26 เม.ย. 2021 เวลา 09:34 • ท่องเที่ยว
หลงอุทัยฯ
ตอน วัดเอ๋ยวัดโบสถ์
#เรื่องเล่าจากคลังภาพ #ลัดเลาะ
#เที่ยวอุทัยธานี #วัดโบสถ์
1
🎶 วัดเอ๋ยวัดโบสถ์ ปลูกข้าวโพดสาลี 🎶 เป็นวลีจากเพลงที่คน gen ผมได้ยินมานานนม แต่ไม่แน่ใจว่าหมายถึงวัดโบสถ์ไหน เพราะประเทศไทยมีชื่อวัดซ้ำ ๆ กันอยู่เป็นร้อย
แต่ที่ผมหมายถึงนี่คือ วัดโบสถ์ หรืออีกชื่อหนึ่งว่า วัดอุโปสถาราม อยู่ ณ ริมแม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี บ้านเกิดของพ่อแม่ผมนี่เอง
อุทัยธานีมีที่เที่ยวเยอะไม่แพ้จังหวัดไหน ๆ แต่ไม่ค่อยจะเป็นที่หมายของนักท่องเที่ยวซักเท่าไร ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะไม่ใช่ทางผ่านไปยังจังหวัดท่องเที่ยวหลัก ใครจะขึ้นเหนือพอผ่านชัยนาทก็ต่อนครสวรรค์ ถ้าอยากแวะอุทัยธานีก็ต้องเลี้ยวซ้ายเข้าไปถึงจะได้เที่ยว
แต่นั่นก็เป็นข้อดีที่ทำให้มันยังคงกลิ่นอายของความคลาสสิกแบบเมืองรองได้จนถึงทุกวัน
ยามเย็นที่วัดโบสถ์ จังหวัดอุทัยธานี 10 มีนาคม 2018
10 มีนาคม 2018 ผมเดินทางมาเยี่ยมญาติและทำธุระที่อุทัยธานี แน่ล่ะว่านิสัยคนชอบเที่ยว จะเยี่ยมญาติอย่างเดียวก็เสียเปล่า ก็เลยคิดว่าจะแวะไปหาอะไรกินแถวตลาดเก่าบ้านสะแกกรังในตัวเมืองอุทัยฯ ซะหน่อย
เราเดินทางมาถึงตัวอำเภอเมืองในช่วงเวลาบ่ายแก่ ๆ ซึ่งวันนี้เป็นวันเสาร์วันที่มีถนนคนเดิน ตรอกโรงยา ให้เราได้ถ่ายโอนเงินในกระเป๋า เข้าไปหมุนเวียนในชุมชน
เราจึงตัดสินใจจอดรถบริเวณตลาดสดริมแม่น้ำสะแกกรัง และตั้งใจว่าจะเที่ยวชมเมืองโดยยึดเอาการเดินเป็นสรณะ
ตอนนี้พระอาทิตย์ทำมุม 40 องศา อีกไม่ช้าฟ้าคงมืด ความร้อนจากแสงแดดเดือนมีนาคมค่อย ๆ ทุเลาลง แล้วแปรเปลี่ยนเป็นลมโชย ๆ เข้ามาปะทะกาย
ผมกับภรรยามายืนชมทิวทัศน์ริมแม่น้ำสะแกกรัง ดูเรือสัญจรไปมา ดูผู้คนอาศัยในแพริมน้ำ ดูครอบครัวมานั่งพักผ่อน ณ ลานกิจกรรมริมตะลิ่ง บรรยากาศตรงนี้ดูสบาย ๆ ชวนให้ใจสงบ
จากจุดที่ผมยืน มองไปอีกฟากของแม่น้ำ ปรากฏภาพสีขาวของพระอุโบสถและอาคารรูปร่างแปลกตา โดดเด่นท่ามกลางลานกว้างของหญ้าเขียวสลับน้ำตาลและโอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่เป็นฉากหลัง
นี่คือวัดโบสถ์ หรือวัดอุโปสถาราม ที่ผมมองเห็นจากอีกฟากของแม่น้ำมาตลอด และถึงผมจะเคยมาเยือนแล้วครั้งหนึ่งในวัยเด็ก แต่ว่าภาพจำของธรรมสถาน ไม่มีเหลือสำหรับมนุษย์ในวัยเยาว์ ที่ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าของเล่นซักชิ้น
1
วันนี้จึงนับว่าเป็นฤกษ์ดีที่จะได้ไปรื้อฟื้นความหลัง ว่าตอนนั้นผมพลาดอะไรไปบ้าง
วัดอุโปสถาราม ถ่ายจากสะพานวัดโบสถ์ 10 มีนาคม 2018
จากตรงนี้การจะข้ามไปยังวัดโบสถ์ ต้องอาศัยสะพานเล็ก ๆ ที่มีเพียงพาหนะสองล้อและการเดินเท้าเท่านั้นที่สามารถข้ามได้
เมื่อเดินข้ามมาแล้ว เราจะพบกับความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปี อยู่รายล้อมรอบบริเวณวัด ซึ่งวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่อยู่คู่เมืองอุทัยฯ มาตั้งแต่สมัย พ.ศ.2324 และยังได้ขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2508 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2536 เล่ม 110
*ข้อมูลจาก สำนักวัฒนธรรมจังหวัดอุทยัธานี
ตามธรรมเนียมชาวไทยพุทธ ไปต้องลามาต้องไหว้ ก่อนที่จะเริ่มเดินสำรวจ เราไม่พลาดที่จะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่เพื่อเป็นศิริมงคลเสียก่อน
พอก้มกราบพระ 3 ครั้ง แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมามองรอบ ๆ ภายในตัววิหารและอุโบสถ ปรากฏเป็นภาพเขียนฝาผนังที่มีความวิจิตรอ่อนช้อย ของงานเขียนในยุคสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น บอกเล่าเรื่องราวแห่งพุทธประวัติ แม้จะลบเลือนไปบ้างตามกาลเวลา แต่รู้สึกได้ถึงความล้ำค่าแห่งศรัทธาของจิตรกร
2
ภาพเขียนฝาผนังภายใน วัดโบสถ์
ครั้นเดินออกจากพระอุโบสถ มาทางด้านติดแม่น้ำเราจะพบกับเจดีย์สามสมัย ซึ่งความรู้อันน้อยนิดของผมก็ไม่สามารถจำแนกได้ว่าแบบไหนอยู่สมัยใด ได้แต่คาดเดาไปว่าต้องมี สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์
ถัดจากเจดีย์ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กันนั้นถือว่าเป็น สัญลักษณ์สำคัญของวัดแห่งนี้เลยก็ว่าได้ นั่นคือมนฑปแปดเหลี่ยม ที่มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรป สวยงามโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง เรียกได้ว่าถ้าใครได้มาเป็นต้องได้ภาพกลับไปอวดเพื่อนฝูงแน่นอน
ความสำคัญของมนฑปแห่งนี้ หลวงพิทักษ์ภาษา สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระสุนทรมุนี หรือพระครูอุไททิศธรรม ซึ่งเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดและเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานีในช่วงรัชกาลที่ 5
*ข้อมูลจาก สำนักวัฒนธรรมจังหวัดอุทัยธานี
เจดีย์ 3 สมัยและมนฑปแปดเหลี่ยม ในวัดโบสถ์
ที่วัดโบสถ์แห่งนี้หากเรามาต่างช่วงเวลา ก็จะได้ภาพที่ต่างอารมณ์กันออกไป ขึ้นอยู่กับแสงของธรรมชาติในช่วงเวลานั้น ๆ
อย่างตอนที่ผมเดินทางมานี้เป็นเวลาเย็นที่เราจะได้เห็นแสงสีทองพระอาทิตย์ตกกระทบอาคารสีขาวจนกลายเป็นสีส้มอ่อน ดูสบายตาสบายใจ ถ้าเป็นช่วงกลางวันแดดอาจจะร้อนเราก็จะได้ภาพวัดที่สดใส
และก็เป็นช่วงเวลาอีกเหมือนกัน ที่ทำให้การเดินทางไปพบเจอในแต่ละครั้งความหมายต่างกันไป สายตาของเด็กชายอ่อนประสบการณ์ ก็คงมองเห็นเป็นวัด ๆ หนึ่ง แต่พออายุล่วงเลยมาถึงป่านนี้ ก็รู้เลยว่านี่เป็นโบราณสถานที่ประเมินค่ามิได้
1
ทำให้คิดถึงอีกหลาย ๆ สถานที่ ที่เคยผ่านตาแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป บางทีถ้าเราลองตัดสินใจเดินกลับเข้าไปชะโงกหน้าสอดส่ายสายตาดู ไม่แน่ เราอาจจะพบว่ามีของดีซ่อนอยู่ภายใน
หลงอุทัยฯ ตอนนี้คงจบอยู่ที่วัดโบสถ์นี่แหละครับ แต่ซีรีย์หลงอุทัยฯ ยังมีต่อไว้รอติดตามอ่านกันนะครับ
เขียนโดย โจน ทะยาน ตะลุย
และสามารถติดตามลัดเลาะได้อีก 1 ช่องทาง
ที่ YouTube channel
อ่านเรื่องเล่าจากคลังภาพตอนอื่นได้ที่
*แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา