16 เม.ย. 2021 เวลา 01:29 • ประวัติศาสตร์
ครบรอบ 109 ปี Titanic "เรือที่ไม่มีวันจม"
ภาพ : https://www.britannica.com
ย้อนไปเมื่อวันที่ 15 เมษายน คศ.1912 หรือเมื่อ 109 ปีที่ผ่านมา คงเป็นวันที่จะอยู่ในใจของใครหลายคน รวมทั้งคนทั่วโลก Titanic หรือ RMS(Royal Mail Ship) Titanic เรือที่ถูกขนานนามว่า "ไม่มีวันจม เรือที่หรูหราและยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น" ได้ขาดเป็นสองท่อนเพราะไปชนกับภูเขาน้ำแข็งและดำดิ่งลงใต้มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 คนจากผู้โดยสารพร้อมลูกเรือทั้งหมดประมาณ 2,200 คน
Titanic กำลังออกจาก Southampton, อังกฤษ
Titanic เริ่มออกเดินทางจาก Southampton ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 10 เมษายน มุ่งหน้าสู่ New York City สหรัฐอเมริกา โดยคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 สัปดาห์นั่นหมายความว่าถ้าไม่มีเหตุการที่น่าเศร้านี้เกิดขึ้นแล้ว...
Titanic จะพาผู้คนที่อยากเห็นความเจริญ ความสวยงาม และคนที่อยากไปตั้งรกรากที่อเมริกาได้ราววันที่ 17-18 เมษายน ได้สำเร็จอย่างแน่นอน
เรือนี้มีผู้โดยสารทั้งชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 โดยมีการแบ่งโซนผู้โดยสารเป็นสัดส่วน
🚢 ทำไมถึงได้ชื่อว่าเรือที่ไม่มีวันจม❓
🔹️ จากข้อมูล Titanic ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีถ้ามีการชนจนเกิดรอยรั่วที่กราบเรือ ประตูห้องเครื่องจะถูกปิดอัตโนมัติพื่อป้องกันน้ำไม่ให้เข้ามาในเรือได้
Thomas Andrews
บางข้อมูลก็ว่า Thomas Andrews ผู้ออกแบบเรือนี้รู้ดีว่าถ้าห้องเครื่องได้รับความเสียหายไม่เกิน 4 ห้อง เรือนี้จะยังคงลอยน้ำได้ แต่จากการชนกับภูเขาน้ำแข็งอย่างแรงทำให้ห้องเครื่องได้รับความเสียหาย 5 ห้อง จึงเป็นเหตุให้น้ำเข้ามาในเรือและไม่สามารถปิดประตูกันน้ำได้
🚢 แล้วทำไมถึงจมได้ล่ะ❓
🔹️จากข้อมูลทางวิทยศาสตร์ล่าสุด การที่เรือจมไม่น่าจะเกิดจากรอยชนของภูเขาน้ำแข็งเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดจากวัสดุที่เอามาใช้ (เหล็กหล้า หมุดที่ใช้ตอกเรือ)ในการสร้างเรือไม่ได้คุณภาพที่จะป้องกันเรือจากการกระแทกแรงๆได้
🚢 เหตุการณ์ก่อนจะเกิดการชนภูเขาน้ำแข็ง
🔹️ ในวันที่ 14 เมษา Titanic ได้รับการแจ้งเตือนจากเรือลำอื่นๆที่แล่นอยู่ใกล้เคียงให้ระวังน้ำแข็งที่กระจายตัวอยู่ในเส้นทางเดินเรือ
🔹️ เจ้าหน้าที่ของ Titanic ได้รับการแจ้งเตือนแล้ว แต่เป็นเพราะกำลังส่งข้อความให้ผู้โดยสารที่อยู่บนเรือไปถึงคนที่อยู่ภาคพื้น เลยไม่ได้ใส่ใจกับคำเตือนนี้เท่าที่ควร
กัปตัน Edward J. Smith ของเรือ Titanic
🔹️บางข้อมูลก็ว่ากัปตันเรือ, Edward J. Smith อยากให้เรือถึง New York ไวขึ้นเลยเพิ่มความเร็วเรือ และด้วยคิดว่าเรือนี้จะไม่มีวันจมจึงชะล่าใจกับเรื่องภูเขาน้ำแข็ง
🔹️ในวันเดียวกัน, 14 เมษา เวลา 10:55 PM (ประมาณ 5 ทุ่ม) ทางเรือ Californian ที่อยู่ใกล้กับ Titanic ได้แจ้งผ่านสัญญาณวิทยุว่าตอนนี้เรือของพวกเขาต้องหยุดจอดเรือเพราะมีน้ำแข็งเต็มไปหมด แต่เจ้าหน้าที่ห้องสื่อสารของ Titanic ซึ่งกำลังง่วนกับการส่งข้อความอื่นอยู่ก็ไม่ได้สนใจในคำเตือนดังกล่าว
🔹️เจ้าหน้าที่ที่คอยสังเกตการณ์บนเรือ 2 คน ก็ไม่ทันเห็นความผิดปกติว่าเรือกำลังจะเข้าชนภูเขาน้ำแข็งก้อนใหญ่เนื่องจากความมืด
🔹️จนเวลา 11:40 PM (ประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง) ของวันที่ 14 Titanic ก็ได้ชนกับภูเขาน้ำแข็ง ถึงแม้ว่าจะพยายามหักเรือออกมาให้พ้นจากน้ำแข็งแล้ว แต่ด้วยความเร็วที่แล่นมาโดยไม่ได้ลดความเร็วไว้ล่วงหน้า จึงทำให้เรือได้รับความเสียหาย และน้ำทะลักเข้ามาในห้องเครื่อง จากการประเมินของ Andrews ผู้ที่ออกแบบเรือนี้...ทำให้รู้ว่า Titanic กำลังจะจม
🔹️กัปตัน Smith ให้เจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนกับเรือที่อยู่ใกล้เคียง เรือ Carpathia ได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือ จึงรีบมาช่วย...แต่ Carpathia อยู่ไกลถึง 107 กม.ต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าจะมาถึง
🔹️ ส่วนเรือที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่าง Californian ซึ่งอยู่ห่างจาก Titanic 30 กม. ในข้อมูลการสอบสวนหลังเกิดเหตุแล้ว อ้างว่า "ไม่ได้ยินสัญญาณขอความช่วยเหลือเพราะปิดสัญญาณวิทยุไว้"
🔹️กัปตัน Smith เริ่มสั่งอพยพคนออกจากเรือ โดยใช้เรือชูชีพซึ่งมีเพียง 20 ลำ สามารถรองรับคนได้รวม 1,178 คนเท่านั้น แน่นอนว่าไม่พอกับคนกว่า 2,200 ที่อยู่ในเรือ กัปตันให้ผู้หญิงและเด็กลงเรือชูชีพก่อน แล้วจึงตามด้วยผู้ชาย
🔹️จากข้อมูล ขณะที่มีการอพยพผู้โดยสารชั้น 1 ลงเรือชูชีพ นักบรรเลงเพลงก็ยังคงทำหน้าที่ของเค้าอยู่ (แอดมินคิดว่าในใจเค้าก็คงกลัวมากๆไม่ต่างจากคนทั่วไป แต่ด้วยหน้าที่ก็ต้องทำให้ดีที่สุดจนนาทีสุดท้าย)
🔹️ ผู้โดยสารชั้น 3 น่าสงสารที่สุด เพราะได้รับการแจ้งทีหลังในการอพยพและลงเรือชูชีพ มีผู้โดยสารชั้น 3 ถึง 700 คน แต่มีผู้รอดชีวิตมาได้ประมาณ 170 คน
ภาพวาด : ขณะที่ Titanic กำลังจม
🔹️ กัปตัน Smith รอส่งคนออกไปจนถึงเรือชูชีพลำสุดท้าย เค้าและลูกเรือและผู้โดยสารที่เหลือยังคงอยู่บนเรือที่เริ่มจะต้านทานกระแสน้ำไม่ไหว และในวันที่ 15 เมษายน เวลา 2:20 AM (ประมาณตี 2 ครึ่ง) เรือ Titanic ก็ได้ขาดเป็นสองท่อนและจมลงในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ไปต่อหน้าต่อตาของคนที่อยู่บนเรือชูชีพ
กัปตัน Arthur Henry Rostron ของเรือ Carpathia
🔹️เรือ Carpathia มาถึงตอน 3:30 AM (ตี 3 ครึ่ง) และได้ช่วยชีวิตของคนที่อยู่บนเรือชูชีพไว้ได้ประมาณ 700 คน ซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตทั้งหมดจากเหตุการณ์นี้
🚢 ได้ข้อคิดอะไรจาก Titanic
🔹️ คนเป็นผู้นำ เมื่ออยู่ในช่วงเวลาคับขันต้องยืนหยัด กล้าเผชิญความจริง รับผิดให้มากกว่ารับความชอบ ให้ความมั่นใจกับคนในทีมได้ และควรต้องอยู่จนนาทีสุดท้ายหรือจนกว่าเหตุการณ์นั้นๆจะคลี่คลาย #กัปตันสมิท
1
🔹️ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ควบคุมอารมณ์ให้ได้ ถึงแม้บางครั้งจะเจอกับสถาณการณ์ที่ยากลำบาก #กัปตันสมิท #นักบรรเลงเพลง #ลูกเรือ
1
🔹️ เหตุการณ์นี้เป็นที่มาให้มีการออกกฎการเดินเรือ ว่าต้องมีอุปกรณ์ช่วยชีวิต (เรือชูชีพ เสื้อชูชีพ) ให้ครบกับทุกคนที่อยู่บนเรือ และเรือทุกลำต้องเปิดสัญญาณวิทยุไว้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อใช้ในการติดต่อ-ให้ความช่วยเหลือกัน
2
🔹️ ต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา ควรมีแผน 1,2,3 ไว้รองรับ และอย่ามั่นใจอะไรมากจนเกินไป #มั่นใจว่าเรือจะไม่มีวันจมเพราะเป็นเรือที่ดีที่สุด
1
🎯 ศัพท์ Eng น่ารู้
🚢 distress signal : สัญญาณของความช่วยเหลือแบบด่วน
🚢 lifeboat : เรือชูชีพ
🚢 lifejacket : เสื้อชูชีพ
🚢 passenger : ผู้โดยสาร
บทความนี้ยาวหน่อยนะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆทั้งด้านภาษา ประวัติศาสตร์ที่เราสามารถเอามาเป็นข้อคิดเล็กๆน้อยๆได้🙂
ใครมีความเห็นอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ ใส่ไว้ในคอมเม้นท์ได้เลยค่ะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า🙂
That's all guys and see you!
English is all around👩‍🏫🍀

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา