โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติเห็นชอบให้เพิ่มวาระนี้เข้าไปเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม (Group CEO) หรือประธานเจ้าหน้าที่การเงิน (CFO) เป็นผู้ดำเนินการจดทะเบียนเข้าตบลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ลุล่วง รวมถึงเป็นตัวแทนของ GRAMMY ในการออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ ONE อีกด้วย
1
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้พิจารณาอนุมัติแนวทางดำเนินธุรกิจ และการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างกลุ่ม GRAMMY และกลุ่ม ONE ในอนาคต โดยให้ ONE เป็น Flagship ของกลุ่มในด้านคอนเทนต์ (สื่อโทรทัศน์ ผลิตรายการ ละคร ซีรีส์ และสื่อวิทยุ) โดยทาง GRAMMY จะไม่ขยายธุรกิจที่ทับกับกลุ่มของ ONE และทาง GRAMMY จะให้ความร่วมมือในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ONE ในการดำเนินการตามที่จําเป็นเพื่อให้ ONE สามารถแสดงได้ว่ามีกลไกการจัดการเพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. เช่น การกําหนดให้บริษัทย่อยเข้าทำข้อตกลงใดๆ กับ ONE เพื่อลดหรือขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เป็นต้น
สำหรับเงื่อนไขสำคัญที่อาจทำให้ ONE จะได้หรือไม่ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์นั้น ขึ้นอยู่กับที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ ONE จะมีมติเพิ่มทุนและเปิดให้มีการ IPO หรือไม่? นอจากนั้น ONE ยังจะต้องส่งหนังสือชี้ชวนให้กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์พิจารณาเพื่ออนุมัติ รวมไปถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้องรับหุ้นของ ONE เพื่อเปิดทางให้สามารถ IPO ได้นั่นเอง และทาง ONE ต้องเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้ว เพื่อทำให้สามารถเข้าหลักเกณฑ์การขายหุ้นต่อไปได้ด้วย
ย้อนไปช่วงปรับโครงสร้าง GMM25 – สำคัญต่อ ONE อย่างไร?
การนำ ONE เข้า IPO จะส่งผลให้ผู้ถือหุ้นสามารถเลือกถือหุ้น ONE หรือ GRAMMY ก็ได้ และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าหุ้นของ GRAMMY ทางอ้อมจากการที่ราคาหุ้นของ ONE สูงขึ้นตามตลาด และ ONE จะได้ระดมเม็ดเงินเพื่อเพิ่มกำลังในการผลิตผลงาน ขยายธุรกิจ และสร้างกำไรต่อไปในอนาคตได้ นอกจากนี้จะยังสานต่อความเป็นพันธมิตรทางด้านสื่อและธุรกิจระหว่างกันได้มากขึ้นจากการใช้ทรัพยากรของแต่ละฝ่ายที่มีอยู่ และ ONE จะนำเงินมาคืนในการค้ำประกันวงเงินกู้ยืมจากการซื้อหุ้น GMMCH กลับมายัง GRAMMY และส่งผลให้ปลดภาระการค้ำประกันได้ในที่สุดอีกด้วย
โดยกลุ่ม ONE นั้นปัจจุบันประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งประกอบ ธุรกิจผลิตคอนเทนต์ที่มุ่งเน้นการออกอากาศผ่านช่องทางโทรทัศน์ในระบบ ดิจิทัลทีวี
คงต้องจับตากันต่อไปว่าการเข้า IPO ในครั้งนี้จะสมหวังดั่งที่ “ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” เคยกล่าวเมื่อครั้งที่ช่องวัน 31 และช่องจีเอ็มเอ็ม 25 เข้าร่วมการแถลงการณ์กรณีการเรียงช่องว่าอยากทำให้กลุ่ม ONE เป็นหนึ่งในธุรกิจผู้นำทางด้านคอนเทนต์ให้เป็นจริงหรือไม่? หรือผู้ถือหุ้นทั้งทาง ONE และ GRAMMY จะทำอย่างไรกันต่อ? คงต้องติดตามในวันประชุมผู้ถือหุ้นกัน ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนประมาณไตรมาสที่ 3 ของปีนี้แน่นอน