.
โดยการเข้าแคมป์ในครั้งนี้มีกฎข้อที่สำคัญมาก คือห้ามนักเรียนทุกคนอาบน้ำตลอดการเข้าแคมป์ อนุญาติให้แปรงฟันและล้างหน้าแค่เท่านั้น
เรียกได้ว่าต้องทนเหม็นอับเป็นเวลา 3 วัน และก็ห้ามไปลงเล่นน้ำทะเล😥
.
ในส่วนของเต็นท์นั้นโรงเรียนจะมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ให้และให้นักเรียนมาประกอบกางเต้นท์กันเอง เนื่องจากคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ในกลุ่มผมกางเต็นท์กันไม่เป็นก็เลยกลายเป็นหน้าที่เด็กไทยอย่างผมที่สอนและแนะนำโดยภาษามือและสั่งๆเอาเพราะเนื่องจากตอนนั้นยังไม่ได้ภาษาญี่ปุ่น หลังจากจัดการเกงเต็นท์แล้วก็จะให้นักเรียนพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
.
ในส่วนของกิจกรรมในวันแรกนั้นจะเป็นการประกวดแข่งทำแกงกระหรี่โดยจะแบ่งทีมตามเต็นท์และให้สามชิกในเต็นท์ร่วมกันทำแกงหรี่เพื่อมาส่งประกวด
โดยครูประจำชั้นและผ.อ.จะคอยเป็นกรรมการตัดสินและแกงกระหรี่นั้นก็จะเป็นอาหารเย็นในวันแรกของพวกเรา
.
ความยากของการทำแกงกระหรี่ในครั้งนี้นั่นก็คือเราต้องเริ่มทำทุกอย่างเองหมดตั้งแต่ก่อไฟเพื่อตั้งเตา ด้วยความที่เป็นการเข้าแคมป์รูปแบบของเตาในก็ต้องเป็นการก่อกองไฟจากเตาถ่าน และเพื่อนในกลุ่มของผมนั้นก่อไฟจากถ่านกันไม่เป็นทำให้กว่าที่จะได้เริ่มตั้งเตาและลงมือทำอาหารนั้นก็กินเวลาไปเกือบๆ 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว
.
ต่อจากนั้นก่อนมาถึงการหุงข้าวจากหมอ ซึ่งก็แน่นอนว่ารสชาติที่ออกมาในแฉะมากๆ
ด้วยความที่ว่าจำนวนน้ำที่ใช้หุงข้าว กับ ความแรงของไฟนั้นไม่พอดีกัน ในส่วนของแกงกระหรี่ต้องเริ่มทำเองตั้งแต่ หั่นแครอท ปลอกมันฝรั่ง และเคียวแกง ด้วยตัวเองซึ่ง รวมๆเวลาตั้งแต่จุดเตาไปจนทำอาหารเสร็จใช้เวลาไปนานพอสมควร แต่ก็ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่และสนุกดี
.
ด้วยความที่ว่าสมาชิกในกลุ่มไม่เคยมีใครทำแกงกระหรี่เองมาก่อนนั่นทำให้รสชาติของแกงกระหรี่ที่ออกมานั่นก็แค่พอจะเกือบกินไม่ได้😓 และก็ไม่แม้แต่จะเข้ารอบในการประกวดแข่งขัน
.