Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
8 เม.ย. 2021 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
วิธีการรับมือโรคระบาดในประวัติศาสตร์
2
ปัจจุบัน การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้วิถีชีวิตของคนทั้งโลกเปลี่ยนไป
มีการเว้นระยะห่าง กักตัวเมื่อสงสัยว่าได้รับเชื้อ หากแต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่
2
เราลองมาย้อนอดีต ดูวิธีการรับมือกับโรคระบาดในอดีตกัน
ภาวะโรคระบาดที่ร้ายแรงครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ คือเหตุการณ์ “กาฬมรณะ (Black Death)”
กาฬมรณะ (Black Death)
จากบันทึกในประวัติศาสตร์ พบว่ามีเรือที่บรรทุกผู้โดยสารที่ป่วยด้วยกาฬโรค ได้มาถึงเซาท์แทมป์ตัน ประเทศอังกฤษในเดือนตุลาคม ค.ศ.1348 (พ.ศ.1891)
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน โรคร้ายได้แพร่กระจายไปถึงลอนดอน และภายในเดือนธันวาคมของปีนั้น ชาวลอนดอนได้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 200 คน
สุดท้าย โรคระบาดนี้ก็ได้คร่าชีวิตผู้คนในยุโรปไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของประชากรทั้งทวีป
ลอนดอนในช่วงเวลาแห่งโรคระบาด
“พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ (Edward III)” พระประมุขแห่งอังกฤษ ก็ทรงพักจากการสงคราม และหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ในเวลานั้น ไม่มีใครทราบว่าสาเหตุของโรคเกิดจากอะไร แต่ก็ทราบแน่ชัดว่าโรคนี้เป็นโรคติดต่อ สามารถติดต่อจากคนหนึ่ง สู่อีกคนหนึ่งได้
2
พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ (Edward III)
มกราคม ค.ศ.1349 (พ.ศ.1892) พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ทรงมีรับสั่งให้ปิดสภา และให้ข้าราชสำนัก นักการเมืองกลับบ้านในชนบท และสั่งให้ล็อกดาวน์ลอนดอน
ธุรกิจร้านค้าต่างๆ ถูกปิด แม้แต่ตำรวจก็ไม่ทำงาน งานต่างๆ ถูกยกเลิกหมด
หนึ่งในทฤษฎีเรื่องโรคระบาดของยุคนั้น นั่นคือ สาเหตุของโรคเกิดจากอากาศที่มีกลิ่นเหม็น เป็นพิษ
ที่ผ่านมา ได้มีการฝังศพผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดในบริเวณใจกลางเมือง ซึ่งพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ก็กลัวว่ากลิ่นเหม็นของศพอาจจะทำให้ชาวเมืองล้มป่วย พระองค์จึบมีรับสั่งให้นำศพไปฝังนอกเมือง และให้ทำความสะอาดถนนในลอนดอน
การฝังศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคระบาด
สำหรับประเทศอื่นๆ ในยุโรป ต่างก็พยายามจะชะลอการระบาดด้วยการปิดท่าเรือและชายแดน
ที่เวนิซ ประเทศอิตาลี ผู้คนที่เข้าเมืองมาทางเรือ จะต้องจอดเรือในเกาะห่างไกล และกักตัวเป็นเวลาหนึ่งเดือนจึงจะสามารถเข้าเมืองได้
นอกจากนั้น ประเทศต่างๆ ทั่วยุโรปยังมีคำสั่งให้ผู้ป่วยกักตัวเองอยู่กับบ้าน โดยบ้านที่มีผู้ป่วย จะมีการนำกางเขนสีฟ้าไปติดไว้หน้าประตูบ้าน และเมื่อมีสมาชิกในบ้านเสียชีวิต สมาชิกที่เหลือก็ต้องกักตัวเองเป็นเวลาหนึ่งเดือน
ต่อมา ได้เกิด “ไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish Flu)” ตั้งแต่ปีค.ศ.1918-1919 (พ.ศ.2461-2462) และคร่าชีวิตคนทั่วโลกระหว่าง 20 ล้าน- 50 ล้านคน
ในช่วงเวลานั้น บางรัฐในสหรัฐอเมริกาได้สั่งปิดสถานที่ต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และทำให้การแพร่ระบาดลดน้อยลง
ไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish Flu)
นี่ก็เป็นประวัติศาสตร์หนึ่งของโรคระบาดในอดีต
ก็ได้แต่หวังว่าโควิด-19 จะดีขึ้นและไม่ทำให้อะไรแย่ลงกว่านี้
References:
https://historydaily.org/how-we-contained-major-pandemics-throughout-history
https://theconversation.com/what-the-archaeological-record-reveals-about-epidemics-throughout-history-and-the-human-response-to-them-138408
https://www.visualcapitalist.com/history-of-pandemics-deadliest/
https://www.history.com/topics/middle-ages/pandemics-timeline
https://www.theguardian.com/society/ng-interactive/2020/apr/29/how-humans-have-reacted-to-pandemics-through-history-a-visual-guide
16 บันทึก
16
20
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
บทความประวัติศาสตร์, ข่าวสารทั่วๆ ไป , นอกเรื่อง, ๆลๆ , วันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ.2020-ปัจจุบัน
16
16
20
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย