Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
KidKorn คิดก่อน
•
ติดตาม
16 เม.ย. 2021 เวลา 06:38 • ประวัติศาสตร์
คลายข้อสงสัยการปฏิวัติฝรั่งเศส ตั้งแต่ต้นจนจบแบบละเอียดยิบ
ในตอนแรกนี้เราจะเริ่มจาก สาเหตุที่ทำให้เกิดการปฏิวัติฝรั่งเศสคืออะไร?
โดยสาเหตุที่เราจะพูดถึงนี้ ครอบคลุมทั้งด้านการเมือง สังคม และ เศรษฐกิจ
แน่นอนว่าสาเหตุการปฏิวัติเป็นด้านการเมืองเป็นหลัก เรื่องนี้ต้องย้อนไปในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งเป็นยุคที่ฝรั่งเศสมีความรุ่งเรือง แต่ในขณะเดียวกันก็มีการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยไปกับราชสำนัก ที่เห็นได้ชัดคือการสร้างพระราชวังแวร์ซาย
Credit: http://en.chateauversailles.fr/homepage
อีกด้านหนึ่ง การสร้างพระราชวังแวร์ซายนั้นแสดงความต้องการของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่ต้องการลดทอนอำนาจของขุนนาง เนื่องจากพระองค์โปรดปรานให้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงานมากกว่า มีนักวิชาการวิเคราะห์ว่า การสร้างประเพณีต่างๆให้ขุนนางปฏิบัติในแวร์ซาย ประเพณีการเข้าเฝ้าที่ใช้เวลาสุดๆ ถือเป็นการที่พระองค์ต้องการลดทอนอำนาจขุนนางเหล่านี้ โดยการให้ขุนนางเหล่านี้เข้ามาอยู่ใกล้ตัว อยู่ในสายพระเนตร นั่งๆนอนๆในพระราชวังแทนการไปปฏิบัติงานข้างนอก
เรื่อยมาจนถึงรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ที่ฝรั่งเศสมีการทำสงคราม 7 ปีกับอังกฤษ และพ่ายแพ้ ฝรั่งเศสสูญเสียอาณานิคมในหลายแห่งให้อังกฤษ รวมถึงปัญหาการคลังที่สะสมมาเรื่อยๆ
Credit: https://en.wikipedia.org/wiki/France_in_the_Seven_Years%27_War
จนถึงสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ฝรั่งเศสยังคงเข้าร่วมกับสงคราม โดยการรบอังกฤษในสงครามประกาศอิสรภาพของอเมริกา นำไปสู่ปัญหาทางการคลัง ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม และการกดขี่ของชนชั้นนำ
Credit: https://en.chateauversailles.fr/discover/history/great-characters/louis-xvi
สาเหตุอีกด้านที่นำไปสู่การปฏิวัติฝรั่งเศส คือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม
ฝรั่งเศสในสมัยนั้น มีชนชั้นทางสังคม คือ พระ ชนชั้นสูง และสามัญชน
Credit: https://hitlerfinalsolution.weebly.com/the-meeting-of-the-estates-general.html
โดยปัญหาหลักๆที่นำไปสู่การปฏิวัตินั่นก็คือ อภิสิทธิ์ หรือ Privilege โดยพระ และชนชั้นสูง ถือเป็นชนชั้นที่มีอภิสิทธิ์ โดยพระ ของศาสนจักรจะได้รับการยกเว้นการเสียภาษี และได้ครองที่ดิน นำไปสู่การคอรัปชั่น
ในขณะที่ชนชั้นสูงนั้น จะได้รับยกเว้นภาษีทั้งทางตรงและอ้อม รวมถึงการได้สืบทอดมรดกที่ดิน และอำนาจผ่านทางสายเลือด และมีการขูดรีดผลประโยชน์จากชาวนาอีกด้วย
อีกทั้งยังมีกลุ่มขุนนางเกิดใหม่ ซึ่งจะเป็นพวกชนชั้นกลางที่ซื้อตำแหน่งทางราชการเข้ามา โดยเฉพาะตำแหน่งในศาลพาเลอมองต์
ส่วนสามัญชนนั้น กล่าวได้ว่าเป็น ชนชั้นที่มีความทุกข์ยากเนื่องจากไม่มีอภิสิทธิ์อะไรเลย โดยสามัญชนจะประกอบไปด้วยคนสองกลุ่ม คือ ชาวนา และ กลุ่มชนชั้นกลางเกิดใหม่ หรือ Bourgeoisie (บูชัวร์ซี)
Credit: https://canal-midi.info/bourgeois-french-revolution
ความทุกข์ยากของชาวนาก็คือ การต้องเสียภาษีสามชั้น ให้กับกษัตริย์ ชนชั้นสูง และพระ เนื่องจากตนเองไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง
ส่วนชนชั้นกลางเกิดใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่ทำการค้าขาย คนเมืองที่ทำการค้า แรงงาน ซึ่งจะรวมตัวกันเป็นสมาคมตามอาชีพ หรือที่เรียกกันว่า Guild
