7 เม.ย. 2021 เวลา 10:00 • สุขภาพ
#ก่อนอื่นต้องขอโทษคนขายเกลือหิมาลัยด้วยนะครับ เพราะหลังจากนี้น่าจะขายไม่ออกเเล้ว 🥱
#ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเกลือหิมาลัยนี่มีเยอะมากๆ เลยครับ มากจนผมเองก็เพิ่งรู้ว่าคนใกล้ตัวหลายคนก็ใช้กันอยู่ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาสุขภาพตั่งต่างเนี่ยยย 😂
จริงๆ ต้นตอมันน่าจะมาจากเหล่าแม่ค้าตัวเเทนขายผลิตภัณฑ์เเนวสุขภาพ ที่โดนหลอกมาจาก “สำนักคิด” เรื่องสุขภาพแบบ “แอนตี้หมอ” อีกต่อนึงอ่าแหละ โดยคนกลุ่มนี้มักมองว่าเกลือหิมาลัยเป็น “เกลือวิเศษ” สามารถใช้เป็น “ยาครอบจักรวาล” ใช้ได้สารพัดตั้งแต่ลดน้ำหนัก ชะลอวัย ช่วยให้หลับสบาย สร้างภูมิคุ้มกัน หรือแม้กระทั่งฆ่าเซลล์มะเร็ง และ รักษาโรคความดัน โรคไต (นักกำหนดอาหารร้องไห้แล้ว ไกดไลน์ CA HT CKD ต้องสั่นสะเทือน 😂)
เข้าเรื่อง .. 🙋🏻‍♂️
“เกลือหิมาลัย” (Himalayan salt) ชื่อนี้ไม่ได้มาเล่นๆ นะครับทุกโค้นนนน ที่ได้ชื่อนี้มาก็เพราะว่าแหล่งที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ประเทศปากีสถาน บริเวณเทือกเขาหิมาลัยนั่นแหละ ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ก็มีบางที่ที่สามารถพบเกลือหิมาลัยได้อีก อย่างเช่น ที่เเม่น้ำเมอร์เร่ย์ ในประเทศออสเตรเลีย และที่มาราส ในประเทศเปรู
**Note เกลือหิมาลัยเป็น “หินเกลือ” ที่ขุดได้จากเมืองใต้ดินลึกหลาย 100 ฟุตในบริเวณที่อดีตกาลเนี่ยเคยเป็นทะเลมาก่อนไม่ใช่สินเธาว์ที่ได้มาจากการสูบน้ำจากใต้ดินนะครับ
#ที่นี้เรามาดูรายละเอียดในเชิงโภชนาการกันดีกว่า ในเกลือหิมาลัยเนี่ยมีแร่ธาตุมากกว่า 80 ชนิด “ที่เป็นเหตุให้มันเป็นสีชมพู” แต่คิดเป็นแค่ 2% (บางตัวก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อร่างกาย) ส่วนที่เหลืออีก 98 % ก็คือโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) หรือ เกลือแกงทั่วไปนั่นแหละ ซึ่งพบว่าเกลือหิมาลัยมีโซเดียมน้อยกว่าเกลือทั่วไปไม่เกิน 20 mg เลยฮะ!! (ตารางเปรียบเทียบแร่ธาตุต่างๆ ในเกลือ 1 กรัม อยู่ในรูปนะครับ👇🏻)
#ดังนั้น ด้วยปริมาณอันน้อยนิดของแร่ธาตุที่ปนมากับเกลือโซเดียมที่มีเยอะขนาดนี้ มันจึงแทบไม่ได้มีคุณค่าอะไรมากไปกว่าเกลือธรรมดาเลย แถมยังมีไอโอดีนน้อยกว่าเกลือสมุทรด้วย ถ้ากินเยอะๆ วันละหลายๆ ช้อนโต๊ะ อาจจะต้องเตรียมเก็บเงินล้างไตไว้ได้เลย !!!!! (เตือนแล้วนะ🚨)
#เดี๋ยวหาว่าโม้ จากประสบการณ์ที่ฟาฮัดเคย follow up คนไข้มะเร็งที่อยู่ๆ ค่าการทำงานของไต (eGFR) ก็ drop ลงไปเป็น CKD stage 3 จึงต้องซักประวัติอาหารยกใหญ่ ถามไปถามมาก็พบว่า ตั้งแต่ตรวจเจอมะเร็งก็เอาเจ้าเกลือนี่มากิน เช้า-เย็น ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ นี่แหละ โซเดียมก็ประมาณ 12,000 mg ไปแล้ว ทั้งๆ ที่คนปกติควรกินโซเดียมไม่เกิน 2,000 mg แล้วนี่ยังไม่รวมโซเดียมในอาหารอีกนะ 😬
#อันที่จริงแล้ว เราควรเอาเกลือหิมาลัยนี้ไว้ประดับตกแต่งบ้าน หรือเอาไว้ถ่ายรูปเก๋ๆ ลง story IG มากกว่ามาคาดหวังสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆ เพราะมันก็เป็นได้แค่เกลือ ไม่ได้วิเศษอะไรเลยจริงๆ แถมแพงมากด้วย (เชื่อนักกำหนดอาหารเถ๊อะ เรียนมาาาาา)
#สรุป ใส่เกลือหิมาลัยเยอะอาจเป็นโรคไต แต่ถ้าใส่ใจมากเกินไปอาจเป็นได้แค่พี่น้องนะครับ (อ่าวววว 😂)
ป.ล. ถ้าใครจะเเย้งว่าฟาฮัดเมจิกตัวเลขตั่งต่างขึ้นมาละป่าว ก็อ่าน paper นี้ให้จบก่อนนะค้าบ รวมสารพัดเกลือจากทั่วทุกมุมโลกมาวิเคราะห์กันเลยทีเดียว น่าสนใจมาก 👉🏻https://onlinelibrary.wiley.com/.../j.1745-459X.2010.00317.x
#หวังว่าจะมีประโยชน์
#ฟาฮัดเป็นนักกำหนดอาหาร
โฆษณา