ย้ายไปอยู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ดีมั้ย?
มดย้ายมาอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ตอนอายุ 27 ปี ปัจจุบันอายุ 45 ปี สิริรวมใช้เวลาอยู่ประเทศนี้มา 18 ปีแล้วนะคะเกือบจะครึ่งชีวิตเลย มาแรก ๆ ไม่ชอบ! รู้สึกเหมือนอยู่ Silent Hill คือมันเงียบมาก หลังหกโมงเย็นหรือหนึ่งทุ่มไปแล้วคือเงียบจริง ๆ
❌ไม่ชอบ ที่ร้านค้าปิดเร็ว วันอาทิตย์ก็ปิดหมด
❌ไม่ชอบ ไม่มีอาหาร street food ให้เอนจอย
❌ไม่ชอบ ที่ต้องทำอาหารกินเอง
❌ไม่ชอบ ที่อะไร ๆ ก็แพงไปหมด
❌ไม่ชอบ ที่เค้าไม่พูดภาษาอังกฤษกัน
❌ไม่ชอบ ที่ไม่ค่อยมีแหล่งช้อปปิ้งให้เดินตอแหล
❌ไม่ชอบ ที่มันเงียบมาก
❌ไม่ชอบ ตอนหน้าหนาว
❤️ชอบ ที่การเดินทางขนส่งสาธารณะสะดวกและตรงเวลา
❤️ชอบ ที่มีสวนสาธารณะหรือเส้นทางธรรมชาติเยอะ
❤️ชอบ ที่เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวในประเทศได้แบบไปกลับ
❤️ชอบ ที่ผู้คนน่ารัก ให้เกียรติ และให้พื้นที่ส่วนตัว
❤️ชอบ ที่มีเวลาในแต่ละวันเหลือเฟือ
❤️ชอบ ที่ผู้คนไม่ฟุ้งเฟ้อ
❤️ชอบ ที่อากาศดีมาก บริสุทธิ์มาก แม้อยู่ในเมือง
นี่คือการชอบและไม่ชอบในช่วง 3-6 เดือนแรกที่มาอยู่ เป็นความรู้สึกแบบผิวเผิน เพราะมดมาจากกรุงเทพ ชอบชีวิตเมืองหลวงมาก กินข้าวนอกบ้านทุกวัน เดินเล่นห้างหรือตลาดนัด มีของกุ๊กกิ๊กติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ในราคาไม่แพง ชอบดูหนัง ชอบเดินร้านหนังสือด้วย ช้อปปิ้งก็สนุก พอมาอยู่สวิตเซอร์แลนด์ ทุกอย่างมันตรงกันข้ามเลย
ถ้ามดไม่ได้มาเพราะแต่งงาน ก็อาจจะกลับเมืองไทยตั้งแต่หกเดือนแล้ว แต่สัจธรรมก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า “มนุษย์นั้นมีความสามารถในการปรับตัวเป็นเลิศ”
📍อากาศหนาว📍
เรื่องพวกนี้ปรับตัวกันไม่ยาก แล้วมันก็ไม่ได้หนาวตลอดเวลา ในรถโดยสาร ในอาคารบ้านเรือน มีฮีตเตอร์ให้ความอบอุ่นอยู่ ความลำบากของเราก็คือ การใส่ ๆ ถอด ๆ เครื่องกันหนาวนี่แหละ
📍อาหารการกิน📍
อยู่ไปนาน ๆ ไม่ได้ทำให้เราชอบกินอาหารของเค้าหรอก ทุกวันนี้ก็ยังไม่กินชีส แต่สกิลการทำอาหารเราจะพัฒนาไปตามสกิลการอยู่รอดเอง อยากกินก็ต้องทำ ทำบ่อย ๆ ก็อร่อยเอง ทุกวันนี้ก็ทำอาหารไทยขายให้คนมาพักที่บ้านได้กิน ไม่ต้องห่วงพวกวัตถุดิบต่าง ๆ ร้านไทยก็มี พลิกแพลงบางอย่างก็ได้ ส่วนตัวไม่ค่อยคิดถึงอาหารไทยเท่าไหร่ คิดถึงอาหารญี่ปุ่นที่ไทยมากกว่า
📍ทุกอย่างแพงไปหมด📍
ตอนมาแรก ๆ ยังไม่มีงานทำ อีกทั้งสมองก็คอยแปลงเงินสวิสเป็นเงินไทยตลอด แต่พอมีงานมีรายได้ ค่าใช้จ่ายมันก็สมเหตุสมผลนะ ค่าแรงที่สวิสนั้นขึ้นชื่อว่าสูงอันดับต้น ๆ ในยุโรป ยกตัวอย่าง คนทำความสะอาดบ้าน ได้ชั่วโมงละ 600 บาท แต่ที่เยอรมนีได้ถูกกว่ากันครึ่งนึง ดังนั้นแม้ค่าครองชีพจะสูง อะไร ๆ ก็แพง แต่เทียบกับรายได้ที่สูง ก็เจ๊ากัน แต่ข้อดีคือเวลาไปเที่ยวประเทศข้างเคียง เงินสวิสจะใช้จ่ายได้สนุกกว่า
📍ภาษาที่เป็นปัญหา📍
ก็ต้องไปเรียนนั่นแหละ เรียนไปอยู่ไปใช้ชีวิตไป มันก็พูดได้นั่นแหละ เหตุการณ์ในชีวิตมันบังคับ เราก็ทำได้เอง
📍ร้านปิด / ไม่ค่อยมีแหล่งช้อปปิ้ง📍
ร้านปิดเร็ว ปิดวันอาทิตย์ อยู่ไปนาน ๆ ก็ชินกับการต้องวางแผนชีวิต ซื้อของทีนึงก็ไม่ใช่ซื้อใช้วันต่อวัน แต่วางแผนซื้อเพื่อทำอาหารทั้งอาทิตย์ ส่วนเรื่องการติดเดินช้อปปิ้งเรื่อยเปื่อย พออยู่ไปนาน ๆ ต่อมมันก็ฝ่อไปเอง แต่ใช่ว่าจะไม่มี ถนนช้อปปิ้งมีทุกเมืองใหญ่ สวยงามน่าเดินเสียด้วย เพียงแต่มันไม่ค่อยมีแบรนด์เล็กหรือของราคาถูกแบบตลาดนัดบ้านเราไง เดินสนุกน่ะพอได้ ก็ window shopping ไป
📍คุณภาพชีวิตที่ดี📍
เวลาคนถามถึงเรื่องนี้ มดจะนึกถึง การที่มดออกไปวิ่งตั้งแต่ตีสี่ตีห้า ที่ถนนมืดสนิท วิ่งโดยมีไฟฉายคาดหัวไว้ ให้ความสว่างไม่เกิน 3 เมตรตรงหน้า โดยไม่รู้สึกถึงความกลัวอันตรายอะไร คุณภาพชีวิตที่ดีมันต้องแบบนี้น่ะ
📍ธรรมชาติและความเงียบที่ล้อมรอบตัว📍
มาแรก ๆ คิดว่าคนสวิสจะเป็นบ้าตายมั้ย อยู่กันเงี๊ยบเงียบ แต่มาอยู่นาน ๆ จะรู้ว่า คนสวิสนี่ให้ความสำคัญกับเพื่อนบ้านนะ เพียงแต่ให้พื้นที่ส่วนตัวค่อนข้างเยอะ ยิ่งอยู่บ้านนอกหน่อย จะรู้ว่ารู้จักและรู้เรื่องราวของกันและกันหมด
ในฤดูร้อนจะเห็นหน้ากันมากกขึ้นเพราะกว่าจะมืดก็สามสี่ทุ่ม ก็ทำสวน ตั้งบาบีคิวกันเกือบทุกบ้าน เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็ก ๆ ดังไปทั่ว เพราะเราไม่มีรั้วบ้านก็มองเห็นกันนั่นแหละ
ธรรมชาติอยู่ใกล้เพียงแค่ก้าวเท้าออกจากบ้าน มดเพิ่งมาเริ่มวิ่งได้ 3-4 ปีหลังมานี้เอง จึงเพิ่งค้นพบว่า เส้นทางวิ่งเยอะมาก สงบมาก สวยงามตามธรรมชาติ เป็นคุณภาพชีวิตที่มดคิดว่า นี่แหละเรียกว่าคุณภาพชีวิตที่ดี พออายุมากขึ้น เราอยากใช้ชีวิตที่ไม่วุ่นวายและง่าย ๆ แบบนี้แหละ ตื่นเช้ามาออกไปวิ่ง กลับมาทำอาหารกินเอง ออกไปทำงาน กลับมาตอนเย็นยังมีเวลาได้ทำนู่นทำนี่ในบ้าน เพราะไม่มีสิ่งเร้าอะไรให้ว่อกแว่ก ก็ทุ่มนึงร้านรวงปิดหมดแล้วนี่เนาะ
อีกอย่างพออายุมากขึ้นเราก็จะเป็นมิตรและสนิทสนมกับความเงียบ จนรู้สึกว่าน่ารักน่าหลงใหลขึ้นเยอะ
📍เรื่องน่าหงุดหงิดใจอย่างอื่น📍
มีสิ มีหลายเรื่องเลย อยู่ที่ไหนก็มีนั่นแหละ แต่ถ้าเอามาชั่งน้ำหนักดูแล้ว กับคุณภาพชีวิตแบบนี้ เรื่องหงุดหงิดแค่นั้นมันจิ๊บจ้อยไปเลย
วิวขณัออกไปวิ่งละแวกบ้านค่ะ
เล่าให้ฟังในส่วนง่าย ๆ เกี่ยวกับความรู้สึก ไม่ลงดีเทลเรื่องการแพทย์ ประกันสุขภาพ เรื่องภาษี เรื่องแรงงาน เรื่องความเท่าเทียม เรื่องสวัสดิการ เรื่องกฎหมายยิบย่อย เรื่องการเมืองการปกครอง เรื่องการศึกษา เรื่องความสำคัญของเยาวชน เพราะโดยรวมแล้วมันดีค่ะ ถ้ามาอยู่ ก็ไม่ต้องปรับตัวมากอะไร กฎที่ใช้กับเรา เค้าก็ใช้กับพลเมืองของเค้าเหมือนกัน
ถ้ามาอยู่ จะมีปัญหามากหน่อยก็เรื่องทางความรู้สึกที่มดว่ามาข้างบนนั่นแหละค่ะ ถือว่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะคะ
🙏❤️
มดเขียนเกี่ยวกับข้อมูลเกี่ยวกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไว้อยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซื้อบ้าน การเมืองการปกครอง การสอบใบขับขี่ พาลูกเข้าเรียน ฯ หากสนใจแวะไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ
- 74
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
