21 ส.ค. 2021 เวลา 12:19 • ศิลปะ & ออกแบบ
ตอนที่19.เดินจากPantheon ไปยัง Piazza Navona แห่งธาตุน้ำ 1
XIX.Piazza Navona 1
1
.....จาก Pantheon เดินตัดสักช่วงตึกมีอะไรสวยๆเยอะเพราะในย่านนี้ดูจะเป็นศูนย์กลางเมืองโรมันสมัยก่อน มีงานสมัยโบราณตั้งแต่รุ่นพระเจ้าเฮเดรียนเป็นเสาคอริเทียนอยู่สิบเอ็ดต้น อยู่ที่อื่นคงตะลึงแต่อยู่ในโรมกลางเมืองนี้อะไรต่อมิอะไรของสถาปัตยกรรมก็สองพันปี บวกลบนิดหน่อยรอบตัวรอบพื้นที่ทั้งนั้น มีโอบิลิกส์โรมันเป็นเสาหินกลมแกะเรื่องราวเวียนเป็นไทม์ไลน์ของประวัติศาสตร์ไล่เวียนเหมือนบันไดเวียนดูแปลกตาน่าสนใจ
...
เสาสิบเอ็ดต้น
โอบิลิสก์โรมัน
ขอบคุณเพจ Roman History
.....เหมือนเรื่องไทม์ไลน์ของประวัติศาสตร์แต่ละช่วงเวลามีผู้คนเต็มไปหมดเวียนหมุนขึ้นไปที่ยอดเสา เหนือยอดเสามีรูปปั้นโลหะ ทั้งสองเรื่องผมยังไม่ได้ค้นอะไรมาอ่านก็เลยแปะไว้ก่อนเพราะหัวเรื่องวันนี้เราจะพูดเรื่องสัญลักษณ์ของน้ำ (ท่านใดทราบหรือไปค้นมาหรือไปเที่ยวมามาเล่าเติมให้ฟังบ้างก็ขอขอบคุณครับ) เพียงแต่จำได้ว่าโอบิลิกส์โรมันนี้อยู่หน้าห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งในโรมที่มีคนมีสตางค์จากประเทศจนแสนจน เช่นสาระขันธ์ ไปซื้อมาในเวลาเศรษฐกิจของเมืองโรมันเก่านี้ตกต่ำมาไม่นานนัก และละแวกนี้ยังเป็นที่ตั้งของที่ทำการรัฐบาลมีตำรวจและรถคนใหญ่คนโตจอดกันเต็ม
ที่ทำการรัฐบาล
สวยเชียว
ตรอกซอกซอยบางอันแคบมาก
...เมื่อวกกลับมาทาง Pantheon อีกครั้งก็เจอโบสถ์หลังหนึ่งสวยดีดูเป็นบาร้อคกำลังดีไม่เลอะเทอะ จากด้านนอกแต่มาบริเวณนี้ก็เห็นเจ็ดแปดครั้งแล้ว ก็เข้าไม่ได้สักที จากนั้นเดินตัดเข้าไปอีกช่วงตึกหนึ่งข้ามถนนนิดเดียวก็มาถึงที่นี่ Piazza Navona
......กายภาพของ Piazza Navona แต่ดั้งเดิมเป็นสนามกีฬาของโรมันโบราณ เป็นสี่เหลี่ยมรูปยาวๆหัวมนท้ายมนคงเป็นที่กลับตัวกับกิจกรรมอะไรบางอย่าง ที่ต้องใช้ความเร็วเช่นวิ่งหรือแข่งม้าหรือแข่งวัวแข่งรถศึก หรือ.... ผมเคยเขียนเรื่อง Piazza Navona เมื่อปีที่แล้วจะลงต่อตอนหน้า อีกทีเอาหยาบก่อนสนามกีฬาแห่งนี้เดิมชื่อDomitian สร้างมาแต่ คริสต์ศตวรรษที่1 ตั้งสองพันอ้อเกือบสองพันปีทีเดียว มีคาดเดาว่าแต่ก่อนคงมีที่นั่งล้อมพื้นที่เช่นเดียวกับของโคลิเซียมหรือโคลอซิโอ รูปทรงก็คงคล้ายๆกัน(ดูรูปประกอบด้านล่าง)เพราะเดี๋ยวนี้ก็ไม่มีอะไรเหลือเป็นซากโบราณสถานอยู่เลย นอกจากรูปดินเท่านั้น และในโรมก็มีสนามกีฬาลักษณะนี้อยู่อีกแห่งกายภาพดูเป็นโบราณสถานชัดเจนกว่าที่นี่
