24 เม.ย. 2021 เวลา 04:26 • หนังสือ
พ่ายกลซาตาน [Artificial Devil Love] ตอนที่ 20
“งั้นเราไปคุยกันที่อื่น...” คริสต์พูดจบคว้าข้อมือเล็กของกอหญ้ากึ่งลากเดินออกจากสำนักพิมพ์ไปทันที
กอหญ้าเบิกตากว้างอย่างตกใจ แต่เมื่อเธอกำลังจะร้อง คริสต์ก็หันมาพร้อมสายตาที่เป็นการเตือนเธอกลายๆ กอหญ้าหุบปากลงทันที ขาเล็กที่ช่วงก้าวไม่เท่ากับคริสต์กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามแรงลากไป
“คุณ!!!...หยุด!!!...ฉันไม่ไป...ที่ไหนก็ได้แต่ต้องไม่ออกจากสำนักพิมพ์” กอหญ้าพยายามขัดขืนเมื่อคริสต์ลากเธอมาถึงรถของเขา
“ผมต้องการที่คุย ที่แบบผู้ใหญ่คุยกัน...สถานที่ที่ให้คุณสามารถคุยกันแบบผู้ใหญ่ แบบมืออาชีพคุยกัน...!!!ขึ้นรถไปก่อน...” คริสต์หยุดพูดทันทีและดันร่างบางเข้าไปในรถเมื่อเขาพูดมากขึ้น ใบหน้าของกอหญ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นไม่พอใจ
“ฉันเปลี่ยนใจ!...ปล่อยฉันนะ คุณไม่มีสิทธิทำแบบนี้กับฉันนะ!!!!” กอหญ้าเมื่อคิดได้ว่าเธอไม่เห็นความจำเป็นที่เธอต้องเชื่อคำพูดของคริสต์
“หยุดนะ!...ถ้าคุณไม่ไปกับผมดีๆ ผมจะวางยาคุณ และจะพาคุณไป และจะ‘ลักหลับ’คุณ จับคุณทำเมียซะเลย ผมจะได้มีสิทธิในตัวคุณ อย่างที่คุณเรียกร้องนัก...” กอหญ้าหยุด มองหน้าคริสต์ ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือก สายตามองไปรอบๆ ก็ไม่มีใคร เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์
“เดี๋ยว!...คุณต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ ก็แค่ต้องการบทประพันธ์ ‘พ่ายกลซาตาน’ ...”
“ก็ส่วนหนึ่ง!... อะไรที่ผมอยากได้ ผมก็ต้องได้...ไปเถอะ!...ผมไม่เอาคุณไปฆ่าหมกป่าหรอก...” คริสต์พูดออกไปอย่างใจเย็น เมื่อเห็นว่าหญิงสาวพยามยามไกล่เกลี่ยเอาน้ำเย็นเข้าลูบเขา
“คุณบอกก่อนไม่ได้เหรอว่าจะพาฉันไปไหน?”
“ขึ้นรถ!...” กอหญ้าขมวดคิ้วพร้อมยอมก้าวขึ้นรถที่ประตูข้างคนขับเปิดรออยู่แล้ว โดยมีคริสต์ยืนกันเธอไว้
คริสต์ยิ้มพร้อมปิดประตู และรีบเข้าประจำที่คนขับและออกรถไปทันที กอหญ้าได้แต่นั่งเงียบและหันหน้าไปทางประตู จนกระทั่งรถเลี้ยวเข้ามาในประตูรั้วที่ถูกเปิดเมื่อคริสต์กดแตร
“ที่ไหน?” กอหญ้าเอ่ยถามเป็นประโยคแรกตั้งแต่เข้ามานั่งในรถนานครึ่งชั่วโมง
“บ้านผมเอง”
“บ้าน!!!!”
“จะเสียงดังทำไม?” คริสต์เอ่ยกับกอหญ้าเมื่อจู่ๆ กอหญ้าก็ร้องออกมาเสียงดังเกินไปแล้ว
“คุณบ้าเหรอเปล่า?...ใครไม่ตกใจก็บ้าแล้ว...ฉันเป็นผู้หญิงนะ!...แล้วมาบ้านผู้ชาย...” คริสต์หันไปมองกอหญ้าหลังจากที่นำรถเข้าโรงจอดรถเรียบร้อย เขามองกอหญ้าอย่างไม่เข้าใจ มันแปลกตรงไหน? เขาไม่เข้าใจ เธอไม่รู้ตัวเหรอไงว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่เขาพามาที่บ้าน ที่มีผู้หญิงครึ่งร้อยอยากจะมาที่นี่ใจจะขาด
“เดี๋ยวค่อยคุยกัน...ลงมาจากรถก่อน ผมหิว! ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย...ผมจึงพาคุณมาที่บ้าน และอีกอย่างคุณไม่ต้องตกใจขนาดนั้น เดี๋ยวเราไปบ้านแม่ผม...” คริสต์พูดจบลงจากรถ และเดินมารอกอหญ้าที่หลังรถที่ยอมลงมาจากรถและเดินมายืนข้างคริสต์ ที่อดไม่ได้ที่จะมองหญิงสาวที่แต่งตัวเหมือนวันที่เธอไปสถานีของเขาเมื่อสองสัปดาห์ก่อน
คริสต์เดินนำโดยมีกอหญ้าเดินตามไปอย่างห่างๆและงียบๆ
“สวัสดีครับคุณแม่...” คริสต์ที่เดินเข้ามาในบ้านและเดินเลยไปยังเฉลียงบ้านที่ติดสวน กล่าวทักทายคุณหญิงศศิธรและเดินเข้าไปโอบกอดและหอมแก้มซ้ายขวาอย่างเช่นทุกครั้ง กอหญ้ามองภาพนั้นอย่างไม่อยากเชื่อ ด้วยใบหน้าที่เศร้าอย่างไม่รู้ตัว และแน่นอนใบหน้าที่แสดงความรู้สึกแบบนั้นของกอหญ้าไม่ลอดพ้นสายตาของคริสต์ที่ขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“หนูกอหญ้า” คุณหญิงศศิธร ร้องออกมาเมื่อมองตามสายตาลูกชายก็เห็นแขกที่มาพร้อมกับบุตรชาย เธอหันไปมองหน้าคริสต์เป็นเชิงถามและแปลกใจ เพราะบุตรชายของเธอไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่มาก่อน
“สวัสดีค่ะ...” กอหญ้ายกมือไหว้ทำความเคารพ พร้อมรอยยิ้ม
“แม่ครับ...ตั้งแต่เช้าผมยังไม่ทานอะไรเลยครับ” คริสต์พูดอ้อนคุณหญิงศศิธรด้วยสองเหตุผล คือ ตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้วตัวเขายังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า และอีกเหตุผลคือต้องการหยุดคำถามของคุณหญิงศศิธร
“หนูกอหญ้าเดี๋ยวทานข้าวด้วยกันเลย วันนี้แม่ทำบัวลอยเผือกของโปรดคริสต์ด้วยนะ...” คุณหญิงศศิธรเมื่อพูดจบ ก็ขอตัวเดินไปเพื่อให้เด็กจัดโต๊ะเลย
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม?...” กอหญ้าถามออกมาเมื่อคุณหญิงศศิธรเดินแยกไป...
“ผมหิว...และอยากกลับบ้าน...คิดถึงแม่” คริสต์ตอบออกไปอย่างธรรมดาอย่างสบายใจพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่คุณหญิงศศิธรนั่งอยู่ก่อนหน้านี้ คริสต์ชำเลืองมองกอหญ้าที่เงียบเสียงและไม่ร้องเอะอะโวยวาย
กอหญ้าเมื่อได้ฟังคำตอบ เธอเลือกที่จะเงียบ เพราะป่วยการที่จะถามและหาคำตอบ เธอขยับเดินไปยังขอบรั้วไม้ที่ยื่นไปในแอ่งน้ำที่ไหลอยู่ตลอดเวลา และมองไปยังสวนที่ขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็ถูกจัดและได้รับการดูแลเป็นอย่างดี มองออกไปสบายตาและสบายใจ และทั้งสองเลือกที่จะเงียบไม่มีการพูดคุย จนกระทั่งเด็กในบ้านเข้ามาแจ้งว่าจัดโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว...
“หนูกอหญ้า...พอทานได้มั้ย” คุณหญิงศศิธรเอ่ยถามเมื่อกอหญ้านั่งประจำที่คนละฝั่งกับคริสต์ ที่มีคุณหญิงศศิธรนั่งหัวโต๊ะ
“ขอบคุณนะคะ...กับข้าวน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ” กอหญ้าตอบกลับอย่างสบายใจ แกงเขียวหวานไก่ น้ำพริกกะปิพร้อมผักสดที่ถูกจัดอย่างสวยงาม ต้มฝักไก่ คะน้าฮ่องกง
“และของหวานวันนี้ เป็นบัวลอยเผือก ของโปรดของตาคริสต์ หนูกอหญ้าทานได้มั้ยจ๊ะ...”
“ได้ค่ะ...”
“ตาคริสต์เห็นแบบนี้ แต่ชอบกินขนมไทยมาก และที่ชอบมากที่สุดก็บัวลอยเผือก...” คุณหญิงศศิธรชวนกอหญ้าคุย ขณะที่ทั้งสามเริ่มทาน โดยที่คริสต์เลือกที่จะเงียบและกินอย่างเดียว กอหญ้าได้แต่ยิ้มกับคุณหญิงศศิธร...
“คุณผู้หญิงค่ะ...คุณเขมมาคะ” ขณะที่ทั้งสามกำลังทานกันอยู่ เด็กในบ้านก็เข้ามาแจ้งว่า เขมิกา มาหา
“เหรอ...เดี๋ยวเธอไปเอาชุดจานมาจัดเพิ่มอีกหนึ่งที่” เมื่อเขมิกาเข้ามาในห้องอาหาร เธอแปลกใจกับแขกของที่นี่แต่ก็ไม่แสดงอะไรออกมา ทำให้บรรยากาศมื้อเที่ยงของที่นี่เปลี่ยนไปในทางที่ดี เพียงแค่มีหญิงสาวหน้าหวานแว่นหนาที่มาร่วมรับประทานอาหารแบบจำยอมในตอนแรก
ตอนนี้ทุกคนออกมานั่งที่เฉลียง เมื่อคุณหญิงศศิธรให้เด็กมาจัดโต๊ะของหวานและผลไม้ที่ริมสวน คริสต์ปล่อยให้ผู้หญิงคุยกันไป โดยที่เขายืนพิงเสาสายตามองไปที่สวนสลับกับมามองกอหญ้าที่นั่งคุยกับคุณหญิงศศิธรและเขมิกาในเรื่องทั่วๆไป ปล่อยเวลาไปเรื่อยๆ
“คุณกอหญ้ายอมตกลงเหรอยัง?” เขมิกาที่เดินเข้ามาคุยกับคริสต์ที่เงียบมาตั้งแต่มื้อเที่ยง
“ผมยังไม่ได้คุยกับเธอเลย...” เขมิกาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“แล้วที่พาเขามาที่บ้านแบบนี้หมายความว่าไง?”
“ไม่มีความนัยอะไรทั้งนั้น...ผมหิวข้าว คิดถึงแม่”
“เหรอออออ...” เขมิกาตอบพร้อมกับมองตาคริสต์ อย่างรู้ทัน คริสต์ทำเฉไฉหันกลับไปมองสวนที่ตัวเองเห็นมาหลายปีอย่างสนอกสนใจเกินปกติ เรียกรอยยิ้มให้กับเขมิกา และอดไม่ได้ที่จะต้องหันกลับไปมองกอหญ้าที่พูดคุยกับคุณหญิงศศิธรอย่างน่ารัก น่าเอ็นดู และแน่นอนท่าทางของกอหญ้าไม่ได้อยู่แต่ในสายตาเธอเพียงคนเดียว เพราะคริสต์เองก็หันไปมองภาพนั้นด้วยแววตาที่อ่อนโยนเช่นกัน
Grrrr Grrrr เสียงโทรศัพท์ของกอหญ้าดังขึ้น กอหญ้ากล่าวขอตัวและลุกจากเก้าอี้ไป เพื่อไปคุยโทรศัพท์ ที่เห็นว่าเป็นใครเมื่อเธอหยิบขึ้นมา
“หญ้าอยู่ไหน?” เสียงปลายสายถามทันทีก่อนที่กอหญ้าจะกรอกสียงทักทายไปด้วยซ้ำ
“เอ่อ!...มีอะไรเหรอกิ๊ก” กอหญ้าเลี่ยงจะตอบถึงสถานที่ ที่เธออยู่ตอนนี้
“ก็รถแกนั้นสิ...ฉันคิดว่าแกกลับไปแล้ว แต่รถแกจอดอยู่แล้วตัวแกอยู่ไหน?...”
“เออ! จริงด้วย!!! เดี๋ยวฉันกลับไปเอารถนะ...แกกลับไปเลยไม่ต้องห่วงฉัน..” กอหญ้ารีบพูด รีบสรุป กับเพื่อนสาวและวางสายทันที เพราะเธอต้องยอมรับว่าเธอลืมเรื่องอื่นเสียสนิทเลย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา