01. Bill Kelly ผู้เขียนบทภาพยนตร์ได้ตั้งใจให้ภาพยนตร์เหมาะสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น โดยเขาไม่ได้วางแผนว่าภาพยนตร์จะเป็นแนวครอบครัว และค่าย Walt Disney Studios ก็ซื้อบทภาพยนตร์มาพัฒนาอยู่ถึง 10 ปีกว่าจะได้ถ่ายทำจริง
02. ภาพยนตร์ได้มีการหวนย้อนกลับไปถึงยุค 90 และเดิมทีได้ตกลงให้ภาพยนตร์มีเรต R เพราะโครงเรื่องจะมีฉากที่ Giselle ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นนักแสดงเปลื้องผ้า
1
03. บทภาพยนตร์ดั้งเดิมถูกส่งไปให้ผู้กำกับ Rob Marshall แต่เขากลับไปกำกับภาพยนตร์เรื่อง Chicago (2002) ให้กับ Disney's Miramax แทน หลังจากนั้นจึงส่งต่อให้กับ Jon Turteltaub แต่เขาดันไปทำภาพยนตร์เรื่อง National Treasure (2004) แทน บทภาพยนตร์จึงถูกส่งไปให้ Adam Shankman แต่เขาเลือกกำกับภาพยนตร์เรื่อง Hairspray (2007) ดังนั้นทางค่ายจึงมอบหมายให้กับผู้กำกับ Kevin Lima
"Kevin Lima ในกองถ่ายภาพยนตร์"
04. ผู้กำกับ Kevin Lima อธิบายว่าตัวละคร Giselle ได้นำเอาเจ้าหญิงของ Walt Disney Studios มาผสมผสานกัน โดยแปดสิบเปอร์เซ็นต์ได้มาจาก Snow White และมีบางส่วนถูกถอดมาจาก Cinderella, Sleeping Beauty รวมถึงความกล้าหาญที่มาจาก Ariel ในภาพยนตร์เรื่อง The Little Mermaid
05. Kevin Lima ได้กล่าวเอาไว้ว่าเขาได้รวบรวมผลงานของ Walt Disney Studios ตั้งแต่อดีตจนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมาใส่เอาไว้ในภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อเป็น “จดหมายรักฉบับยักษ์ใหญ่” ให้แก่ค่าย
06. Kevin Lima เคยร่วมงานกับค่าย Walt Disney Studios มาก่อนโดยเขาเคยกำกับภาพยนตร์เรื่อง 102 Dalmatians (2000), Tarzan (1999), A Goofy Movie (1995) และ The Wonderful World of Disney (1993)
08. Cameron Diaz, Renée Zellwegger, Jennifer Garner, Reese Witherspoon, Kate Hudson และ Christina Aguilera ต่างเคยได้รับพิจารณาให้มาสวมบทบาทเป็น Giselle
09. Jennifer Aniston ถูกเสนอให้รับบทบาทเป็น Giselle แต่ไม่สามารถตกลงรายได้กับทางค่ายได้ลงตัว จึงได้ถอนตัวออกจากภาพยนตร์
10. ค่าย Walt Disney Studios เพิ่งมองเห็น Amy Adams ในสายตาก็ตอนที่เธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Academy Awards ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Junebug (2005)
16. ผู้กำกับ Kevin Lima ได้ให้เสียงตัวละคร Pip ซึ่งเป็นชิปมังก์ โดยเขาจะมีเสียงพูดได้ในตอนที่อยู่ Andalasian เท่านั้น แต่เมื่อเข้ามาในโลกแห่งความจริงก็ไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป
17. ฉากร้องเพลง Happy Working Song นั้น มีการใช้หนูและนกพิราบจริง ๆ ในฉากด้วย ยกเว้นเพียงแมลงสาบที่ไม่มีของจริง
18. ฉากที่ Robert Philip เดินพา Giselle เข้าไปในสวน Central Park นั้น เธอได้ถือแอปเปิลคาราเมลอาบยาพิษอยู่ในมือ ซึ่งมีการออกแบบให้เหมือนกับแอปเปิลจากภาพยนตร์เรื่อง Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
19. ฉากร้องเพลง That's How You Know ในสวน Central Park ใช้เวลาอยู่บนภาพยนตร์เพียงแค่ 5 นาที แต่ใช้เวลาในการถ่ายทำถึง 17 วัน เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมีเพียง 7 วันเท่านั้นที่มีแดดออก นอกจากนั้นกองถ่ายยังถูกแฟนคลับของ Patrick Dempsey เข้ามาขัดจังหวะอยู่หลายครั้ง
"นักแสดงและทีมงานในการถ่ายทำที่ Central Park"
20. นักร้อง Demi Lovato ได้นำเพลง That's How You Know มาร้องใหม่ในอัลบั้ม Disney Cover ซึ่งทั้ง Demi Lovato และ Amy Adams ต่างเกิดในวันที่ 20 สิงหาคม เหมือนกัน
