27 มี.ค. 2021 เวลา 01:00 • ความคิดเห็น
เรื่องแปลกประหลาดก็คือ ฉันเพิ่งได้คุยกับเพื่อนที่เมืองไทย นางบอกว่าหาซื้อหนังสือ Becoming เล่มแปลเป็นไทยของ มิเชล โอบามาให้ได้แล้วนะ ละพอฉันเปิด Spotify ก็เจอ Podcast แนะนำของมิเชล โอบามา ซะอย่างนั้น (ไอโฟน-แกแอบฟังฉันจริง ๆ สินะ🤔) อย่ากระนั้นเลยลองกดฟังดูก่อนเป็นไร
1
ช่วงนี้เริ่มฟัง Podcast ภาษาอังกฤษได้คล่องขึ้น อีกทั้งคุณมิเชลก็พูดจาชัดถ้อยชัดคำฟังง่ายรื่นสบายหูมาก ๆ วันนี้กดฟังตอนที่เธอเชิญ Conan O’Brien นักแสดงตลกชื่อดังมาคุยกันถึงเรื่องชีวิตแต่งงาน ฟังสนุกมาก จึงขอนำมาฝากกันค่ะ
1
มิเชลเกริ่นขึ้นมาว่า ในรุ่นของเธอไม่มีการพูดถึงเรื่องการแต่งงานจากรุ่นพ่อแม่หรือตายาย ไม่มีการให้ความรู้ หรือถกเถียงกัน ส่วนโคแนนบอกว่า พออายุ 15 เรื่องแต่งงานที่เขาได้รู้ก็มาจากเพื่อนสนิท เป็นการรู้ที่น่าสับสนแต่ไม่เป็นตรรกะ พ่อแม่ไม่เคยพูดถึงเรื่อง Sex เรื่องอารมณ์ หรืออะไรทำนองนี้เลย
มิเชลบอกว่าในรุ่นเธอ ผู้หญิงจะนึกถึงเรื่อง “งานแต่งงาน” มากกว่าเรื่องของ “การแต่งงาน” เราจะนึกถึงเสื้อผ้าชุดเจ้าสาว เพลง การ์ด เค้ก การจัดงาน ฯ
1
โคแนน เล่าถึงภรรยาตอนที่ทั้งคู่ตัดสินใจจะหมั้นกัน แล้วนั่งคุยถึงเรื่องแหวนหมั้นอยู่สองชั่วโมง ว่าจะเลือกแหวนแบบไหนถึงจะเหมาะ แต่พอเขาถามออกไปว่า แล้วแหวนของเขาล่ะ เธอก็ยื่นแคทตาล็อกให้แล้วพูดง่าย ๆ ว่าเลือกเอาสิ เขาจึงสรุปแบบติดตลกว่า งานแต่งงานเป็นเรื่องของผู้หญิง และสำคัญกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
2
Conan O’Brien
❤️A Perfect Time❤️
โคแนนเล่าถึงภรรยาผู้ที่เขารู้สึกว่าเป็นคนที่เหมาะเจาะสมบูรณ์สำหรับเขา แต่นั่นก็หมายถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ได้รู้จักกันด้วย Perfect Person at the Perfect time เมื่อตัวเขานั้นรู้สึกว่าพร้อมที่จะมีใครสักคน เขาก็ได้พบกับเธอพอดี
มิเชลบอกว่าจากที่โคแนนพูดมานี้อยากจะให้หญิงสาวรุ่นใหม่ได้สำรวจตนเองว่า “คุณคือใคร และกำลังมองหาอะไร” เธอเปรียบเทียบการหาคู่ชีวิต ก็เหมือนกับการหาผู้ร่วมทีม เช่นกีฬาบาสเก็ตบอล เราจะมองหาผู้เล่นที่แข็งแกร่ง จ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมและสามารถยกระดับทีมได้อย่าง LeBron James เราจะไม่หาคนที่เป็นตัวถ่วง
เธอเล่าว่าในตอนที่เริ่มสานสัมพันธ์กับบารัค โอบามานั้น เขาแสดงออกชัดเจนว่าต้องการ Dating กับเธอ โดยไม่ลังเล และไม่เสแสร้งหรือวางท่า เขารู้ว่าเขาต้องการอะไรและไม่กลัวที่จะบอกมันออกมา เขาพูดกับเธอว่า “คุณพิเศษ คุณไม่เหมือนใคร และผมอยากจะขอชวนคุณไปเดท” ซึ่งทำให้เธอรู้สึกว่าเขามีเสน่ห์
1
มิเชล และ บารัค โอบามา
❤️การตัดสินใจแต่งงาน❤️
มิเชลเชื่อในเรื่อง ความประทับใจแรกพบ หรือรักแรกพบ แต่สำหรับเรื่องการแต่งงาน มันยาวนาน และมากกว่าเรื่องนั้น ดังนั้นจึงควรมีช่วงเวลาที่ได้นึกและไตร่ตรอง มองดูตัวเองในอนาคตกับผู้ชายคนที่คิดว่าจะแต่งงานด้วย ภาพในอนาคตจะเป็นอย่างไร คุณควรจะได้เห็นตอนที่เขาล้ม ผิดหวัง เสียใจ หรือแม้กระทั่งโมโหโกรธา คุณควรจะได้เห็นตอนที่เขาอยู่กับคุณแม่ของเขาเอง ซึ่งมันต้องใช้เวลาในการที่คุณจะรู้จักใครสักคน
4
มนุษย์ไม่สมบูรณ์แบบ การแต่งงานก็เป็นเรื่องยาก มันยากสำหรับทุกคน ดังนั้นจึงควรตั้งคำถามกับตัวเองว่า คุณอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับใครหรือไม่ คุณอยากจะร่วมสร้างบางอย่างในชีวิตกับใครบางคนมั้ย ซึ่งมันไม่มีพรวิเศษที่จะเสกมันขึ้นมาได้
2
คุณจำเป็นต้องออกค้นหา ลองคบหาดูใจ แล้วดูว่ามีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ ถ้ามันเป็นไปไม่ได้ก็เลิกกัน เพราะนั่นคือความหมายของการคบหาดูใจ เราไม่สามารถทำเล่น ๆ กับความสัมพันธ์ระยะยาวได้ จึงควรถ้วนถี่กับมัน
1
❤️เมื่อมีสมาชิกเพิ่มเข้ามา❤️
เมื่อมีลูก ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป แม้ว่าพื้นฐานการแต่งงานจะเริ่มต้นมาดีก็ตาม คู่สมรสจะสับสนและไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรเมื่อมีลูก
1
ก่อนที่จะมีลูกโคแนนคิดว่า ทุกอย่างน่าจะเหมือนภาพในหนังครอบครัวอบอุ่นสักเรื่อง ที่แม่ดูแลลูกอยู่บ้าน พ่อไปทำงาน ตกเย็นกลับบ้าน มีอาหารตั้งโต๊ะพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกสุขสันต์ แต่ในความเป็นจริงหลังจากมีลูกภรรยาของเขามีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ทั้งยังมีปัญหาการให้นมบุตรด้วยนมแม่ ทำให้เธอมีอาการแพนิค และเขาก็แพนิคตามไปด้วย
1
ส่วนมิเชลเล่าว่า เมื่อเธอมีลูกคนแรก นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอได้ตระหนักถึงความไม่เท่าเทียมของเพศ เพราะเธอเป็นคนที่ต้องรับภาระทั้งอุ้มท้อง และต่อสู้กับฮอร์โมนที่แปรปรวน โดยที่มองดูบารัคยังใช้ชีวิตปกติ
2
❤️เมื่อรู้สึกว่าการแต่งงานล้มเหลว❤️
4
มิเชลคิดว่าจำเป็นต้องพูดถึงช่วงเวลาที่ไม่รื่นรมย์ในชีวิตคู่ เพื่อให้คู่รักรุ่นใหม่ได้ตระหนักว่า มันจะมีช่วงเวลาแบบนั้นจริง ๆ เธอเองก็มีช่วงที่อยากจะโยนบารัคออกทางหน้าต่าง ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องจบลงที่เลิกกัน หากเราไม่พูดถึงด้านนี้เลย คู่รักรุ่นใหม่ อาจจะไม่คาดคิดมาก่อนและพร้อมที่จะยอมแพ้ เพราะคิดว่าการแต่งงานล้มเหลว
3
ถ้าเป็นแบบนั้น เธอและบารัคก็ล้มเหลวกันนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งถ้าเธอยอมแพ้และเดินจากมาในช่วงที่ยากลำบาก เธอก็คงพลาดช่วงเวลาที่งดงามเช่นกัน
3
โคแนนบอกว่า เขาและภรรยาก็ไปพบกับที่ปรึกษาชีวิตคู่ (นักจิตวิทยาบำบัด/จิตแพทย์เฉพาะทาง) เช่นเดียวกับมิเชลและบารัค (เธอเล่าเรื่องนี้ไว้ในหนังสือ Becoming) ไม่ใช่เพราะคิดจะแยกทางหรือมีปัญหารุนแรง แต่อยากจัดการอารมณ์ของทั้งสองฝ่ายให้ดีขึ้น
1
❤️การสื่อสาร❤️
มิเชลคิดว่าเมื่อคนสองคนใช้ชีวิตร่วมกัน ควรจะมีสิทธิ์มีเสียงเท่า ๆ กันในการออกความคิดเห็น ซึ่งผู้หญิงหลายคนเลือกที่จะไม่พูด หรือพูดในสิ่งที่ตรงกันข้ามเมื่อมีปัญหา อีกทั้งบางคนยังมีค่านิยมที่ผิดที่คิดว่า ไม่ควรแสดงอารมณ์ อย่าโกรธให้อีกฝ่ายเห็น อย่างที่พูดกันว่า “Keep it in” ในโลกปกติ ชาย หญิง นั้นไม่เท่าเทียมกันอยู่แล้ว ซึ่งมันก็ส่งผลต่อชีวิตคู่
3
แต่ในบางครั้งเมื่อต่างฝ่ายต่างก็มีความสามารถที่จะส่งเสียงความต้องการออกมาขณะทะเลาะกัน ต่างก็อยากจะชนะทั้งคู่ และก็เผลอใช้เสียงที่มีไปในทางที่ผิด ใช้ไปในทางที่ทำร้ายอีกฝ่าย
เธอบอกว่าเธอเป็นคนที่เวลาทะเลาะจะ Hit fast and hard then forget it ซึ่งบารัคเป็นคนที่ละเอียดอ่อน และอ่อนไหวกว่า บางครั้งก็จดจำถ้อยคำเจ็บแสบได้นานกว่าทั้ง ๆ ที่เธอลืมไปแล้วและไม่เคยจำ
1
ซึ่งทำให้เธอต้องเรียนรู้ที่จะปรับแก้เพื่อที่จะไม่ทำร้ายเขาจนเจ็บช้ำ และพยายามสื่อสารเพื่อที่จะให้อีกฝั่งฟังในสิ่งที่ต้องการสื่อมากกว่าจะทิ่มแทงกัน
ทางฝั่งโคแนนบอกว่า เขาใช้เวลานานกว่าจะเข้าใจว่า เมื่อเวลาทะเลาะกันและอีกฝั่งตะโกนใส่หรือคุมอารมณ์ไม่ได้ แปลว่าทางนั้นกำลังกลัว และคุณต้องพยายามทำความเข้าใจความกลัวนั้น
❤️บทสรุป❤️
1
ทั้งคู่เห็นตรงกันว่า การแต่งงานหรือการใช้ชีวิตร่วมกันกับใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่ายและสะดวกสบาย อีกทั้งจะทำให้มัน work ต้องอาศัยหลากหลายวิธี แต่มันเป็นไปได้ และคุ้มค่าที่จะทำ
ทั้งคู่เห็นด้วยว่า การมีใครอีกคนในชีวิตเพื่อถ่วงดุลกันนั้นจำเป็น การมีใครอีกคนที่รู้จักคุณดีที่สุดนั้นคือความพิเศษในชีวิต
1
อ้างอิงจาก Michelle Obama’s Podcast

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา