6 เม.ย. 2021 เวลา 00:30 • กีฬา
Life is marathon ชีวิตก็เหมือนการวิ่งมาราธอน ผมไม่เคยเข้าใจมาก่อนเลยว่ามันคืออะไร จนผมได้ไปวิ่งมาราธอน ผมก็ได้เข้าใจคำว่า “ life is marathon “ มากยิ่งขึ้น
https://www.spenditlikestanford.com/marathon-weekend-in-nyc/
การไปวิ่งมาราธอน ของผมนั้นเริ่มจากผมวิ่งออกกำลังกายในสนามกีฬาปกติ เพื่อให้สุขภาพแข็งแรงโดยวิ่งวันละ 10 กิโลเมตร และได้มีพี่ที่ทำงานชวนลงวิ่งมาราธอน ในใจผมคิดว่าจะไหวหรอ เราวิ่งแค่ 10 กิโลเอง มาราธอนตั้ง 42 กิโล
แต่การสมัครมันต้องลุ้นอีกทีว่าเราจะได้ไหม และสุดท้ายผมก็ได้ผ่านการสมัคร ในใจคิดว่าซวยแล้วเรา ทำยังไงดีปกติที่เคยวิ่งแค่ 10 กิโลเมตรคราวนี้มากกว่าตั้ง4เท่า
ในเมื่อมันไม่มีทางเลือก ผมจึงหาข้อมูลซ้อม เพื่อไปมาราธอนพยามเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด
ผมเริ่มเพิ่มระยะวิ่งของตนเองโดยมีหนึ่งวันของทุกๆสัปดาห์จะเป็นการวิ่งระยะยาว ผมวางแผนจะวิ่ง 15 18 21 23 ขยับไปเรื่อยๆ ในทุกๆสัปดาห์
และในการวิ่งมาราธอนครั้งแรกของผมก็มาถึง ผมพยามไม่ตื่นเต้นเพราะจะเสียพลังงาน พยายามมีสมาธิกับการวิ่ง 10 กิโลเมตรแรกผมวิ่งได้ตามแผน 21 กิโลเมตรแรกเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งผมพอใจกับเวลานี้มาก
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ในกิโลเมตรที่31 ผมมีอาการเจ็บเข่าทางด้านซ้ายตอนนั้นเหลือระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตรในใจผมคิดว่า เราจะใช้เวลาเท่าไหร่กว่าจะไปถึงเส้นชัย ปกติก็วิ่งประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆสำหรับ12กิโล เดินก็น่าจะ 2 ชั่วโมงนิดๆ และผมก็พาตัวเองให้เข้าเส้นชัยได้ในที่สุด ในเวลารวม 5 ชั่วโมง
ผมได้อะไรบ้างจากการวิ่งมาราธอน
1.ความอดทนของร่างกายและจิตใจ จิตใจที่มันกระซิบว่าพอเถอะ พอเถอะ!!! ร่างกายก็เตือนเราว่ามันเหนื่อย มันล้า อย่างเดียวที่ผมคิดคือจะต้องเข้าเส้นชัยให้ได้ จะไม่ยอมแพ้ มาราธอนครั้งแรก ก็มีครั้งเดียวจะทำให้ดีที่สุด
2.วินัยผมมีวินัยสูงมาก ก่อนไปมาราธอนทุกๆเช้าวันเสาร์ผมจะตื่นตี5.30 เพื่อไปซ้อมวิ่งระยะไกลในทุกเสาร์ ในวันศุกร์ผมปฏิเสธเพื่อนๆในการสังสรรค์ เพื่อจะได้ตื่นไปซ้อมวิ่ง
3.ได้เห็นตัวเองในเวลาที่มันเหนื่อยสุดๆ ล้าสุดๆ มันเป็นแบบไหน เราให้กำลังใจตัวเองยังไง ตลอด 42 กิโลเมตรผมคุยกับตัวเองตลอด
4.รู้จักสมดุลย์ แน่นอนผมฝืนร่างกายอย่างมากที่จะวิ่งให้จบในกิโลเมตรที่ 40 จุดบริการน้ำส่งเสียงบอกนักวิ่งทุกๆคนว่าให้เอาน้ำราดหัวด้วย เดี๋ยวจะเป็นฮิสสโตรก ผมนึกขึ้นมาได้เลยว่าต้องรีบเอาน้ำราดหัวเพราะถ้าเราเป็นฮิสสโตรก สิ่งที่เราทำมาตลอด 40 กิโลเมตรมันจะพังโรงงานมาในพริบตา
5.ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ผมวิ่งจบ 42 กิโลเมตรได้มันไม่ได้มาจากผมวิ่งในครั้งเดียว 42 กิโลเมตร แต่มันมาจากการสะสมใช้เวลาเป็นปีๆในการวิ่งทุกๆวันวันละ 10 กิโลการมีวินัยและไม่ย่อท้อ
และนี่ก็เป็นมาราธอนของผม ทำให้ผมเข้าใจหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตตัวเองเพิ่มมากขึ้น แล้วมาราธอนของคุณล่ะเป็นยังไงมาแบ่งปันกันได้นะครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านฝากกดติดตามหากมีข้อเสนอแนะสามารถเสนอแนะกันได้นะครับขอบคุณครับ
โฆษณา