21. Patrick Dempsey ได้รับบทบาทเป็น Robert Philip โดยนามสกุล Philip มาจากชื่อของเจ้าชาย Philip จากเรื่อง Sleeping Beauty (1959)
22. สำนักงานกฎหมายที่ตัวละคร Robert Philip ทำงานอยู่มีชื่อว่า Churchill, Harline และ Smith ซึ่งเป็นนามสกุลของนักประพันธ์เพลงจากภาพยนตร์เรื่อง Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
23. ตอนที่ตัวละครเจ้าชาย Edward ยืนอยู่บนรถประจำทาง กลุ่มคนที่ชี้นิ้วและหัวเราะมาที่เขาไม่ใช่นักแสดงประกอบฉาก แต่เป็นเหล่านักท่องเที่ยวของจริงที่เดินทางมายังนิวยอร์ก
24. คนขับรถประจำทางได้มีการทำทรงผมให้มีรูปร่างคล้ายกับหูของ Mickey Mouse ซึ่งเป็นการซ่อนสัญลักษณ์ของ Mickey Mouse จาก Walt Disney Studios
25. ฉากที่เจ้าชาย Edward กระโดดลงมาจากสะพานแล้วถูกชนโดยนักปั่นจักรยานนั้น เดิมทีบทภาพยนตร์ต้องการให้เขาแค่โดนชนแล้วแกล้งล้มเท่านั้น แต่นักแสดง James Marsden กลับรู้สึกว่ามันจะออกมาไม่ดีเท่าที่ควร เขาจึงยืนกรานให้โดนรถจักรยานทั้งโขยงชนแล้วล้มจริง ๆ ซึ่งผลลัพธ์จึงเป็นอย่างที่ได้เห็นในภาพยนตร์
"ฉากเจ้าชาย Edward ถูกจักรยานชนจนล้ม"
26. ภัตตาคารที่ Robert Philip รับประทานอาหารเย็นกับ Giselle มีชื่อว่า "Bella Notte" ซึ่งเป็นชื่อเพลงที่บรรเลงขณะที่ทรามวัยกับไอ้ตูบกำลังรับประทานสปาเก็ตตี้กันในภาพยนตร์เรื่อง Lady and the Tramp (1955)
27. เดิมทีมีการวางแผนให้นักแสดง James Marsden และ Idina Menzel ได้ร้องเพลงคู่กัน แต่กลับถูกตัดออกไปจากภาพยนตร์
28. Idina Menzel เป็นนักแสดงละครเวที Broadway และได้รับรางวัล Tony Award กลับไม่ได้ร้องเพลงในภาพยนตร์เรื่องนี้แม้แต่เพลงเดียว ซึ่งเธอให้สัมภาษณ์ว่าตัวเองรู้สึกดีที่ได้ว่าจ้างให้มาเป็นนักแสดงเพียงอย่างเดียว
29. Idina Menzel ได้ร่วมงานกับ Walt Disney Studios ในภาพยนตร์เรื่อง Frozen (2013) โดยให้เสียงตัวละคร Elsa และร้องเพลง Let it Go อันโด่งดัง
"ได้กลับมาร่วมงานกับ Walt Disney Studios อีกครั้ง"
31. ภาพยนตร์ได้นำนักแสดงที่เคยให้เสียงตัวละครในภาพยนตร์ของค่าย Walt Disney Studios มาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ถึง 3 คน ได้แก่ Jodi Benson (ให้เสียง Ariel ในเรื่อง The Little Mermaid ปี 1989), Paige O'Hara (ให้เสียง Belle ในเรื่อง Beauty and the Beast ปี 1991) และ Judy Kuhn (เป็นผู้ให้เสียงร้องเพลงของตัวละคร Pocahontas ในเรื่อง Pocahontas ปี 1995)
32. Judy Kuhn ปรากฏตัวในฉากที่เจ้าชาย Edward เคาะประตูในอพาร์ทเม้นท์เพื่อตามหา Giselle โดยเธอเป็นคนที่เปิดประตูแรกนั้นเอง
"Judy Kuhn กับการรับเชิญมาแสดงร่วมในเรื่อง"
33. ฉากที่ Giselle มองเข้าไปในตู้ปลาจะมีเสียงเพลง Part of Your World จากเรื่อง The Little Mermaid (1989) บรรเลงอยู่ในฉากหลัง และนักแสดงที่เล่นเป็นเลขานุการก็คือ Jodi Benson ผู้ให้เสียงของ Ariel จากเรื่องดังกล่าว
"Jodi Benson ผู้เคยให้เสียง Ariel"
34. ขณะที่เจ้าชาย Edward ดูโทรทัศน์ในโรงแรมจะมีรายการหนึ่งที่ปรากฏให้เห็น Paige O'Hara ซึ่งเธอคือผู้ให้เสียง Belle ในภาพยนตร์เรื่อง Beauty and the Beast (1991)
35. เมื่อเจ้าชาย Edward เคาะประตูเพื่อตามหา Giselle จะมีประตูหนึ่งที่มีเลข 714 ซึ่งเลขดังกล่าวเป็นหมายเลขบอกสถานที่ของ Orange County ในสวนสนุก Disneyland Park ดั้งเดิม
36. ฉากร้องเพลง That's How You Know ได้มีนักเต้นชายวัยชราคนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ เคยปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง Mary Poppins (1964) มาก่อน นอกจากนี้ยังมีชายชราอีกสองคนเคยปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง West Side Story (1961) ด้วยเช่นกัน
37. ฉากเต้นรำใน Ballroom ก่อนจบภาพยนตร์ มีการออกแบบท่าเต้นให้คล้ายคลึงกับการเต้น African Anteater Ritual ในภาพยนตร์เรื่อง Can't Buy Me Love (1987)
1
38. ชุดที่ Giselle ได้ออกแบบให้กับเจ้าชายขณะร้องเพลง True Love's Kiss ในตอนต้นเรื่อง ไม่ได้ถูกสวมใส่โดยเจ้าชาย Edward แต่ถูกสวมโดย Robert Philip ในฉากเต้นรำใน Ballroom
"ชุดที่ Giselle ออกแบบไว้ในตอนต้นเรื่อง"
39. มีการออกแบบชุดให้สวนทางกันระหว่างตัวละคร Giselle และ Robert Philip โดย Giselle จะปรากฏตัวครั้งแรกด้วยชุดเจ้าสาวที่เกินจริง ตามมาด้วยชุดราตรียาวแบบเจ้าหญิง แล้วเริ่มเป็นชุดเดรสธรรมดา และจบด้วยชุดราตรีแบบทันสมัย ส่วน Robert Philip เริ่มจากการใส่สูทผูกเนคไท แล้วเป็นชุดลำรองขึ้น และจบท้ายที่ชุดเจ้าชายในงาน Ballroom
40. โดยปรกติแล้วภาพยนตร์เจ้าหญิงของค่าย Walt Disney Studios จะเปลี่ยนจากคนธรรมดาแล้วกลายเป็นเจ้าหญิง แต่สำหรับเรื่องนี้ Giselle ไม่ได้จบด้วยการเป็นเจ้าหญิง แต่กลายเป็นตัวประกอบอย่าง Nancy Tremaine ที่กลายเป็นเจ้าหญิงแทน
42. ฉาก Animation ไม่ได้ถูกสร้างโดย Walt Disney Studios แต่ถูกสร้างจาก James Baxter Animation ที่เคยทำเรื่อง Curious George (2006)
"ฉาก Animation จาก James Baxter"
43. เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สามของค่าย Walt Disney Studios ที่มีการเปลี่ยนอัตราส่วนของภาพในภาพยนตร์ โดยเริ่มต้นฉากของ Animation ได้ใช้อัตราส่วนภาพ 1.85:1 แต่เมื่อเป็นภาพยนตร์ที่แสดงโดยมนุษย์จริง ๆ อัตราส่วนภาพเปลี่ยนเป็น 2.35:1
44. เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของ Walt Disney Studios (ที่ไม่ได้ร่วมกับค่ายภาพยนตร์จากที่อื่น) ได้ใช้คำว่า “Fuck” โดยเป็นฉากที่เจ้าชาย Edward ออกมาจากท่อ แล้วมีตัวละครพูดว่า “Get the fu-ck off of there”
45. เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ฉายภายใต้ชื่อค่าย Walt Disney Studios Motion Pictures
46. เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สามของค่าย Walt Disney Studios ที่ได้เรต PG จากสมาคมภาพยนตร์แห่งอเมริกา (MPAA)
47. Weird Al เคยถูกพิจารณาให้มาประพันธ์เนื้อเพลงให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้
48. เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่ได้ศิลปินอย่าง John Alvin มาออกแบบโปสเตอร์ภาพยนตร์ ซึ่งเขาเคยออกแบบปกภาพยนตร์ให้กับ Walt Disney Studios มาอย่างมากมายตลอดชีวิตของเขา
"โปสเตอร์ภาพยนตร์"
49. เดิมที Walt Disney Studios ได้วางแผนที่จะนำเอา Giselle เข้ามาเป็นหนึ่งในเจ้าหญิงของค่าย โดยปี 2007 ทางค่ายได้เตรียมผลิตภัณฑ์ของตัวละครเอาไว้ แต่พวกเขาตระหนักได้ว่าต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ตลอดชีวิตให้กับนักแสดง Amy Adams ดังนั้นแผนการจึงถูกพับเก็บไป
50. ในการจองโปรแกรมการฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ ทางค่าย Walt Disney Studios ได้ใช้ชื่อปลอมให้กับภาพยนตร์ว่า “Radio”
52. ภาพยนตร์ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Academy Awards ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมถึง 3 เพลง ได้แก่ “Happy Working Song", "That's How You Know" และ "So Close”
54. นักแสดง James Marsden รับบทบาทเป็นสามีของ Lois Lane ในภาพยนตร์เรื่อง Superman Returns (2006) ส่วนนักแสดง Amy Adams รับบทบาทเป็น Lois Lane ในภาพยนตร์เรื่อง Man of Steel (2013)
55. ตามเทคนิคแล้วนักแสดง Idina Menzel ได้เป็นเจ้าหญิงถึงสองตัวในค่าย Walt Disney Studios