ชนชั้นกลางเหล่านี้มีอำนาจทางการเงินเพิ่มขึ้นจากการค้าขายกับต่างชาติ และประเทศอาณานิคม เช่น ยาสูบ ไวน์ เครื่องเทศ ชา กาแฟ ฝ้าย อย่างไรก็ตามก็ยังเป็นชนชั้นที่ไม่มีอภิสิทธิ์ และยังคงต้องเสียภาษีอย่างนักให้กับกษัตริย์ ชนชั้นสูง และพระ
นอกจากนี้บูชัวร์ซียังได้รับรู้และมีโอกาสได้ศึกษางานจากนักปรัชญาการเมืองทั้งของฝรั่งเศส อังกฤษ และอาณานิคมอย่างอเมริกา เมื่อได้ไปค้าขายกับอาณานิคมอเมริกาก็ได้มีโอกาสเห็นการปฏิวัติ การประกาศอิสรภาพจากผู้ที่โดนกดขี่ ทำให้พวกเขาได้เห็นแล้วว่าการได้รับอิสรภาพจากผู้กดขี่นั้นเป็นอย่างไร
แต่ในขณะเดียวกันกลุ่มบูชัวร์ซี ก็ไม่ได้มีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นกลุ่มเดียวกับชาวนา เนื่องจากตัวเองมีฐานะทางการเงินที่มากกว่า
หลายคนอาจจะทราบว่า ฝรั่งเศสในสมัยนั้นมีสภาฐานันดร ที่จะมีตัวแทนแต่ละชนชั้นมาประชุมนี่ ไม่น่าจะทำให้เกิดการสะสมความไม่พอใจระหว่างชนชั้นได้มากมายหรือเปล่า
ในความเป็นจริงแล้ว การประชุมสภาฐานันดรไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ การประชุมล่าสุดก่อนปี 1789 คือเมื่อ 175 ปีก่อนหน้า รวมถึงระบบการโหวตก็ไม่ได้ถูกใจสามัญชนซักเท่าไหร่
Credit: https://www.britannica.com/topic/Third-Estate
ส่วนหนึ่งมาจากบูชัวร์ซี ที่ไม่ได้มีความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับชาวนา และไม่ได้อยากถูกจัดอยู่ในชนชั้นเดียวกัน เรียกร้องให้แก้ระบบโหวต แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายเลยมีการจัดตั้ง สมัชชาแห่งชาติ หรือ National Assembly ขึ้นมาเป็นของตนเอง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ
ในด้านของเศรษฐกิจ อย่างที่กล่าวๆไปตอนต้นว่าฝรั่งเศสมีปัญหาการคลังสะสมมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และเรื่อยมาจากการทำสงคราม ทำให้ตัวเองนั้นเป็นหนี้ และปัญหาข้าวยากหมากแพงจากความแห้งแล้ง ที่ทำให้เกษตรกรรมไม่ได้ผลดี ชาวนาต้องลำบากและก่อเหตุจราจลอยู่หลายครั้ง
นอกจากนี้ผลกระทบของเศรษฐกิจโลกก็ส่งผลต่อฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน
ฝรั่งเศสมีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจด้วยการทำสงครามปกป้องอาณานิคม ทำให้มีการใช้เงินและทรัพยากรไปอย่างมาก
อีกทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อโครงสร้างชนบท ซึ่งพัฒนาตามไม่ทันศูนย์กลาง ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่ความตึงเครียดในสังคม
การขยายตัวทางเศรษฐกิจทำให้ชนชั้นกลางเป็นอิสระ ไม่ได้ทำการค้าหรือลงทุนกับรัฐ จึงมีความต้องการให้รัฐดำเนินนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของตนมากขึ้น
รวมถึงกระแสทุนนิยมที่เกิดจากการขยายตัวอุตสาหกรรม ในศตวรรษที่ 18 แต่ทว่าฝรั่งเศสมิอาจปฏิวัตอุตสาหกรรมได้อย่างอังกฤษ เนื่องจากความล้าหลังทางเกษตรกรรม ทำให้ตลาดภายในไม่สามารถรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมได้
จะเห็นได้ว่าเมื่อสาเหตุทั้ง 3 อย่าง ที่ได้กล่าวไปคือ การเมือง สังคม และเศรษฐกิจ เมื่อรวมกันแล้ว สามารถนำไปสู่การปฏิวัติในปี 1789 ได้
ในตอนถัดไป เราจะมาตอบคำถามที่สอง เกิดอะไรขึ้นในช่วงการปฏิวัติ และ จุดจบเมื่อประหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 การปฏิวัติฝรั่งเศสจบลงเลยหรือไม่ รวมถึงเกร็ด ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการปฏิวัติฝรั่งเศส
อย่าลืมกดติดตามพวกเราที่นี่ และทุกๆช่องทางของพวกเรานะคะ
ช่องทางอื่นๆของพวกเรา
YouTube: Kid Korn คิดก่อน
Spotify: Kid Korn คิดก่อน
Facebook: Kid Korn คิดก่อน
1 บันทึก
3
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
French Revolution
1
3
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย