Podcast..รายการหนึ่งถ้วยกาแฟ ฟุ้ก เป็นประธานาธิบดี เวียดนามคนใหม่
เหวียน ซวน ฟุ้ก ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของเวียดนาม ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศในกรุงฮานอย ในวันที่ 5 มี.ค.64
เหวียน ซวน ฟุ้ก วัย 66 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีของเวียดนามในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ผู้ที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเฟื่องฟู และการแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาลของเขาได้รับเสียงชื่นชมทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ
หลังการลงคะแนนเสียงลับในวันจันทร์ ที่5มี.ค.2564 เหวียน ซวน ฟุ้ก ได้คะแนนสูงสุดจากสมัชชาแห่งชาติ เกือบ 500 คน
เหวียน คัก ซาง ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองเวียดนามจากมหาวิทยาลัยวิคตอเรียแห่งเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ กล่าวว่า “นี่เป็นรางวัลที่เขาสมควรได้รับ”
เวียดนามอยู่ภายใต้การดำเนินการของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่นำโดยเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรี โดยมีสมาชิกโปลิตบูโร 18 คน เป็นผู้ตัดสินใจเรื่องสำคัญในประเทศ
เวียดนามอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผู้นำที่เกิดขึ้นทุกๆ 5 ปี โดยเหวียน ฝู จ่อง อายุ 76 ปี ได้รับเลือกเมื่อเดือน ม.ค. 2564 ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคต่ออีกสมัย ตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญที่สุด
ฝ่าม มีง จีง (Pham Minh Chinh) อายุ 62 ปี อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ เข้าสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เวียดนาม คนต่อไป
เหวียน ซวน ฟุ้ก เป็นผู้สมัครเพียงรายเดียวที่ถูกเสนอชื่อสำหรับตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากเหวียน ฝู จ่อง ที่ครองตำแหน่งประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี 2561 แทนผู้ดำรงตำแหน่งคนก่อนหน้าที่เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน
หลังเข้าสาบานตน ฟุ้ก กล่าวว่า เขารู้สึกโชคดีและเป็นเกียรติที่ได้รับตำแหน่งนี้
ซึ่งเวลานี้เป็นเพียงอันดับ 2 รองจากเหวียน ฝู จ่อง ในระดับขั้นอำนาจเท่านั้น
ผู้นำโปลิตบูโรโดยปกติจะเกษียณอายุเมื่ออายุครบ 65 ปี แต่เวียดนามเพิ่งปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ด้านอายุสำหรับทั้งคู่
แม้ว่าตำแหน่งประธานาธิบดีจะมีบทบาทในทางพิธีการเป็นส่วนใหญ่ แต่ในเวลานี้ เหวียน ซวน ฟุ้ก จะเป็นสมาชิกอันดับ 2 ในพรรค ที่เพิ่มน้ำหนักให้แก่การชิงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ หากเหวียน ฝู จ่อง ก้าวลงจากตำแหน่งเร็วกว่าที่คาด เหวียน คัก ซาง ระบุ
มีข่าวลือแพร่สะพัดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับสุขภาพของเหวียน ฝู จ่อง หลังเขาหายตัวไปนานนับเดือนในปี 2562
เหวียน คัก ซาง ระบุว่า ประสบการณ์ของฟุ้กในเรื่องการจัดการความสัมพันธ์ของเวียดนามกับสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารที่ปั่นป่วนของโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลดีต่อเขาในแง่ของความรับผิดชอบด้านการต่างประเทศในฐานะประธานาธิบดี
ฝ่าม มีง จีง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ระบุว่าบทบาทที่ได้รับถือเป็นเกียรติยศ ขณะเดียวกันก็เป็นความรับผิดชอบที่หนักหน่วง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเวียดนาม บอกว่า
"รัฐบาลจะยังมุ่งมั่นต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชั่นและความสุรุ่ยสุร่ายไร้ประโยชน์" และ "มุ่งมั่นที่จะปกป้องบูรณาภาพแห่งดินแดนและอธิปไตย"
Referenc
AFP