วันนี้ตัดสินใจเอาที่เขี่ยบุหรี่ออกจากระเบียงห้องพักทุกห้องแล้วค่ะ
อันที่จริง เราก็เป็นโรงแรมแบบ non-smoking rooms นะคะ
ตั้งใจจะเป็นแบบนั้นมาตลอด
เพราะโดยส่วนตัวส้มไม่สูบบุหรี่ค่ะ
และคนที่บ้านก็ไม่มีใครสูบบุหรี่
คุณแม่เป็นหืดหอบอยู่แล้ว
ยิ่งไม่มีทางที่คนใกล้ตัวจะสูบบุหรี่กันได้
ส่วนส้มไม่ชอบกลิ่นบุหรี่เลย
ไม่รู้เกี่ยวกับภูมิแพ้ไหม แต่มันจะทำให้หายใจลำบาก
พอเราทำโรงแรม
ส้มก็ไม่เคยคิดจะทำโรงแรมที่สามารถสูบบุหรี่ได้ในห้องเลย
แต่ว่าก่อนหน้านั้น คุณอาที่ดูแลห้องท่านสูบบุหรี่
ก็เลยจัดให้โรงแรมสามารถสูบบุหรี่ได้
มีการจัดที่เขี่ยบุหรี่ไว้ที่ระเบียงทุก ๆ ห้อง
พอส้มกลับมาดูแล
เราก็ปรับในส่วนนี้เล็กน้อย
อยากให้สูบบุหรี่นอกห้อง ไม่ใช่ในห้อง
ก็เลยไปทำป้ายห้ามสูบบุหรี่ในห้อง
แต่ยังให้สามารถสูบบุหรี่ที่ระเบียงได้ค่ะ
โดยมีป้ายแจ้งให้ทราบ ว่าหากพบว่ามีการสูบบุหรี่ในห้อง
เราก็จะมีค่าปรับด้วย
เพื่อกันปัญหาห้องติดกลิ่นบุหรี่
ในความเป็นจริง
แขกที่มาพักกับเราสูบบุหรี่ไม่เยอะนะคะ
น้อยมาก น่าจะไม่ถึง 10%
ส่วนใหญ่เป็นคนจีนด้วย
แต่หลังจากเรา renovate โรงแรมแล้ว
เรามีการแยกโซนให้สามารถสูบบุหรี่ชัดเจนอยู่นอกอาคาร
แล้วก็มาเจอช่วงโควิดที่ไม่ค่อยมีแขกคนจีนแล้ว
อัตราการเข้าพักของแขกที่สูบบุหรี่ของเราก็ไม่ได้เยอะมาก
และเราเองก็เริ่มโฟกัสแขกที่เข้าพักเป็นครอบครัวที่มีเด็กมากขึ้น
ด้วยการเพิ่ม facilities เน้นเด็กมากขึ้น
ดังนั้น การจะมีที่เขี่ยบุหรี่วางในส่วนใดส่วนหนึ่งของห้องพัก
น่าจะไม่เหมาะสมอีกต่อไปกับโรงแรมของเรา
คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่
เห็นที่เขี่ยบุหรี่ในห้อง
ก็อดนึกภาพตามไม่ได้ว่า ห้องนี้ต้อนรับคนสูบบุหรี่
ถึงแม้ว่า จะไม่มีคนสูบบุหรี่ก็ตาม
เพราะเห็น จึงคิดว่า มี
บางครั้งการมีทุกอย่างพร้อมให้แขกก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปค่ะ
ดังนั้น วันนี้ ส้มเลยตัดสินใจเอาที่เขี่ยบุหรี่ออก
ให้ไม่สามารถสูบบุหรี่ในห้อง ตรงระเบียงได้เลย
หากต้องการสูบบุหรี่ ต้องออกไปสูบที่ศาลา
ตรง smoking area แทน
ก็เป็นการทำให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
และสร้างความสบายใจให้แขกท่านอื่นที่มาพักมากขึ้นด้วยค่ะ
พัฒนาไปอีกเรื่องเนอะ ชญาดล
04.04.21
#ChayadolDaily #บันทึกจากเรือนชญาดล
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
