Jazz ไม่ต้องปีนบันไดฟัง แค่หาที่นั่งก็พอ
#เรื่องเล่าจากคลังภาพ
#รายการลัดเลาะ
#huahininternationaljazzfestival
#ท่องเที่ยวไทย
เทศกาลในประเทศไทยนั้นมีหลากหลายให้เลือกสรร เรียกได้ว่าถ้าจะตามเก็บให้ครบ ตั้งแต่ปีใหม่ยันสิ้นปี คงไม่มีเดือนไหนที่จะได้อยู่บ้านเฉย ๆ
แต่ผมเชื่อว่าใครหลายคน มีเทศกาลประจำใจอย่างน้อยก็น่าจะคนละหนึ่งเทศกาล ที่เราจะใจจดใจจ่อรอวงโคจรของโลก เวียนกลับมา ณ จุดนั้นอีกครั้ง
ผมมีเทศกาลประจำใจและก็มีโอกาสได้ไปมาสองปีติด ก่อนเจ้าโควิดมันจะเล่นซะเราไม่กล้าออกไปไหน
ที่ว่ามานี้ มันคือเทศกาลดนตรีที่มีชื่อเรียกยาวเหยียดว่า Hua Hin International Jazz Festival
ภาพจาก Hua Hin International Jazz Festival 2019
ปี 2019 ผมจะคอยดูประกาศในช่วงเวลาประมาณต้น ๆ ปี ว่างานนี้จะเริ่มเมื่อไร และทันทีที่ระบุวันได้ วันลาก็จะถูกใช้ไปหนึ่งวัน เหตุเพราะงานเขามักจะจัดสองวันและจะให้คร่อมกับคืนวันศุกร์และเสาร์
คราวนี้เมื่อวันลาพร้อมที่พักพร้อมคนพร้อม แต่ส่วนใหญ่สภาพอากาศมักไม่พร้อม เนื่องจากเดือนที่เขาจัดมันก็จะเริ่มเข้าหน้าฝนแล้ว แต่จะว่าไปเราก็รอดมาทุกที
เทศกาลดนตรีแห่งนี้มันมีความพิเศษ เพราะพวกเราจะได้มาเจอนักดนตรีเจ๋ง ๆ จากทั่วทุกมุมโลก บางทีก็เป็นนักดนตรีชื่อดังระดับตำนานอย่างเช่น Shakatak หรือมือ Bass ระดับโลกอย่าง Rubem Farias ก็ยังมาเล่นที่นี่ แต่ที่ผมและภรรยาปลื้มสุด ๆ ก็คือนักดนตรีรุ่นเก๋าจากแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง วง Dimension เรียกได้ว่ามางานเดียวโคตรคุ้ม
* ลองเข้าไปชมฝีไม้ลายมือ ของ Dimension ได้ครับ ผมเอา link มาจาก YouTube channel ของ go above
ผมถามตัวเองว่าทำไมถึงชอบมางานนี้ พอเอาเข้าจริง ๆ ผมก็ว่ามันตอบยาก มันรวม ๆ องค์ประกอบหลากหลายหล่อหลอมเข้าด้วยกัน เอาเป็นว่าผมจะเริ่มพาทุกท่านเดินเข้าสู่งานไปพร้อม ๆ กันเลยแล้วกันครับ
ทีเด็ดมันเริ่มตั้งแต่ทางเข้าชายหาดเลยล่ะครับ เขาจะมีเวทีย่อม ๆ ให้นักดนตรีอิสระได้ขนเครื่องดนตรีประจำกาย เข้ามาสาดฝีมือใส่กัน ไม่น่าเชื่อว่าเขามาจากคนละที่ แต่เล่นด้วยกันเหมือนซ้อมกันมาเป็นแรมเดือน แค่เดินเข้ามาตรงนี้ผมก็หยุดยืนดูกันร่วมเกือบชั่วโมง รู้ตัวอีกทีก็ปวดน่องไปหมด
เวที open สำหรับนักดนตรีอิสระ
ถัดจากเวทีเล็ก เราก็เริ่มเข้าสู่เวทีหลักซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าหาดหัวหิน ใครเคยมาก็คงนึกภาพออก มันเป็นหาดทรายนุ่ม ๆ เนื้อทรายไม่ละเอียดมาก มีความกว้างประมาณสนามฟุตบอล ที่เพิ่มเติมคือเวทีคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางหาด
และด้วยความเป็นเทศกาลดนตรี ไม่ใช่แค่คอนเสิร์ต เราจึงได้เห็นซุ้มของกินเรียงรายกันตั้งแต่ปากทางเข้ายันถึงขอบเวที มีตั้งแต่ส้มตำยันเบอร์เกอร์ ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มหลากสีที่คุณก็รู้ว่าอะไร
เรียกได้ว่าเป็นความอุ่นใจด้านความมั่นคงทางอาหาร แบบไม่ต้องหิ้วมาให้พะรุงพะรังพกตังค์มาอย่างเดียว นั่งฟัง jazz เพลิน ๆ บนหาดทราย พอหิวเมื่อไรก็เดินไปหาของมากิน ฟินสุดยอด
นั่งฟัง Jazz บนหาดทราย
ครั้นเมื่อเราจับจองที่นั่งได้แล้ว ก็เหลือหน้าที่เดียวที่ต้องทำคือ เคลียร์จักษุและโสตประสาทให้พร้อมรับชมรับฟังการบรรเลงบทเพลง จากหลากหลายวงดนตรีที่ผลัดกันขึ้นมาโชว์ดีไม่มีโชว์ห่วย กันไปแบบยาว ๆ ตั้งแต่เย็นยันดึกตลอดทั้งสองวันของการจัดงาน
บรรยากาศในงาน Hua Hin International Jazz Festival
แม้ดนตรี jazz จะได้รับความนิยมไม่มากนักในบ้านเรา แต่นั่นก็เพียงพอดึงดูดนักฟังจากทั่วประเทศมารวมตัวกันที่ชายหาดแห่งนี้ ให้ผู้จัดงานได้มีกำลังใจทำงานนี้ต่อไป
มีคำกล่าวที่ว่าดนตรี jazz ต้องปีนบันไดฟัง แต่นั้นก็เป็นคำกล่าวที่ out ไปมาก เพราะ jazz ก็เป็นแขนงหนึ่งของแนวดนตรี ที่ใครต่อใครจะเลือกฟังหรือไม่ฟังก็ได้
อีกทั้งโลกยุคนี้เปิดกว้างรับความหลากหลายมากขึ้น การชื่นชมในแนวทางที่เป็นตัวตนของบุคคลนั้น ๆ เป็นสิ่งที่ควรยกไว้เป็นอันดับต้น ๆ จึงไม่แปลกที่จะเห็นผู้ชมมาที่นี่มากขึ้นทุกปี
ถึงในช่วงเวลานี้ การจัดเทศกาลดนตรีคงเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็คงอีกไม่นานเกินรอ ที่งานเทศกาลดี ๆ แบบนี้จะกลับมาให้คอดนตรีได้อิ่มหูอิ่มตากันอีกครั้ง
สำหรับใครที่ยังไม่เคยและอยากจะลองเปิดใจรับดนตรีแนวนี้ เข้าเป็นส่วนหนึ่งในคอเล็กชั่นประจำหู ผมว่างาน Hua Hin International Jazz Festival ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีทีเดียว
ไม่แน่มันอาจจะกลายเป็นดนตรีแนวโปรดของคุณ และอาจจะเป็นเทศกาลที่คุณจะปักหมุดเอาไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยวประจำปีไปโดยไม่ทันรู้ตัว
อ้อลืมบอกไป งานนี้ฟรีตลอดงานนะจ๊ะ
เขียนโดย โจน ทะยาน ตะลุย
อีกช่องทางในการติดตามลัดเลาะ
หรือติดตามอ่านตอนอื่น ๆได้ที่
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
