Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ILOVEORGARNIC
•
ติดตาม
17 เม.ย. 2021 เวลา 07:23 • สุขภาพ
อาหารออร์แกนิก: สิ่งที่เราควรต้องรู้
1
ฉลากออร์แกนิกมีหลายแบบและ “ผักออร์แกนิก” กับ “ผักปลอดสารพิษ” นั้นไม่เหมือนกัน
ผู้บริโภคจำนวนมากถือเอาคำว่า "ออร์แกนิก" หมายถึงสิ่งที่ "ดีต่อสุขภาพ" สาเหตุก็เพราะในกระบวนการผลิตอาหารออร์แกนิกจะลดการสัมผัสกับสารกำจัดศัตรูพืช สารเคมีสังเคราะห์ และใช้วิธีการผลิต/ปลูก/เลี้ยงที่สะอาดกว่า หรือที่เราเรียกว่ากระบวนการผลิตตามแนวทางเกษตรอินทรีย์นั่นเอง
1
รู้หรือไม่ “ออร์แกนิก” นั้นมีหลายแบบ : ป้ายกำกับที่แตกต่างกันมีความหมายต่างกัน
แนวทางเกษตรอินทรีย์แบบสากลนั้นส่วนใหญ่ผู้ประกอบการมักมุ่งผลิตเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของ USDA (U.S. Department of Agriculture) - เป็นหน่วยงานที่เป็นผู้ออกตรารับรองอาหารและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ USDA กำหนดความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกไว้ ดังนี้
- ออร์แกนิก 100% (100% Organic) หมายความว่า อาหารหรือผลิตภัณฑ์นั้นปลูกและแปรรูปโดยใช้วิธีการที่ได้รับการรับรองและส่วนมีผสมทั้งหมดเป็นออร์แกนิก มักจะพบในรายการสินค้าที่มีส่วนผสมเดียว เช่น ผลไม้ หรือ ไข่
- ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก (Organic) หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมออร์แกนิกอย่างน้อย 95%
- ผลิตจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก (Made with Organic) หมายถึงสินค้าที่มีส่วนผสมออร์แกนิกอย่างน้อย 70%
****ผักอนามัย และ ผักปลอดสารพิษ**** ไม่ใช่อาหารออร์แกนิกเนื่องจากยังมีระบบการผลิตที่ใช้สารเคมีในการป้องกันและปราบศัตรูพืช รวมทั้งปุ๋ยเคมีเพื่อการเจริญเติบโตของพืช เพียงแต่ปริมาณสารเคมีจะต้องไม่เกินขอบเขตที่กำหนด
ข้อกำหนดทั่วไปเกี่ยวกับอาหารออร์แกนิก
ลักษณะของอาหารออร์แกนิกนั้นจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดการตรวจสอบ ทั้งนี้ข้อกำหนดเกี่ยวกับอาหารออร์แกนิกอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหน่วยงานผู้รับรองในแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตามข้อกำหนดหลักๆที่เกษตรกร บริษัท และผู้ผลิตต้องปฏิบัติตามเพื่อให้มีฉลากอินทรีย์ ได้แก่ :
- ผลผลิตออร์แกนิกต้องปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลง เกษตรกรต้องใช้วิธีธรรมชาติในการควบคุมแมลงและวัชพืช อนุญาตให้ใช้ปุ๋ยธรรมชาติเท่านั้น เช่น ปุ๋ยหมัก และภายหลังการเก็บเกี่ยวเกษตรกรไม่สามารถรักษาอาหารด้วยสารกันบูดได้
- อาหารออร์แกนิกไม่สามารถใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ใดๆประกอบได้
- การทำเกษตรแบบออร์แกนิกหรือเกษตรอินทรีย์นั้นจะต้องปกป้องผืนดินเพื่อให้แน่ใจว่าที่ดินนั้นจะสามารถใช้ประโยชน์ได้เป็นเวลานาน
- เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์แบบออร์แกนิกต้องมาจากปศุสัตว์ที่เลี้ยงในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ เกษตรกรต้องให้อาหารอินทรีย์ ที่อยู่อาศัยต้องสะอาดและอยู่กลางแจ้ง เกษตรกรไม่สามารถใช้ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตหรือยาปฏิชีวนะกับสัตว์เลี้ยงได้
- การทำเกษตรแบบออร์แกนิกมีเป้าหมายหลักสองประการ ประการแรก คือ การลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม และ ประการที่สอง คือ การเพิ่มความยั่งยืน
- ฉลากสินค้าและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกแสดงถึงการทำฟาร์มและการแปรรูปตามธรรมชาติ แต่ไม่รับประกันไปถึงคุณค่าทางโภชนาการ ดังนั้นตรวจสอบฉลากโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์ทุกครั้ง
ข้อแตกต่างของอาหารออร์แกนิกและไม่ใช่ออร์แกนิก
ก่อนจะหันมารับประทานอาหารออร์แกนิก เราควรต้องรู้ข้อแตกต่างของอาหารออร์แกนิกและอาหารทั่วไปเพื่อประโยชน์ต่อการตัดสินใจ
- คุณค่าทางโภชนาการ อาหารออร์แกนิกมีคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย บางชนิดมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าอาหารปลอดสารพิษ แต่ก็ไม่เสมอไป อาหารอื่นๆ ก็มีประโยชน์เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ผักและผลไม้ออร์แกนิกอาจมีแร่ธาตุมากกว่าอันเป็นผลมาจากวิธีการทำฟาร์มแบบเกษตรอินทรีย์ อย่างไรก็ตามอาหารปลอดสารพิษบางชนิดอาจสามารถเสริมสารอาหารบางอย่างและมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าอาหารออร์แกนิกก็ได้
- ส่วนผสมสังเคราะห์ อาหารออร์แกนิกไม่มีส่วนผสมสังเคราะห์ การไม่ใช้ส่วนผสมสังเคราะห์คือข้อแตกต่างหลักระหว่างอาหารออร์แกนิกและไม่ใช่ออร์แกนิก ในอาหารทั่วไปเรามักตรวจพบ ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต ส่วนผสมสังเคราะห์ และยาฆ่าแมลง ส่วนผสมเหล่านี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวจึงเป็นการดีต่อสุขภาพมากกว่าหากเราเลือกบริโภคอาหารที่ไม่ใช้ส่วนผสมเหล่านี้
- รสชาติ อาหารออร์แกนิกไม่มีสารกันบูด ผู้ผลิตมักผลิตได้จำนวนไม่มากและจำหน่ายภายในชุมชนของตัวเอง ดังนั้นอาหารออร์แกนิกจึงมักจะสดใหม่กว่า นอกจากนี้ยังไม่มีสารเคมีและส่วนผสมสังเคราะห์ อย่างไรก็ตามฉลากออร์แกนิกไม่ใช่สิ่งรับประกันว่าอาหารจะมีรสชาติหรือความสดใหม่ที่ดีกว่า
- สิ่งแวดล้อม การทำเกษตรอินทรีย์หมายถึงวิถีการผลิตที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดมลพิษ ประหยัดน้ำและทรัพยากรและลดการพังทลายของดิน เกษตรอินทรีย์ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง และระบบปศุสัตว์มีสภาพความเป็นอยู่ที่มีมนุษยธรรมมากขึ้น อาหารออร์แกนิกมักขายตามร้านค้าในชุมชน เป็นการช่วยลดมลพิษในการขนส่งสินค้าไปทั่วประเทศ
- อายุขัย ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกมักจะอยู่ได้ไม่นานเท่าอาหารที่ไม่ใช่ออร์แกนิกเนื่องจากไม่มีสารกันบูด
- ราคา เราอาจสังเกตเห็นว่าอาหารออร์แกนิกมีราคาสูงกว่าอาหารที่ไม่ใช่ออร์แกนิก เนื่องจากการทำเกษตรอินทรีย์มีต้นทุนที่สูงขึ้นและผลิตภัณฑ์มีอยู่อย่างจำกัด ในอนาคตเนื่องจากผู้คนใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกมากขึ้นราคาก็มีแนวโน้มที่จะลดลง
ที่มา :
1.
https://www.nsf.org/knowledge-library/organic-labeling-requirements
2.
https://familydoctor.org/organic-foods-what-you-need-to-know/
2 บันทึก
6
2
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สุขภาพและการใช้ชีวิตอย่างสมดุลย์
2
6
2
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย