28 มี.ค. 2021 เวลา 01:27 • กีฬา
ทำไมนักกีฬา Elite ยังชนกำแพง?
เมื่อวานถ้าใคร Live ของบุรีรัมย์​มาราธอน​ จะเห็นการขับเคี่ยว ระหว่าง เซอเก้ ชาวรัสเซีย​ กับสัญชัย เพื่อแย่งกันเป็น ผู้ชนะบุรีรัมย์​มาราธอนอย่างสนุก
สัญชัย ใส่พลังเร่งที่ zone สูง นำ เซอร์​เก้มาก่อน จนปลาย 5-6 โล สุดท้าย ชนกำแพง ต้องมีวิ่งสลับเดิน ส่วนเซอเก้ พยายามวิ่งอัดขึ้นมา จนใช้ความเร็วแซง สัญชัย และเร่งต่อเนื่อง จนชนกำแพง แรงหมด กล้ามเนื้อเริ่มเป็นตะคริว ถ้าต่ออีก 2-3 โลอาจไม่ไหวแน่ กัดฟันวิ่งคว้าชัยชนะไปในที่สุด ห่างกันแค่ 1 นาทีนิดๆ
อะไรคือคำว่าชนกำแพง?
ขออธิบายง่ายๆ
ร่างกายมี Zone.ออกกำลัง 3 Zone
1 Aeroic Zone ออกกำลังแบบเบา ไปได้เรื่อยๆ zone 1-3 ร่างกายขับของเสีย กรด lactic ออกได้สบาย
พลังงานที่ใช้ ส่วนใหญ่มาจากไขมัน
ร่างกายเรามีไขมันที่ใช้ได้ 2-3 แสน kcal
ดังนั้น นักวิ่งจะวิ่งไปได้เรื่อยๆ ไม่ชนกำแพง
2 Aerobic -​Anarobic Transformation
ช่วงรอยต่อระหว่าง Aerobic กับ Anaerobic
เป็นการออกกำลังกายแบบ หนักขึ้น
ยิ่งหนักยิ่งใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดตรมากขึ้น ใช้ไขมันน้อยลง
นักกีฬา elite ใช้ช่วง Zone นี้ในการ แข่งมาราธอน​ เพราะวิ่งได้ความเร็ว แต่ยังสามารถวิ่งได้ต่อเนื่องยาวๆ ร่างกายเริ่มมี lactic สะสมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังพอเคลียร์ได้ทัน
3 Anaerobic zone
เป็นจุดที่เรียกว่าเลย Lactate thereshold​ ขึ้นไป
ร่างกายจะออกกำลังหนักมากขึ้น ประมาณ zone 4 ปลาย พลังงานที่ใช้แทบทั้งหมด มาจากคาร์โบไฮเดตร ซึ่งมีสะสมในร่างกายได้ประมาณ 1 ชม
นักกีฬาจะวิ่งที่ LT ได้ประมาณ 1 ชม ถ้าเลยจากนี้จะชนกำแพง จาก
พลังงานจากคาร์โบไฮเดตรหมด ต่อให้เติมเจลก็ไม่พอ
เลือดเป็นกรดมากขึ้นจากของเสียคั่ง กล้ามเนื้อจะล้า และเป็นตะคริวในที่สุด จนต้องหยุดวิ่ง
เกมส์เมื่อวาน ทั้งสัญชัยและ เซอเก้ ไม่มีใครอยากวิ่งข้าม zone ที่เสี่ยงการชนกำแพงของตัวเอง แต่มันมีความจำเป็นในการขับเคี่ยว เพราะทั้งคู่สูสีกันมาก แต่ละคนพยายามเร่งแซงอีกคนให้ห่าง เพื่อเป็นเชิงจิตวิทยา ให้อีกคนไม่อยากวิ่งแซงตาม แต่ความที่ทั้งคู่ใกล้เคียงกันมาก ใจสู้ทั้งคู่ และอากาศที่ร้อน ทำให้ทั้งคู่เข้าไปใน Zone แตะ Lactate​thereshold มากเกินไป นานเกินไป จนเกิด limit ของตัวเอง จึงเกิดภาพอย่างที่เห็น ชนกำแพงทั้งคู่
1
คนนึง ต้องเดินสลับวิ่ง อีกคนเริ่มเป็นตะคริว เพราะทั้งคู่รู้ดีว่า ต้องใส่เต็มที่ ไม่งั้นแชมป์ตกเป็นของอีกคนแน่นอน
ถ้าเกมส์​เมื่อวานทั้งคู่ไม่ได้สูสีกันขนาดนี้ เราคงไม่ได้เห็นภาพแบบนี้ในนักกีฬา Elite แน่ๆ ทั้งคู่จะวิ่งตาม Zone ของตัวเอง และเข้าเส้นชัยแบบไม่ทุลักทุเล เขาเรียกว่ามวยถูกคู่ หาดูแบบนี้ได้ยาก เป็นการแข่งที่สนุกมาก
ส่วนนักวิ่งสมัครเล่นง่ายๆ เวลาวิ่งมาราธอน​ให้วิ่งที่ความเหนิ่อย 7-7.5/10 พอ เติม น้ำ เกลือแร่ พลังงานให้เพียงพอ ก็จะไม่ชนกำแพง แต่ถ้าก้าวมาที่ความเหนื่อย 8/10 แล้วแช่นานๆ เมื่อไหร่ รับรองว่า hit the wall ได้ง่ายๆเลย
โฆษณา