31 มี.ค. 2021 เวลา 05:52 • ข่าว
เล่นงานหญิงชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ขณะที่เธอกำลังเดินไปยังโบสถ์ใกล้ไทม์สแควร์ ของนิวยอร์ก เรียกเสียงประณามอย่างกว้างขวาง และก่อความกังวลกรณีผู้เห็นเหตุการณ์เพิกเฉยไม่เข้าแทรกแซงช่วยเหลือใดๆ ท่ามกลางเหตุความรุนแรงต่อต้านคนเอเชียที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ทั่วสหรัฐฯ
มือจู่โจมที่ดำเนินการเพียงลำพังถูกกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ในช่วงสายวันจันทร์ ที่29 มี.ค.2564 ขณะลงมือเตะผู้หญิงวัย 65 ปีที่ จนเธอร่วงไปกองกับพื้น จากนั้นก็ตามกระทืบซ้ำที่บริเวณลำตัว ไม่สาแก่ใจ ชายคนดังกล่าวหมุนตัวหันกลับมากระทืบศีรษะของเธอเต็มแรง พร้อมกับเดินหนีไป
ตำรวจเปิดเผยว่าระหว่างลงมือโจมตีนั้น คนร้ายตะโกนคำหยาบต่อต้านคนเอเชีย และบอกกับเหยื่อว่า “แกไม่ใช่คนของที่นี่”
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นด้านนอกของอาคารอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากไทม์สแควร์เพียงแค่ 2 ช่วงตึก ย่านที่ผู้คนพลุกพล่านและมีตำรวจประจำการอยู่หนาแน่น
ที่น่าสลดคือ ภาพในวิดีโอพบเห็นพนักงาน 2 คน ภายในอาคาร ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ทว่า กลับยืนดูเฉยๆ ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อแต่อย่างใด ปล่อยคนร้ายเดินหนีไปอย่างใจเย็น แถมยังปิดประตูทางเข้าอาคารหลังจากนั้น
บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก เรียกวิดีโอเหตุโจมตีดังกล่าว ว่า “น่าสะอิดสะเอียนและน่าคับแค้นใจอย่างที่สุด” และบอกว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิงที่พวกผู้เห็นเหตุการณ์ไม่เข้าแทรกแซงช่วยเหลือเหยื่อ
“ผมไม่สนหรอกว่าคุณเป็นใคร ผมไม่แคร์ว่าคุณทำอะไร คุณต้องช่วยเหลือเพื่อนร่วมเมืองนิวยอร์กของคุณ” เดอ บลาซิโอ กล่าวระหว่างแถลงสรุปประจำวันในวันอังคาร ที่30 มี.ค.2564
“ถ้าคุนเห็นบางคนถูกเล่นงาน ทำสิ่งที่คุณทำได้ ส่งเสียงดัง โวยวายสิ่งที่เกิดขึ้น พยายามเข้าช่วยเหลือ โทรศัพท์แจ้ง 911 ขอความช่วยเหลือในทันที นี่คือ ส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา เราไม่อาจแค่ยืนมองปล่อยให้การกระทำเลวร้ายเกิดขึ้น”
เหตุโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางอาชญากรรมต่อต้านคนเอเชียที่เพิ่มขึ้นทั่วสหรัฐฯ และเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ หลังเกิดเหตุกราดยิงหมู่ในแอตแลนตา คร่าชีวิตผู้คนไป 8 ราย ในนั้น 6 คนเป็นผู้หญิงเชื้อสายเอเชีย ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นนี้เชื่อมโยงกับการกล่าวโทษผิดๆ ว่า จีนเป็นต้นตอของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และถ้อยคำต่างๆ นานาที่ถูกกล่าวหาว่าเหยียดผิวของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในนั้นรวมถึง “ไวรัสจีน”
ตำรวจเปิดเผยว่า ในปีนี้จนถึงวันอาทิตย์ที่28 มี.ค.2564 ในนิวยอร์ก เกิดอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่มีคนเอเชียเป็นเหยื่อแล้ว 33 คดี เพิ่มขึ้นอย่างมากหากเทียบกัยช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งพบเห็นอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่มีคนเอเชียเป็นเหยื่อ 11 คดี
แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เรียกเหตุโจมตีในวันจันทร์ ที่29 มี.ค.2564 ว่า “น่าขยะแขยงและน่ารังเกียจ” พร้อมสั่งให้กองกำลังเฉพาะกิจต่อต้านอาชญากรรมจากความเกลียดชังของตำรวจรัฐ ช่วยเหลือกรมตำรวจนิวยอร์ก แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยรายใด
กองกำลังเฉพาะกิจต่อต้านอาชญากรรมจากความเกลียดชังของกรมตำรวจนิวยอร์ก ซึ่งเป็นผู้สืบสวนเหตุโจมตีครั้งนี้ เผยแพร่วิดีโอของเหตุโจมตีและภาพถ่ายของผู้ต้องสงสัยในวันจันทร์ที่29 มี.ค.2564 พร้อมร้องขอผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่
โฆษกของโรงพยาบาลเปิดเผยว่า ผู้หญิงที่ถูกเล่นงานเมื่อวันจันทร์ ที่29มี.ค.2564 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล บาดเจ็บสาหัส แต่อาการทรงตัว
Brodsky Organization ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้จัดการอาคาร เขียนบนอินสตาแกรมว่าทราาบเรื่องเกี่ยวกับเหตุจู่โจมแล้ว และบอกว่า พนักงาน 2 คนที่เห็นเหตุการณ์จะถูกพักงานระหว่างการสืบสวน
อย่างไรก็ตาม ทางหัวหน้าสหภาพแรงงานซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้ง 2 โต้แย้งคำกล่าวหาที่ว่าเจ้าหน้าที่ประจำประตูไม่ยอมดำเนินการใดๆเพื่อเข้าแทรกแซงเหตุการณ์ โดยชี้แจงทางสหภาพได้รับคำชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองได้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือแล้วในทันที
Referrenc
รอยเตอร์
“สหภาพของเรากำลังดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อข้อมูลที่สมบูรณ์กว่าเดิม และขอวิงวอนประชาชนอย่าด่วนตัดสินเร็วเกินไป ในระหว่างที่กำลังสรุปข้อเท็จจริงต่างๆ” ประธานสหภาพกล่าวในถ้อยแถลงเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “แน่นอนว่า มันป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความเกลียดชังที่มีต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เดอร์มอต เชีย ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจนิวยอร์ก บอกว่า ทางสำนักงานจะยกระดับการเข้าถึงและลาดตระเวนในชุมนุมต่างๆ ที่มีชาวเอเชียพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ในนั้นรวมถึงใช้เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเพื่อป้องกันและขัดขวางเหตุโจมตี
เหตุการณ์เมื่อวันจันทร์ (29 มี.ค.) เกิดขึ้นที่ย่าน Hell's Kitchen ซึ่งเป็นถิ่นของคนผิวขาว มีประชากรเอเชียไม่ถึง 20%
(ที่มา: เอพี)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา