Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนังสือสนทนากับพระเจ้า
•
ติดตาม
1 เม.ย. 2021 เวลา 07:33 • หนังสือ
#33 เล่ม 2 บทที่ 12 หน้า 217 ~ 221
...
การแบ่งปันต้องเป็นวิถีในการดำเนินชีวิต การแบ่งปันไม่ใช่คำสั่งที่ถูกกำหนดไว้โดยรัฐบาล การแบ่งปันต้องเป็นไปโดยสมัครใจ ไม่ใช่การบังคับกัน
...
...
...
N : มันก็วนกลับมาเข้าเรื่องเดิมอีก❗ ซึ่งจริงๆแล้ว`รัฐบาลก็คือประชาชน`นั่นเอง โครงการอะไรต่างๆก็เป็นเพียงแค่กลไกที่มีไว้ให้รัฐบาล (หรือก็คือตัวแทนของประชาชน) สามารถแบ่งปันแก่คนจำนวนมากได้ในฐานะที่เป็น "วิถีในการดำเนินชีวิต"
และผมก็แย้งได้ว่าประชาชนที่รวมตัวกันผ่านทางระบบการเมือง ได้เลือกทำอย่างนั้น (ใช้โครงการเพื่อแบ่งปัน) เพราะพวกเขาสังเกตจากหน้าประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นแล้วว่า "ผู้มีจะกิน" ไม่ยอมแบ่งปันแก่ "ผู้ไม่มีจะกิน"
ชาวนารัสเซียต้องรอจนหนาวจะตายอยู่แล้วกว่าพวกชนชั้นสูงในประเทศจะแบ่งปันความมั่งคั่งมาให้บ้าง ซึ่งความมั่งคั่งของคนเหล่านี้ตามปรกติแล้วก็เกิดขึ้นและเพิ่มมากขึ้นจากหยาดเหงื่อและการทำงานหนักของชาวนานี่แหละ ชาวนาได้รับส่วนแบ่งเพียงแค่ไม่ให้อดตาย เพื่อเป็น "แรงจูงใจ" ให้ยังคงทำงานในที่ดินนั้นต่อไป เพื่อทำให้พวกเจ้าของที่ดินทั้งหลายรวยมากขึ้น
เมื่อพูดถึง `ความสัมพันธ์แบบพึ่งพา`❗ ก็เป็นแบบ `ข้าจะช่วยเอ็งถ้าเอ็งช่วยข้า` ซึ่งขูดรีดและต่ำช้ายิ่งกว่าเรื่องไหนๆที่รัฐบาลเคยทำมาเสียอีก❗
ความต่ำช้าแบบนี้นี่ล่ะที่ทำให้เหล่าชาวนารัสเซียต้องลุกขึ้นปฏิวัติ รัฐบาลซึ่งรับประกันว่าประชาชนทุกคนจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมนั้นก็เกิดขึ้นมาจากความไม่พอใจของประชาชนที่ "คนรวย" ไม่ยอมแบ่งปันแก่ "คนจน" `โดยสมัครใจ`
ก็พระนางมารี อองตัวเนต★ ไม่ใช่หรือที่พูดกับประชาชนผู้อดอยากเสื้อผ้าขาดวิ่นจำนวนมากที่ร้องตะโกนอยู่ด้านล่างหน้าต่างของพระราชวัง ขณะที่ทรงนอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำฝังมุกที่ตั้งอยู่บนแท่นที่ประดับไปด้วยเพชรพลอย เคี้ยวองุ่นนำเข้าจากต่างประเทศแล้วบอกว่า "ไปหาขนมเค้กกินแทนก็แล้วกัน❗"★★
★Marie Antoinette : (2298 - 2336) ราชินีแห่งฝรั่งเศสสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
★★ "ไปหาขนมเค้กกินแทนก็แล้วกัน!" : ประชาชนในกรุงปารีสซึ่งสั่งสมความไม่พอใจต่อสถาบันกษัตริย์ที่ใช้ชีวิตหรูหราฟุ้งเฟ้อและใช้อำนาจตามอำเภอใจ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับงานเลี้ยงพระกระยาหารหนึ่ง ซึ่งเป็นงานพระราชพิธีที่ฟุ่มเฟือย ขณะที่ประชาชนกำลังอดอยากไม่มีขนมปังจะกิน จนในที่สุดประชาชนได้เดินขบวนประท้วงมาถึงพระราชวังแวร์ซายส์ เพื่อเรียกร้องขอขนมปัง
พระนางมารีได้กล่าวว่า "หากพวกท่านไม่มีขนมปังกินก็ไปหาขนมเค้กมากินแทนก็แล้วกัน" คำกล่าวนี้ได้จุดชนวนให้ประชาชนไม่พอใจเพิ่มมากขึ้น สุดท้ายระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส พระนางและเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ถูกสำเร็จโทษด้วยเครื่องกิโยติน
~ ผู้แปล
ทัศนคติแบบนี้นี่ล่ะที่ผู้คนรับไม่ได้ นี่แหละที่เป็นเงื่อนไขให้เกิดการปฏิวัติและสร้างรัฐบาลที่ถูกเรียกว่าเผด็จการขึ้นมา
รัฐบาลที่เอาจากคนรวยมาเผื่อแผ่คนจนถูกเรียกว่ากดขี่ ขณะที่รัฐบาลซึ่งไม่ทำอะไรเลยในยามที่คนรวยกำลังขูดรีดคนจนกลับได้รับการสนับสนุน
ไปถามชาวนาเม็กซิโกทุกวันนี้ดูก็ได้ มีคนบอกว่าจริงๆแล้วทั้งประเทศถูกขับเคลื่อนด้วยอิทธิพลของพวกคหบดีและผู้มีอำนาจแค่ประมาณ 20 - 30 ตระกูล (ก็เพราะคนพวกนี้ยึดประเทศเป็นของตัวเองได้แล้วน่ะสิ❗) ขณะที่คนอีกยี่สิบสามสิบล้านคนต้องอดอยากอย่างน่าสังเวช
นี่ไงทำให้ช่วงปี 1993 -1994 เหล่าชาวไร่ชาวนาถึงได้ลุกฮือขึ้นมา โดยพยายามบังคับให้พวกชนชั้นสูงในรัฐบาลตระหนักถึงหน้าที่ที่ต้องช่วยเหลือประชาชนให้มีรายได้เลี้ยงชีพพอที่จะรักษาศักดิ์ศรีขั้นต่ำสุดเอาไว้ได้
มีความต่างกันอยู่ระหว่างรัฐบาลของพวกผู้ดีชั้นสูงกับรัฐบาล "ของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน"
ก็รัฐบาลของประชาชนไม่ได้เกิดมาจากผู้คนที่โกรธแค้นซึ่งไม่พอใจกับความเห็นแก่ตัวอันเป็นธรรมชาติขั้นพื้นฐานของมนุษย์หรือไง❓ ก็โครงการของรัฐบาลไม่ได้มีไว้เพื่อแก้ไขภาวะที่มนุษย์ไม่ยอมช่วยเหลือกันหรือ❓
แล้วนี่ไม่ได้เป็นที่มาของกฏหมายที่อยู่อาศัยที่เป็นธรรม ข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็ก โครงการช่วยเหลือผู้เป็นแม่ที่มีภาระต้องเลี้ยงดูลูกที่ยังพึ่งตัวเองไม่ได้ไม่ใช่หรือ❓
แล้วก็ประกันสังคมไม่ได้เป็นความพยายามของรัฐบาลที่จะเลี้ยงดูผู้สูงอายุที่ครอบครัวของตัวเองไม่ยอมเลี้ยงดูหรือไม่สามารถจะเลี้ยงดูได้หรือไง❓
เราจะมีทางประสานการไม่ชอบให้รัฐบาลมาควบคุมกับการที่พวกเราจะไม่ยอมทำอะไรทั้งนั้นถ้าไม่ถูก`บังคับให้ต้องทำ`ได้ไหม❓
มีคนบอกว่าคนงานเหมืองถ่านหินต้องทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมสุดย่ำแย่ก่อนที่รัฐบาลจะออกกฏข้อบังคับให้เจ้าของเหมืองบัดซบผู้ร่ำรวยปรับสภาพเหมืองบัดซบนั่นให้ดีขึ้น แต่ทำไมพวกเจ้าของเหมืองถึงไม่ทำตั้งแต่แรกล่ะ❓
ก็เพราะเดี๋ยว`กำไร`มันจะลดลงไง❗ พวกคนรวยไม่สนหรอกว่าคนจนมากมายแค่ไหนต้อง`ตายไป`เพราะเหมืองที่ไม่ปลอดภัย ขอเพียงแค่ให้กิจการของตัวเองมีกำไรและเติบโตต่อไปได้เรื่อยๆเท่านั้นก็พอ
ภาคธุรกิจจ่ายค่าแรง`เยี่ยงทาส`แก่ผู้ใช้แรงงานตั้งแต่แรกก่อนรัฐบาลจะออกข้อกำหนดเกี่ยวกับค่าแรงขั้นต่ำออกมา คนที่อยากให้ย้อนกลับไปสู่ "วันคืนชื่นสุขในอดีต" จะบอกว่า "แล้วไงล่ะ❓ ธุรกิจพวกนี้`ทำให้คนมีงานทำ`ไม่ใช่หรือ❓ แล้วใครเป็นคนที่แบกรับ`ความเสี่ยง`กันเล่า❓ คนงานหรือ❓ ก็เปล่า❗ โน่น พวก`นักลงทุน`กับ`เจ้าของธุรกิจ`โน่นที่ต้องแบกรับความเสี่ยงทุกอย่าง❗ ผลตอบแทนก้อนใหญ่สุดก็ต้องตกเป็นของคนพวกนี้สิ❗
ใครก็ตามที่มีความคิดว่าคนงานซึ่งเจ้าของธุรกิจต้องพึ่งพาอาศัยแรงงานของพวกเขาอยู่นี้ ควรได้รับการปฏิบัติอย่างมีศักดิ์ศรีแล้วล่ะก็ จะถูกเรียกว่าไอ้พวก`คอมมิวนิสต์`
ใครก็ตามที่คิดว่ามนุษย์ไม่ควรถูกปฏิเสธเรื่องที่พักอาศัยเพียงเพราะสีผิว จะถูกเรียกว่าไอ้พวก`สังคมนิยม`
ใครก็ตามที่คิดว่าผู้หญิงไม่ควรถูกปฏิเสธโอกาสในการเข้าทำงานหรือการเลี่อนขั้นเพียงเพราะเกิดผิดเพศ จะถูกหมายหัวว่าเป็นพวก`สตรีนิยมหัวรุนแรง`
และเมื่อรัฐบาล (ซึ่งได้รับเลือกตั้งจากประชาชน) พยายามจะเข้ามาแก้ไขปัญหาที่ผู้มีอำนาจในสังคมปฏิเสธอย่างแข็งขันที่จะไม่ยอมแก้ปัญหา รัฐบาลก็จะถูกด่าว่ากดขี่ข่มเหงประชาชน❗ (ซึ่งคนที่ด่าอย่างนี้ก็ไม่ใช่พวกที่ได้รับการช่วยเหลือหรอก แต่มาจากพวกที่ไม่ยอมช่วยเหลือคนอื่นมาตั้งแต่แรกนั่นแหละ)
และไม่มีเรื่องไหนจะชัดไปกว่าเรื่องการให้บริการทางด้านสุขภาพอีกแล้ว ในปี 1992 ประธานาธิปดีอเมริกันและภรรยาได้มีข้อสรุปออกมาว่ามันไม่ยุติธรรมและไม่เหมาะสมกับชาวอเมริกันนับล้านที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงระบบการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เรื่องนี้ทำให้ทั่วทั้งประเทศเกิดการถกเถียงเกี่ยวกับการบริการด้านสุขภาพจนถึงขนาดทำให้คนในวงการแพทย์และบริษัทประกันออกมาทะเลาะกันยกใหญ่
ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่าทางแก้ปัญหาของใครดีกว่ากันระหว่างแผนที่เสนอโดยกระทรวงหรือแผนจากภาคเอกชน แต่ปัญหาจริงๆอยู่ที่ว่า "ทำไมบริษัทในภาคเอกชนถึงไม่ยอมเสนอแผนนี้ออกมาตั้งนานแล้วเล่า❓"
ผมจะบอกให้ว่าทำไม ก็เพราะมันยัง`ไม่มีความจำเป็น` ก็ไม่มีใครออกมาโวยวายนี่ และก็เพราะอุตสาหกรรมนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยผลกำไรเป็นหลัก
กำไร กำไร และ 💢กำไร💢
ดังนั้นประเด็นของผมก็คือ เราจะประท้วง โวยวาย และพร่ำบ่นอย่างไรก็ได้ เพราะความจริงง่ายๆมีอยู่ว่ารัฐบาลจะเป็นคนจัดการแก้ปัญหาให้พวกเราเมื่อภาคเอกชนไม่ยอมทำ
เราอาจอ้างได้ว่ารัฐบาลไม่ได้กำลังทำตามความต้องการของประชาชน แต่ถ้าหากประชาชนยังควบคุมรัฐบาลได้อยู่ (ซึ่งเป็นแบบนั้นมากทีเดียวในสหรัฐฯ) รัฐบาลก็จะยังคงสร้างและบังคับให้เกิดการแก้ปัญหาความเจ็บป่วยทางสังคมเพราะ`ประชาชนส่วนใหญ่`ไม่ได้ร่ำรวยและมีอำนาจ ถึงต้องออกเป็นกฏหมายที่โดยปกติแล้วสังคมจะไม่ยอมออกให้โดยสมัครใจไง
จะมีก็แต่ประเทศที่คนส่วนใหญ่`ไม่มี`อำนาจควบคุมรัฐบาลเท่านั้นแหละที่รัฐบาลจะทำอะไรเพียงเล็กๆน้อยๆหรือไม่ทำอะไรเลยในเรื่องความเท่าเทียม
ดังนั้นปัญหาก็คือ : รัฐบาลต้องทำมากแค่ไหนถึงจะเรียกว่ามากเกินไป❓ และแค่ไหนถึงจะเรียกว่าน้อยเกินไป❓ ความสมดุลอยู่ตรงไหนและต้องทำยังไง❓
G : โว้ววว❗ ไม่เคยเห็นเธอเป็นอย่างนี้มาก่อนเลย❗ ร่ายยาวที่สุดตั้งแต่ที่เคยคุยกันมาทั้งสองเล่มเลยล่ะ
N : ก็เห็นพระองค์บอกว่าเล่มนี้จะคุยกันถึงปัญหาใหญ่ระดับโลกบางอย่างที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่ ผมคิดว่าผมคงได้พูดถึงปัญหาข้อใหญ่ๆออกไปแล้ว
G : พูดได้จับใจมาก คนมากมายตั้งแต่ทอย์นบี★ ไปจนถึงเจฟเฟอร์สัน★★ ยันมาร์กซ์★★★ ต่างพยายามแก้ไขปัญหานี้มาเป็นร้อยๆปีแล้ว
★อาโนลด์ ทอย์นบี / Arnold J. Toynbee (1889 - 1975) หนึ่งในนักประวัติศาสตร์ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผู้เฝ้าศึกษาเหตุปัจจัยแห่งความรุ่งเรืองและร่วงโรยของอารยธรรมมนุษย์
★★โธมัส เจฟเฟอร์สัน / Thomus Jefferson (1743 - 1826) ประธานาธิบดีคนที่ 3 ของสหรัฐอเมริกา ผู้ร่างคำประกาศอิสรภาพ (Declaration of Independence) ของสหัฐอเมริกา
★★★คาร์ล มาร์กซ์ / Karl Marx (1818 - 1883) นักคิดและนักปฏิวัติผู้มีอิทธิพลสูงสุดต่อแนวคิดระบอบคอมมิวนิสต์และระบอบสังคมนิยม
~ ผู้แปล
N : โอเค แล้วอะไรคือทางแก้ของพระองค์ครับ❓
G : เราจำเป็นต้องย้อนกลับไปที่เดิม ต้องกลับไปที่หลักการเดิมกันสักหน่อย
N : เอาเลยครับ บางทีผมอาจจำเป็นที่จะต้องได้ยินมันอีกสักรอบ
G : เราจะเริ่มกันตรงความจริงที่ว่า ฉันไม่มี "ทางแก้" ให้หรอกนะ เพราะฉันไม่เห็นอะไรพวกนี้ว่าเป็นปัญหา มันก็แค่เป็นอย่างที่เป็น ฉันไม่มีความชอบหรือไม่ชอบอะไรทั้งนั้น ในที่นี้ฉันเพียงแค่อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นก็เท่านั้น สิ่งที่ไม่ว่าใครก็ตามสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
N : โอเคครับ พระองค์ไม่มีทางแก้ให้และก็ไม่มีความชอบหรือไม่ชอบใดๆด้วย ทีนี้พระองค์จะให้ข้อสังเกตกับผมได้หรือยังครับ❓
...
...
...
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สนทนากับพระเจ้า เล่ม 2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย