[หนีดอย] มุมมองทองคำ ประจำสัปดาห์ วันอาทิตย์ที่ 21 มี.ค. 2021 "ทองคำ ยืนได้เหนือ 1700 ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งที่ US 10 Yr Bond Yield แตะ 1.75% เรียบร้อยแล้ว"

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

หนีดอย

•

21 มี.ค. 2021 เวลา 11:32 • หุ้น & เศรษฐกิจ

มุมมองทองคำ ประจำสัปดาห์

วันอาทิตย์ที่ 21 มี.ค. 2021

"ทองคำ ยืนได้เหนือ 1700 ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งที่ US 10 Yr Bond Yield แตะ 1.75% เรียบร้อยแล้ว"

🌟บทความที่ 8 ของมุมมองทองคำประจำสัปดาห์จาก "หนีดอย" สัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าทองคำได้หลุด 1,700 (ระหว่าง 15-19 มี.ค. 2021)

🌟โดยระหว่างสัปดาห์ที่ผ่านมา ทองคำทำจุดสูงสุดที่ 1,755 USD/Oz. และทำจุดต่ำสุดที่ 1,720 USD/Oz. ราคาผันผวนราวๆ $35 ซึ่งถือว่าลดความผันผวนลงไปพอควรครับ เทียบกับ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดราคาทองคำปิดที่ $1,745 ไปเทียบเท่าราคาช่วงมิถุนายนปีที่แล้ว

🌟มุมมองทองคำ ผมขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆคือ

1. ปัจจัยทางเทคนิค

2. ปัจจัยทางพื้นฐาน

เพื่อให้ผู้อ่านใช้ประกอบการตัดสินใจเข้าลงทุนทองคำได้ครับ

#ปัจจัยทางเทคนิค

💭ผมขอเปิดด้วยกราฟระยะเวลาเดือน (Timeframe = month) เพราะเป็นการบอกเทรนที่ดีที่สุด เริ่มจากอดีตเดือนมีนาคม ปี 2012 MACD แสดง Death Cross เส้นสีฟ้าตัดเส้นสีส้มลง (วงกลมสีแดง) แม้ว่าทองราคาจะยังไม่ทิ้งดิ่งมาก แต่ก็ไม่อาจทำจุดสูงสุดใหม่ได้ จนกระทั่งปี 2013 เดือนก.พ. แท่งเทียนหลุดเส้นค่าเฉลี่ย (MA) 25 เดือน (เส้นส้ม) หลังจากนั้นมาราคาทองก็ซึมยาวมาจนถึงปี 2020

💭กลับมาที่ภาพปัจจุบัน ปี 2021 ณ สิ้นเดือนก.พ. MACD แสดง Death Cross อีกครั้ง แต่เป็นการเริ่มตัด จนมาถึงสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่แท่งเทียนยังคงยืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย (MA) 25 เดือน เส้นสีส้ม แม้ว่าหากตีเส้นขนาน 2 เส้นตามภาพจะพบว่า ทองคำวิ่งเป็นลักษณะ Downtrend (ขาลง)

💭แล้วแนวรับของทองคำที่อาจจะเป็นลมหายใจสุดท้ายในรอบขาใหญ่รอบนี้ควรอยู่ที่เท่าไหร่ สำหรับผมแล้วให้ดูที่เส้นค่าเฉลี่ยสีส้มซึ่งเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆ ตามราคาของแท่งเทียนที่เปลี่ยนไป โดยผมมีการลากแนวต้านเส้นสีดำไว้ และ ตี Trend line ตามรูป ซึ่งพอสรุปได้ว่า ทองคำควรรักษาระดับราคาที่ 1660-1680 ไว้ให้ได้!!! ซึ่งหากหลุดเราอาจจะไปเห็นทองคำที่ระดับราคา 1440-1450 เลยก็ว่าได้ ซึ่งต้องบอกว่าทองคำตอนนี้ยังยืนได้อยู่ครับ

Tradingview | Gold : 19 MAR 2021 (Timeframe : Month)

💭ดูระดับเดือนแล้ว มาดูระดับวันกันอีกครั้งครับ จะเห็นว่า RSI ทองคำนั้นหลังลงมาต่ำมากระดับ Oversold (RSI < 30 แล้ว) ก็มีแรงซื้อกลับขึ้นมาได้ มาอยู่ที่ราวๆ 47 ครับ นอกจากนี้ MACD เริ่มตัดขึ้นหรือเกิด Golden Cross แล้ว แม้ว่าราคาทองจะยังไม่ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ระดับ 1857 ก็ตาม หากเป็นสายนักลงทุนระยะยาว จะมองว่าระดับนี้คือระดับ "น่าทยอยซื้อสะสม" แล้วครับ โดยเฉพาะหากครั้งนี้ทองคำไม่ทำจุดต่ำสุดเดิมที่ 1,676

💭ใครงงเรื่อง RSI คืออะไรผมทำบทความไว้ให้ว่ามันคืออะไร ดูได้ที่ www.blockdit.com/posts/6016351319b6bf0bb73f780c

Tradingview | Gold : 19 MAR 2021 (Timeframe : Day)

💭ทองคำมีแนวรับที่สำคัญคือ 1660-1680 โดยมีแนวต้านสำคัญคือ 1760-1800

💭เมื่อเปรียบเทียบกับ US dollar index โดยล่าสุดปิดที่ 91.92 เป็นการปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่ 91.68 (บ่งบอกว่าดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว)

Tradingview | US dollar index : 19 MAR 2021 (Timeframe : Day)

#ปัจจัยทางพื้นฐาน

💭เนื่องจากทองคำนั้นสัมพันธ์กับ Real Yield (ทองจะลง เมื่อ Real Yield ขึ้น) โดยล่าสุดมีการปรับตัวสูงขึ้น อยู่ที่ -0.578% ขณะที่สัปดาห์ก่อนอยู่ที่ -0.647% ซึ่งผมมองว่าเป็นเริ่มมีการขยับขึ้นเรื่อยๆ ต่อเนื่อง (หากดูจากกราฟจะเห็นว่าเริ่มดีดขึ้นมาชัดเจนนับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 ของกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา)

💭โดย Real Yield ดูได้จาก U.S. 10 Year TIPS

ซึ่งมีสมการคือ Real yield = Nominal yield - Expected inflation rate

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล - ความคาดหวังอัตราเงินเฟ้อ

(ข้อมูลจาก www.cnbc.com/quotes/US10YTIP)

💭ข้อมูลถัดมาที่อยากให้ดูคือ การถือครองทองคำย้อนหลังของ SPDR® Gold Shares กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก

💭ที่มาข้อมูลจาก traderider.com/forex/spdr-กองทุนทองคำแท่ง/

สำหรับข้อมูลการถือครองของ SPDR Gold Shares (GLD)

💭จะพบว่ามีการลดการถือครองลงมาเป็น 1,051.78 ตัน เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้วที่ปริมาณ 1,052.07 ตัน โดยทั้งเดือนมกราคมมีการขายออกไป 10.61 ตัน ซึ่งมากกว่าปริมาณการขายในช่วงเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว และเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีขายออกไป 66.59 ตัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างเยอะครับ เมื่อเทียบกับสถิติในรูป และหากดูรายวันก็พบว่ามีการขายออกทุกๆวันเลย ยกเว้นวันเสาร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมาที่มีการซื้อเพิ่ม 3.5 ตัน

ข้อมูลจาก traderider.com

💭นอกจากนี้ ปัจจัยพื้นฐานต่อมาที่ส่งผลต่อราคาทองคำได้อีกก็มาจาก

1. การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 1.75% ระหว่างสัปดาห์ ก่อนจะมาปิดที่ 1.716% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563 ซึ่งถือเป็นการเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำครับ เพราะไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยเหมือนพันธบัตร เลยเป็นแรงกดดันให้เกิดการเทขายทอง โดยภาพกราฟระดับสัปดาห์บ่งบอกว่า เส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์อยู่แถวๆ 2.00% โดยประมาณ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายสำนักมองว่าอาจจะไปแตะถึงได้

Tradingview | US10Yr bond yield : 19 MAR 2021 (Timeframe : Week)

2. ดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล พุ่งขึ้นสู่ระดับ 91.92

3. การเร่งฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลดลงอย่างเห็นได้ชัดในสหรัฐฯ รวมไปถึงการอนุมัติวัคซีนจาก Johnson & Johnson ที่จะทำให้การเร่งฉีดวัคซีนกระจายได้ทั่วถึงมากขึ้นไปอีก โดยล่าสุดทางสหรัฐอเมริกาได้ฉีดวัคซีนทะลุ 100 ล้านโดสแล้ว ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ระบุว่า เมื่อวันศุกร์ (12 มี.ค.) สหรัฐฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เกิน 100 ล้านโดสแล้ว ประชากรราว 35 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ คิดเป็น 13.5% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ ส่วนที่ฉีดแล้วอย่างน้อย 1 เข็มจาก 2 เข็มเป็นจำนวนกว่า 65.9 ล้านคน

💭จากข้อมูลทั้งหมดทั้งทางเทคนิคที่ยังไม่มีสัญญาณขาขึ้นระยะสั้นชัดเจน แถมหลุด 1,700 แล้ว แม้จะกลับมายืนเหนือ 1700 ได้อีกครั้ง ก็ยังไม่แน่ว่าจะหลุด 1,660 อีกรึเปล่า และทางพื้นฐานที่ยังไม่มีอะไรเป็นตัวกระตุ้นต่อทองอย่างชัดๆ ภาพรวมจึงออกมาไปในทางลบกดดันต่อราคาทองคำในระยะสั้น ทำให้กรอบราคาของทองคำกลับมาซื้อขายกันช่วง 1,680-1,760 USD/Oz. หรืออาจลงไปต่ำกว่าเช่น 1,660-1,680 USD/Oz.

💭มุมมองของผมในระยะยาวที่ Fed ยังคงทำ QE จากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่องที่ 1.2 แสนล้านเหรียญต่อเดือน และยังไม่มีนโยบายขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึงปี 2023 มีผลทำให้เงินสกุลดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำในระยะ 2-3 ปีนี้ ที่สามารถขึ้นมาอยู่ในระดับ 2000 USD/Oz. ได้เป็นอย่างน้อย หรือมากกว่า แม้ช่วงนี้ทองคำจะถูกกดดันอย่างหนักจากปัจจัยข้างต้น (แต่ถ้า FED หยุด QE ก่อนก็เป็นอีกเรื่องนึงนะครับ)

💭โดยทองคำมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1660, 1680, 1730, หรือ 1775 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15% หรือหากใครกังวลว่าสุดท้ายแล้วทองจะลงไปถึง 1,440 USD/Oz. แล้วซึมยาว ก็สามารถรอดูท่าทีของทองคำอีกครั้งได้เช่นกันครับ

💭กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 1800, 1840, 1865, 1890, 1900 ครับ ที่พอทยอยขายได้

💭หากอ่านบทความนี้แล้ว ใครที่ต้องการลงทุนทองในกองทุนทองคำ ก็มีอยู่หลายกองครับ จะเป็นแบบ Hedge ค่าเงิน อย่าง SCBGOLDH หรือมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินก็ได้ หรือจะเลือกแบบไม่ Hedge ก็ได้เช่นกันครับ อย่าง SCBGOLD

💭สำหรับคนที่ต้องการลงทุนในกองทุนทองคำที่ไม่ Hedge ค่าเงิน หากเงินบาทอ่อนค่าและราคาทองคำขยับขึ้น ก็เหมือนได้กำไรทั้งค่าเงิน และกำไรส่วนต่างจากราคาทองคำ

💭 กลับกันหากเงินบาทแข็งค่า เราก็จะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนครับ ซึ่งหลังจากไบเดนได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ และมีนโยบายการค้าที่ดูสนับสนุนเงินทุนไหลเข้าเอเชีย ก็อาจส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นไปอีก ซึ่ง ณ ที่เขียนบทความ ค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (ช่วงนี้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า จากเงินดอลลาร์แข็งค่าครับ)

💭 ผมเลยอยากแนะนำให้เลือกเป็นกองทุนที่ Hedge ค่าเงินมากกว่า แต่สุดท้ายก็แล้วแต่การตัดสินใจครับ ส่วนจะเป็นกองไหนก็ได้นะครับ ไม่จำเป็นต้อง SCB เท่านั้นครับ

💭บทความล่าสุด!!! สำหรับคนอยากเข้าใจทุกลมหายใจของบริษัท กับ เข้าใจครบจบ งบการเงิน เพื่อการลงทุนหุ้นรายตัว | by หนีดอย

ตอนที่ 1 | Introduction งบการเงิน : www.blockdit.com/posts/6055be54e226050c0156e56e

ตอนที่ 2 | มองให้ครบ...ภาพรวมงบการเงิน 6 ส่วน : www.blockdit.com/posts/60563aabe1b5aa0c246ad42b

Serie : เข้าใจครบจบ งบการเงิน by หนีดอย

💭ภาพกราฟภาพแรกสุดที่เห็นมาจาก Tradingview.com

หรือสามารถโหลด app ชื่อ Tradingview มาใช้ได้ครับ

เป็น 1 ใน app แนะนำ ที่ทุกคนควรมี

มีแบบ version ฟรี ที่จำกัดการใช้เครื่องมือ

กับ version เสียเงิน ที่มีฟังก์ชันให้ใช้งานมากขึ้นแบบไม่มีกั๊ก

💭หากใครสนใจว่า เราควรมี App ไหนบ้าง

ที่ช่วยเราด้านการลงทุน

ผมได้รวบรวม 18 App ที่ "ต้องมี" ในการลงทุน