.....แล้วตัดมาที่ พระเอกของเรานามทอมแฮงค์ วิ่งกระหืดกระหอบที่นี้ จะมีอะไรเป็นสัญลักษณ์แห่งน้ำดีเท่าที่นี่อีกแล้วในโรมไม่มี ไม่ว่าจะเป็นการตั้งอยู่ของโอบิลิสก์ก็ดี(มาถึงตอนที่19แล้วผู้อ่านผ่านโอบิลิสก์ไปกี่ต้นแล้ว) น้ำพุแห่งมหานทีทั้งสี่ Fontana dei Quattro Fiumi กึ่งกลางสนามกีฬาก็ดี ตัวสนามกีฬาที่เก่าแก่เกรียงไกรกระทั่งโบสถ์ใหญ่โตที่อยู่ด้านหลังก็ดีจำได้เพียงว่าแล้วผู้ร้าย (ตัวปลอมตัวจริงตอนนั้นพระเอกยังไม่รู้ ) ก็มาฆ่าตำรวจที่มาส่งพระเอก มีฉากตำรวจถูกยิงตายเลือดนองสีแดงในน้ำพุมหานทีสีเขียวแห่งนี้
โบสถ์ด้านหลังน้ำพุ
....
.....
......Piazza Navona ในปัจจุบันรอบตัวเต็มไปด้วยอาคาร มีภัตตาคารร้านรวงเต็มไปหมด เป็นที่เดินของนักท่องเที่ยวจาก Pantheon มีโบสถ์ใหญ่อยู่ด้านหลังน้ำพุ เสียดายว่าที่โบสถ์นี้เขาไม่ให้ถ่ายรูป ไม่งั้นคงได้ชมในเอนทรี่นี้แล้ว ผมเดินมาจากPantheon เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวทั้งหลาย เกือบบ่ายโมงแล้วแดดร้อนจัดจ้า แวะทานไอศกรีมข้างทางอร่อยเชียว(เป็นเบาหวาน*อยู่น่ะนี่ แต่ยอมอดข้าวกลางวันข้างทางเพื่อกินไอติมแลก) ค่อยมีแรงหน่อยที่จะวาดรูปที่สามของวันนี้
เวลาบ่ายโมงเศษเล็กน้อยดูสถานที่แล้วไม่มีัที่ไหนร่มเลยกำลังเล็งหาทำเลที่จะวาดรูป ผู้คนเดินไปมาเยอะแยะกลางแดดจ้า ตอนกลางพื้นที่มีคนขายงานศิลปะเต็มไปหมด ที่ดีดีก็เยอะจำได้ก่อนกลับกรุงเทพยังมาซื้อไปตั้งสามรูปติดอยู่ที่บ้านปัจจุบัน กลับมาต่อเมื่อเล็งแล้วมีที่นั่งกลางแดดเป็นม้าหินว่างอยู่ที่หนึ่งหน้าน้ำพุสี่มหาทันดร อย่ากระนั้นเลยรีบสาวเท้ายาวไปนั่งเลย มุมใช้ได้เลยแดดบ่ายกำลังร้อนทีเดียว แต่เป็นมุมใกล้มากไปนิดหนึ่ง ทำให้มุมเปอสเปคตีฟชันมากทีเดียววาดยาก และที่สำคัญมุมของโอบิลิกส์กระชั้นทำให้ดูโอบิลิสก์สั้นไม่สง่า แต่ช่างมันเถอะเรามีที่นั่งแล้ว
......เห็นฝรั่งชอบแดดกัน ที่นั่งด้านนอกภัตตาคารต่างแม้ในพื้นที่โดนแดดเขาก็กินข้าวกินกาแฟกันเป็นปกติ แต่ผมว่าเดี๋ยวนี้แม้แต่ในเมืองฝรั่งแดดแรงกว่าแต่ก่อนมาก เมืองไทยนี่ไม่ต้องพูดถึงแดดเดี๋ยวนี้กับแดดเมื่อสักยี่สิบปีก่อนแตกต่างกันมากในหน้าร้อนไปอยู่กลางแดดผิวเนื้อสัมผัสวูบๆเลย กลับถึงบ้านนี่ได้ความรู้สึกถึงอุณหภูมิในร่างกายที่ยังกรุ่นได้เลย
......รายละเอียดของน้ำพุนี้ช่างมากจริง ประกอบกับผมเอาโบสถ์ใหญ่โตเป็นฉากหลังอีก อีกทั้งคนเขียนก็ยังใช้จังหวะการละเลยระยะหน้าหลังไม่เก่งเหมือนพวกเซียเขา ในขั้นร่างปากกาก็เลยเก็บรายละเอียดไว้มากพอดูกว่าจะร่างเสร็จก็ร่วมสี่สิบห้านาที พองานเริ่มร่างใกล้เสร็จความรู้สึกร้อนก็เข้ามาใครว่าแดดฝรั่งไม่ร้อน แล้วพอจะลงสีผมก็เริ่มเปิดพื้นที่ทำงานมากขึ้นหยิบขวดน้ำมารินเข้าในถ้วยพลาสติคที่เตรียมมา สีจานสีพู่กัน ผู้คนแถวนั้นยังจอแจ มีคราวหนึ่งนักท่องเที่ยวถึงเตะถ้วยน้ำเรากระเด็นไปเลยบางทีก็มีคนเดินเดินเบียดมาชิดตัวเรา
.....ในโรมนอกจากจะได้ความรู้สึกรื่นรมย์ไปกับงานศิลปะต่างๆวัตถุโบราณรอบตัวแล้ว สิ่งที่ต้องระวังคือกระเป๋าสตางค์โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่โดดเดี่ยวและทำตัวเด่น เป็นนักท่องเที่ยวแต่ผมเวลาเดินไปวาดรูปก็มีอยู่ทฤษฎีหนึ่งคือไม่ทำตัวให้โดดเด่นใส่เสื้อลอยชายเลือกเสื้อสีมอมอหน่อย ไม่ทำตัวแบบทัวร์ที่แต่ตัวกันเป็นพิเศษ อุปกรณ์ที่วาดก็ไม่ใส่กระเป๋าดีดีมา ใส่ไว้ในถุงเก่าๆหน่อยๆ แค่นี้ก็ไม่ทำให้เป็นที่หมายปองของบรรดาเหล่ามิจฉาชีพ
......อาจจะเพราะเคยโดนฉกเอาวีดีโอไปสมัยร่วมสิบปีที่แล้ว ในเวนิสทำให้เหมือนมีกรรมหรือเวรกับประเทศนี้โดยไม่ต้องโยนเหรียญอธิษฐานใดใดเลยที่จะได้กลับมา ด้านหลังของที่นั่งหน้าน้ำพุนั้นมีคนขายของอยู่สองสามร้านร้านหนึ่งขายเหมือนเป็นแท่งไฟดัดเป็นตัวหนังสือได้ ดัดเป็นชื่อนักท่องเที่ยวแปะบนเพลท คนขายเป็นผู้หญิงชาวจีนหรือเกาหลีหรือทำนองนั้น แกยังอุตส่าห์มาดูรูปว่าเราวาดไปถึงไหน และ ช่วยเก็บอุปกรณ์วาดรูปผมที่ทำตกไว้ ก่อนกลับผมยังได้รู้สึกได้ถึงความปรารถนาดีของผู้คน แม้อยู่ในพื้นที่ที่ต้องระแวดระวังตัว และอะไรดีดีนี้เราก็อาจหาได้ทั่วไปทุกที่ในโลก แม้แต่ว่าที่นี้จะมีมิจฉาชีพหรืออันตรายรอบ ที่ใจกลางนั้นก็อาจมีสิ่งดีดีอยู่ ตอนนี้อยู่ที่ตัวเราเองแล้วว่ามองเห็นหรือไม่
" If you hear a voice within you say you can not paint , then by all means paint and that voice will be silenced."
1
- Vincent van Gogh
ต่อ Navona ตอนที่สอง 1กันยายน
โคลงชมวัด
ทางแก้ว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา