24 มี.ค. 2021 เวลา 15:05 • ธุรกิจ
แกะรายได้เวิร์คพอยท์ปี 2563 คว้ากำไร 152 ล้านบาท – โควิดทำรายได้โฆษณาช่อง 23 ลด
บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งและส่งงบการเงินประจำปี 2563 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 โดยแจ้งรายได้ทั้งหมดประจำปีอยู่ที่ 2,277 ล้านบาท น้อยกว่าปี 2562 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,771 ล้านบาท แต่กำไรเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งในปี 2563 มีกำไรอยู่ที่ 152 ล้านบาท มากกว่าปี 2562 ที่ได้กำไรอยู่ที่ 148 ล้านบาท โดยปัจจัยสำคัญมาจากการควบคุมค่าใช้จ้ายในการบริหารงานช่วงโควิด-19
โดยถ้าแกะผลประกอบการออกมาจะพบว่าในช่วงปีที่ผ่านมา รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากรายได้ทางโทรทัศน์ ซึ่งมีรายได้ในปี 2563 อยู่ที่ 1,798,887,550 บาท น้อยกว่าปี 2562 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,193,100,479 บาท และในปี 2563 ไม่มีรายได้จากในส่วนของภาพยนตร์แต่อย่างใด ซึ่งต่างจากปี 2562 ที่มีรายได้จากภาพยนตร์อยู่ที่ 1,000,000 บาท
สำหรับในส่วนของรายได้จากคอนเสิร์ตและละครเวที ปี 2563 รายได้ลดลงอยู่ที่ 39,019,653 บาท จากในปี 2562 ที่ทำรายได้อยู่ที่ 117,622,834 บาท เช่นเดียวกับรายได้จากการรับจัดงานที่ปี 2563 ลดลง โดยมีรายได้อยู่ที่ 104,587,087 บาท ในขณะที่ปี 2562 มีรายได้อยู่ที่ 243,049,765 บาท
นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการบริหารจัดการที่ปี 2563 มีรายได้สุทธิอยู่ที่ 384,000 บาท มากกว่าปี 2562 ที่มีรายได้เพียง 260,000 บาท และรายได้จากการขายสินค้าและบริการซึ่งในปี 2563 มีรายได้อยู่ที่ 334,313,537 บาท มากกว่าปี 2562 ที่มีรายได้อยู่ที่ 216,624,248 บาท ทำให้รายได้จากการทำธุรกิจอยู่ที่ 2,277,191,827 บาท ลดลงจากปี 2562 ที่มีรายได้จากการทำธุรกิจอยู่ที่ 2,771,657,326 บาท แต่เนื่องจากมีการบริหารจัดการต้นทุนและมีการลงทุนในส่วนอื่นๆ ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้น โดยในปี 2563 มีกำไรอยู่ที่ 152,873,900 บาท มากกว่าปี 2562 ที่มีกำไรอยู่ที่ 148,956,549 บาท
2
สำหรับรายได้จากบริษัทร่วมและบริษัทย่อยนั้นแบ่งได้ดังนี้ บริษัท โกลบอล ไพร์ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีรายได้ในปี 2563 อยู่ที่ 166,108,000 บาท และมีกำไรอยู่ที่ 12,687,000 บาท เป็นส่วนของเวิร์คพอยท์อยู่ที่ 3,578,000 บาท, บริษัท เอฟดับเบิ้ลยูอาร์ จำกัด มีรายได้ในปี 2563 อยู่ที่ 87,000 บาท ขาดทุนทั้งหมด 12,116,000 บาท เป็นส่วนของเวิร์คพอยท์อยู่ที่ 3,635,000 บาท, กิจการร่วมค้า ฟัน คอร์ปอเรชั่น มีรายได้อยู่ที่ 2,000 บาท ขาดทุนอยู่ที่ 6,000 บาท เป็นส่วนของเวิร์คพอยท์อยู่ที่ 3,000 บาท, กิจการร่วมค้า ภาพยนตร์ ไบค์แมน มีรายได้อยู่ที่ 331,000 บาท ขาดทุนอยู่ที่ 455,000 บาท เป็นส่วนของเวิร์คพอยท์อยู่ที่ 137,000 บาท, กิจการร่วมค้า ภาพยนตร์ แก๊งตาลซิ่งและหลาน 25 น้า 24 มีรายได้อยู่ที่ 105,686,000 บาท กำไรอยู่ที่ 43,081,000 บาท เป็นของเวิร์คพอยท์อยู่ที่ 12,924,000 บาท, กิจการร่วมค้า เวิร์คมีดี มีรายได้อยู่ที่ 59,742,000 บาท กำไรอยู่ที่ 24,673,000 บาท เป็นของเวิร์คพอยท์อยู่ที่ 14,807,000 บาท, กิจการร่วมค้า ภาพยนตร์ ไบค์แมน 2 มีรายได้อยู่ที่ 9,606,000 บาท มีกำไรอยู่ที่ 3,510,000 บาท เป็นของเวิร์คพอยท์ 1,580,000 บาท, กิจการร่วมค้า ภาพยนตร์ สามเกลอหัวแข็ง และจ๊วด กะเทยบั้งไฟ มีรายได้อยู่ที่ 15,508,000 บาท มีกำไรอยู่ที่ 103,000 บาท เป็นของเวิร์คพอยท์ 31,000 บาท
1
บริษัท ขนมมหานิยม จำกัด มีรายได้อยู่ที่ 33,000 บาท ขาดทุนอยู่ที่ 3,159,000 บาท เป็นส่วนของเวิร์คพอยท์อยู่ที่ 2,354,000 บาท, บริษัท โต๊ะกลมโทรทัศน์ จำกัด มีรายได้อยู่ที่ 16,696,000 บาท ขาดทุนอยู่ที่ 4,610,000 บาท เป็นส่วนของเวิร์คพอยท์อยู่ที่ 2,305,000 บาท, บริษัท กราว จำกัด มีรายได้อยู่ที่ 13,979,000 บาท กำไรอยู่ที่ 2,353,000 บาท เป็นส่วนของเวิร์คพอยท์อยู่ที่ 941,000 บาท และบริษัท สยามพิฆเนศ จำกัด มีรายได้อยู่ที่ 46,067,000 บาท ขาดทุนอยู่ที่ 20,775,000 บาท เป็นส่วนของเวิร์คพอยท์อยู่ที่ 712,000 บาท
1
สำหรับผลกระทบที่ทำให้รายได้ลดลง อันเนื่องมาจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้กำลังซื้อทั่วโลกลดลง ทำให้รายได้หลักโดยเฉพาะรายได้จากทางโทรทัศน์ (โฆษณา ออนไลน์ และขายลิขสิทธิ์) ลดลง รวมไปถึงการจัดงานที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเช่นเดียวกัน ทำให้ต้องปรับลดจำนวนผู้เข้าชม ตลอดไปจนถึงเลื่อนและยกเลิกอย่างไม่มีกำหนดด้วย แต่สำหรับรายได้จากการขายสินค้ากลับเพิ่มขึ้นจากการปรับให้จำหน่ายสินค้าจากบุคคลภายนอกเป็นหลักผ่านทางช่อง 23 ในขณะเดียวกันต้นทุนและค่าใช้จ่ายก็ลดลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเช่นเดียวกันที่ทำให้ต้องปรับกำลังกันพอสมควร
เขียนโดย กฤตนัน ดิษฐบรรจง
คิดถึงเรื่องสื่อ เปิด #ส่องสื่อ
ติดต่อโฆษณา ad@modernistthai.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา