28 เม.ย. 2021 เวลา 13:20 • อาหาร
น้ำผักสะท้อน อร่อยนัว ไม่ง้อชูรส
Credit: https://tis.dasta.or.th/dastatravel/naamsathorn/
ภาคอีสานในอดีตไม่มีการใช้น้ำปลา เกลือ ในการปรุงรส ใช้เพียงแต่น้ำปลาร้า แต่เพราะบริเวณที่ตั้งถื่นฐานของชาวเลยในบางพื้นที่อยู่ไกลจากแหล่งน้ำทำให้การทำปลาร้าไม่สะดวกนัก จึงมีการนำผักสะทอนมาใช้ในการปรุงรส โดยนำกิ่งที่มีเฉพาะใบอ่อนเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ มาตำจนละเอียด แล้วแช่ในน้ำสะอาด หมักในภาชนะโดยหมั่นกลับสะทอนในโอ่งเช้าเย็น หมักเป็นเวลา3 วัน นำมากรองให้เหลือเพียงน้ำแล้วตั้งไฟในกระทะใบบัว เคี่ยวจนมีสีน้ำตาลเข้ม รอให้เย็นตัว เก็บในภาชนะที่สะอาด
นอกจากจะใช้น้ำผักสะทอนในการปรุงรสแล้ว ผักสะทอนนั้น มีสารกันบูดอยู่ใน ช่วยยืดอายุน้ำพริกอย่างน้อย 6 เดือน โดยไม่ขึ้นรา ไม่มีเสีย สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของชาวเลยที่นำสิ่งใกล้ตัวมาแปรรูปเพื่อยืดอายุของวัตถุดิบ และนำมาปรุงรสอาหารต่างๆ โดยเฉพาะส้มตำที่นำน้ำผักสะท้อนมาใช้แทนปลาร้าเพื่อเติมแต่งรสชาติ
credit: https://tis.dasta.or.th/dastatravel/naamsathorn/
ต้นสะทอน สามารถจำแนกได้ 3 สายพันธุ์ใหญ่ๆ ได้แก่ สะทอนจั่น สะทอนวัว และสะทอนจาน แต่ละสายพันธุ์จะให้น้ำสะทอนที่มีสี และรสชาติที่แตกต่างกันไป ดังนี้
ต้นสะทอนจั่น ให้น้ำสะทอนที่มีสีดำเข้ม รสชาติขม เค็ม หวานเล็กน้อย
ต้นสะทอนวัว ให้น้ำสะทอนมีสีน้ำตาลออกแดง รสชาติหวาน หอม จืด
ต้นสะทอนจาน ให้น้ำสะทอนสีน้ำตาลเข้มออกไปทางสีน้ำตาลไหม้ ให้รสชาติ หอม หวาน และเค็ม
Credit: https://tis.dasta.or.th/dastatravel/naamsathorn/
ครั้งหน้าจะมาบอกสูตรส้มตำน้ำผัดสะทอนแซ้บๆให้ลองทำกันน้ะครับ
โฆษณา