก็ต้องเคารพสิทธิของผู้อื่นด้วย
ผู้เขียนเชื่อว่า ถ้าทุกคนตระหนักรู้ 3 เรื่องนี้ จะสามารถช่วยป้องกันการคุกคามทางเพศได้ในหลายกรณี แต่ก็คงไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้อง อย่างในกรณี sexual abuse ในเด็ก ที่ผู้กระทำเป็นบุคคลใกล้ชิดและเป็นที่ไว้วางใจของเด็ก มีเรื่องของการโกหกสร้างความเข้าใจแบบผิด ๆ แก่เด็กว่าการล่วงละเมิดทางเพศนี้เป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็ทำกัน อีกทั้งมีเรื่องของการใช้อำนาจในการข่มขู่ การทำให้เด็กรู้สึกผิดที่ปฏิเสธ และการทำให้เด็กเห็นใจผู้กระทำผิดด้วย
ผู้เขียนหวังว่า บทความนี้จะเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่จะช่วยป้องกันการคุกคามทางเพศได้บางส่วน และทำให้รู้จักเพศศึกษาในอีกแง่มุมหนึ่ง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา