Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ติ ด อ่ า น
•
ติดตาม
30 เม.ย. 2021 เวลา 13:00 • สุขภาพ
ทำไมต้องดูแลตับอ่อน ?
ตับอ่อน เป็นอวัยวะหนึ่งภายในร่างกายที่สำคัญมากๆ แต่หลายคนมักมองข้าม ไม่ค่อยได้ดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควร
1
ตับอ่อน ทำหน้าที่สร้างน้ำย่อย สร้างอินซูลิน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นหากตับอ่อนมีปัญหา ย่อมเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานและตับอักเสบได้
แล้วเราจะดูแลตับอ่อนได้อย่างไร ?
ง่ายๆเลยคือ ต้องบำรุงด้วยอาหารที่มีสรรพคุณในการดูแลรักษา และช่วยฟื้นฟูตับอ่อนให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
คำแนะนำของ Stanford Health Care มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา
ได้มีการระบุถึงอาหาร 6 ประเภท ที่สามารถช่วยบำรุงตับอ่อนได้ มีอะไรบ้างนั้น เชิญทุกคนอ่านกันต่อเลย กับ 6 อาหารบำรุงตับอ่อน
ขอบคุณภาพจาก https://images.app.goo.gl/u6QDfATy7kZWv2j19
1. ไขมันดี
ไขมันดีที่แนะนำเลยคือ
- ปลา
- ถั่วชนิดต่างๆ
- น้ำมันพืช เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา
- กรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันจากเมล็ดพืชต่างๆ ปลาไขมันสูง อาหารจำพวกนี้จะมีกรดไขมันโอเมก้า-3 สูง อีกประเภทที่แนะนำคือ ..
- กรดไขมันโอเมก้า-6 ตัวนี้มีสรรพคุณช่วยบำรุงตับได้ดีเลยทีเดียว
แต่เดี๋ยวก่อน! การรับประทานไขมันดีให้ดี และได้ประโยชน์นั้น ต้องไม่เกินวันละ 50 กรัม จึงจะถือว่าดี หากรับประทานเกินกว่านี้ ร่างกายอาจเผาผลาญ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ไม่หมด อาจส่งผลเสียทำให้เกิดการสะสมในร่างกายได้
2. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มักเป็นที่นิยมในวงการความงาม (หมายถึงคนที่รักสวยรักงามมักนิยมรับประทานกัน 😊)โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลายมักชอบทานเป็นพิเศษใช่ไหมล่าา ?
เพราะคุณสมบัติพิเศษของผลไม้กลุ่มนี้คือ มีสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง มีฤทธิ์ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย รวมถึงเซลล์ของตับอ่อนด้วย
2
เมื่อเซลล์ต่างๆเสื่อมช้าลง นั่นแปลว่า ทำให้เราดูเด็กนานขึ้น แก่ช้าลง ไม่เฉพาะคุณผู้หญิง คุณผู้ชายทั้งหลาย ก็คงต้องหามาทานบ้างนะ 😁
1
3. ผักตระกูลกะหล่ำ
ผักตระกูลกะหล่ำ อาทิเช่น กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ บล็อคโคลี เป็นต้น เป็นพืชผักที่หาได้ทั่วไปตามท้องตลาด แต่ที่ดีควรเลือกจากแหล่งผลิตที่ปลอดสารพิษ ผักตระกูลนี้ถือว่าเป็นแหล่งที่ดีของสารอาหารและไฟเบอร์
กะหล่ำมีกลูโคซิโนเลต (Glucosinolate) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต้านมะเร็งที่เกิดจากสารเคมีต่างๆได้ ใครที่ชอบทานกะหล่ำเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว คงหายห่วงเรื่องมะเร็งกินตับอ่อนได้เลย (ย้ำอีกทีว่า ต้องเป็นกะหล่ำที่ปลอดสารพิษน้าา)
4. กระเทียม
1
มีใครไม่รู้จักกระเทียมบ้าง ? คิดว่าคงไม่มีนะ 😁 กระเทียมถือได้ว่า เป็นพืชสมุนไพรคู่ครัวที่มีอยู่ทุกครัวเรือน รู้หรือไม่ว่า National Cencer ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการวิจัยสรรพคุณของกระเทียม ไว้เรียบร้อยแล้ว ผลการวิจัยเป็นยังไงนะเหรอ ? กำลังจะเล่าให้ฟังอยู่นี่ไง 😊
ผลการวิจัยระบุว่า ..คนที่ชอบกินกระเทียมมีความเสี่ยงโรคมะเร็งตับอ่อนลดลงถึงร้อยละ 54
โอ้ววว มันว้าวมากเลยนะ! แต่ๆทำไม กระเทียมกลีบเล็กๆนี้มันมีอิทธิฤทธิ์มากมายซ่ะขนาดนี้ ?
คำตอบคือ ..ก็เพราะว่ากระเทียมมีสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง นอกจากนี้กระเทียมยังมีสรรพคุณในการบำรุงตับอ่อนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และยังช่วยป้องกันเซลล์ตับอ่อนไม่ให้ถูกทำลายอีกด้วยนะ
1
ยัง ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น กระเทียมยังกระตุ้นให้ตับอ่อนสร้างอินซูลินและลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ เลยมีคำแนะนำว่า ..ควรกินกระเทียมให้ได้อย่างน้อยๆ 2 กลีบในทุกวัน (แนะนำเป็นกระเทียมสด)
สำหรับใครที่บอกว่ากระเทียมกินยากมาก จะกินยังไงไหว แนะนำให้กินพร้อมมื้ออาหารจะดีที่สุด เช่น กินกระเทียมพร้อมข้าว เป็นต้น
5. โยเกิร์ต
เป็นเมนูที่คนรักสุขภาพทั้งหลายไม่ควรพลาด เพราะในโยเกิร์ตมีแบคทีเรียชนิดดีต่อร่างกาย สรรพคุณที่เด่นชัดของมันเลยคือ ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ ลดความเสี่ยงมะเร็งตับอ่อน และยังช่วยเสริมสร้างการทำงานของลำไส้และตับอ่อนอีกด้วยนะ
สถาบัน National Cencer ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาและตีพิมพ์เรื่องนี้ โดยระบุว่า ร่างกายควรได้รับโยเกิร์ตไขมันต่ำในปริมาณ 3 เสิร์ฟต่อวัน แต่ควรเป็นโยเกิร์ตชนิดไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย แนะนำเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติจะดีที่สุดครับ
6. โฮลเกรนและข้าวกล้อง
สายเฮลตี้ไม่ควรพลาดกับเมนูนี้ เพราะโฮลเกรนและข้าวกล้อง คือเมนูอาหารของคนรักสุขภาพหรือคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ โฮลเกรนและข้าวกล้อง ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารลดน้ำหนักชั้นเยี่ยม เพราะโฮลเกรนและข้าวกล้องเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ดีที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ
การรับประทาน โฮลเกรนและข้าวกล้องเป็นประจำนอกจากร่างกายจะได้รับประโยชน์แล้ว ยังไม่ไปรบกวนตับอ่อนอีกด้วย เนื่องจากมีน้ำตาลต่ำ เมื่อตับอ่อนไม่ถูกรบกวน ระดับอินซูลินก็ไม่เหวี่ยงจนควบคุมไม่ได้ สุขภาพตับอ่อนก็จะดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันอาจดื่มประมาณ 8 แก้ว หรือไม่ต่ำกว่า 1.5 ลิตรต่อวัน (แล้วแต่ร่างกายของแต่ละคน) เพื่อให้น้ำเข้าไปชะล้างสารพิษต่างๆในร่างกาย ช่วยให้อวัยวะต่างๆรวมทั้งตับอ่อนทำงานได้ดีขึ้น
.
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับข้อมูลที่นำมาแบ่งปันในวันนี้ หวังว่าผู้อ่านทุกท่านคงได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับวันนี้ ขอจบการแบ่งปันเพียงเท่านี้ ..ขอบคุณครับ
แล้วมาติดอ่านด้วยกันอีกนะ 😊
---
อ้างอิง : นิตยสารชีวจิต
7 บันทึก
13
5
6
7
13
5
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย