Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
25 มี.ค. 2021 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
การสังหารหมู่ชาวยิวในช่วง “กาฬมรณะ (Black Death)”
เหตุการณ์ “กาฬมรณะ (Black Death)” ในสมัยศตวรรษที่ 14 เป็นเหตุการณ์โรคระบาดที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของโลก (ผมเคยเขียนเป็นซีรีส์ไว้ สามารถหาอ่านได้ครับ)
นอกจากอันตรายจากโรคระบาดแล้ว “ความคลั่งของผู้คน” ยังเป็นสิ่งที่อันตรายมากอีกด้วย โดยเฉพาะกับชาวยิว
1
ในศตวรรษที่ 14 ชาวยิวในยุโรปนั้นไม่ปลอดภัย เนื่องจากที่ผ่านมา ชาวยิวก็ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของชาวยุโรปอยู่แล้ว พอเกิดเหตุโรคระบาดขึ้น ทุกคนจึงพุ่งเป้าไปที่ชาวยิว โทษว่าเป็นสาเหตุของโรคระบาด
ชาวยิวบางรายที่โชคดีก็สามารถหนีไปยังโปแลนด์และลิทัวเนียได้ แต่อีกหลายรายนั้นไม่รอด ส่วนมากจะถูกเผาทั้งเป็น
1
ในสมัยศตวรรษที่ 14 วิทยาศาสตร์และการแพทย์ยังไม่ก้าวหน้าเช่นปัจจุบัน เมื่อเกิดเหตุโรคระบาด ทำให้ผู้คนล้มป่วยและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ชาวคริสต์ในยุโรปส่วนใหญ่ซึ่งไม่สามารถหาเหตุผลของโรคได้ ก็ได้พุ่งเป้า หาผู้ที่จะมาเป็นแพะรับบาป นั่นก็คือ “ชาวยิว”
1
ที่ผ่านมานั้น ชาวยุโรปก็ไม่ได้โปรดปรานชาวยิวอยู่แล้ว ซึ่งความขัดแย้งนั้นก็สามารถย้อนไปได้ตั้งแต่สมัยสงครามครูเสด (หาอ่านรายละเอียดได้ในซีรีส์สงครามครูเสดของผมนะครับ)
สงครามครูเสด
ในเวลานั้น ชาวคริสต์ในยุโรปจำนวนมาก เชื่อว่าได้มีกลุ่มชาวยิว ได้แอบผสมยาพิษลงไปในบ่อน้ำ ซึ่งข้อสังเกตก็มีแค่ว่าชาวยิวไม่ค่อยใช้บ่อน้ำและก็ไม่ค่อยมีใครล้มป่วย
2
ข้อกล่าวหานี้ฟังดูเบามาก และก็อาจจะเป็นเพราะว่าชาวยิวนั้นอยู่กันกระจัดกระจาย ไม่ได้อยู่รวมกัน และยังมีข้อบังคับทางศาสนาเรื่องความสะอาดอีกด้วย ทำให้ชาวยิวไม่ค่อยล้มป่วย
แต่ถึงอย่างนั้น ชาวยิวจำนวนมากก็ถูกจับและนำไปทรมาน ถูกบังคับให้สารภาพว่าวางยาพิษในบ่อน้ำ หากแต่ “สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 6 (Pope Clement VI)” ก็ทรงมีพระสติ ไม่กล่าวหาชาวยิว และประกาศว่าโรคระบาดนั้นทำร้ายได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใดหรือศาสนาใดก็ตาม
1
แต่ถึงแม้จะมีประกาศจากพระสันตะปาปา แต่ก็ดูเหมือนจะไม่สามารถหยุดความบ้าคลั่งของประชาชนลงได้
สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 6 (Pope Clement VI)
การสังหารหมู่ชาวยิวในช่วงเวลาของโรคระบาดนั้น นับว่าโหดร้ายทารุณ
ชาวยิวจำนวนมากจะถูกผู้คนนับร้อยต้อนให้เข้าไปอยู่ในหลุมหรือในบ้าน ก่อนที่จะทำการเผาบ้านหรือหลุมนั้น และหากใครหนีออกมา ก็จะถูกขว้างด้วยหินหรือถูกไม้ตีจนเสียชีวิต
1
ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1349 (พ.ศ.1892) ได้เกิดเหตุการณ์ “การสังหารหมู่ที่สตราสบูร์ก (Strasbourg massacre)” ซึ่งคือการสังหารหมู่ชาวยิวจำนวน 2,000 คนที่เมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส
การสังหารหมู่ที่สตราสบูร์ก (Strasbourg massacre)
“พระเจ้าแคชเมียร์ที่ 3 มหาราช (Casimir III the Great)” กษัตริย์แห่งโปแลนด์ ได้ทรงมีรับสั่งให้ชาวยิวหนีเข้ามาในโปแลนด์และลิทัวเนีย หากแต่คนที่หนีออกมาได้ก็มีเพียงหยิบมือ
ชาวยิวหลายรายต้องเอาตัวรอดด้วยการยอมเข้ารีต นับถือศาสนาคริสต์ หากแต่รายที่ทำสำเร็จส่วนมากคือครอบครัวที่มีเด็กด้วย
พระเจ้าแคชเมียร์ที่ 3 มหาราช (Casimir III the Great)
ทารกหลายรายถูกพรากจากอกของพ่อแม่และนำไปเข้ารีต ในขณะที่พ่อแม่ของเด็กถูกนำไปเผาทั้งเป็น
ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าชาวยิวที่ต้องเสียชีวิตจากความบ้าคลั่งของชาวยุโรปนั้น มีจำนวนเท่าไร แต่ก็พอจะประเมินได้ว่าน่าจะหลายพัน
และเหตุการณ์นี้ก็เป็นหนึ่งในความเศร้าสลดในช่วงเวลาของโรคระบาด และยังคงเป็นที่จดจำจนถึงทุกวันนี้
References:
https://historydaily.org/black-death-massacres-persecutions-against-jews
https://indianexpress.com/article/research/coronavirus-black-death-how-jews-were-blamed-for-the-plague-and-massacred-6406282/
https://www.anumuseum.org.il/blog-items/700-years-before-coronavirus-jewish-life-during-the-black-death-plague/
https://www.montana.edu/historybug/yersiniaessays/pariera-dinkins.html
30 บันทึก
21
9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
บทความประวัติศาสตร์, ข่าวสารทั่วๆ ไป , นอกเรื่อง, ๆลๆ , วันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ.2020-ปัจจุบัน
30
21
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย