7 พ.ค. 2021 เวลา 08:14 • หนังสือ
#52 เล่ม 2 บทที่ 19 หน้า 299 ~303
...
N : พระองค์กำลังบอกว่าผู้หญิงวิวัฒน์มากกว่าผู้ชายหรือครับ❓
...
...
...
G : ฉันไม่ได้กำลังตัดสินไปในทางใดทั้งนั้น ฉันเพียงแค่ให้ข้อสังเกต
เธอเห็นไหมล่ะว่า 🔸ความจริงก็เหมือนกับกฎของธรรมชาติตรงที่มันสังเกตเห็นได้🔸
ทีนี้กฎไหนก็ตามที่ไม่ใช่กฎของธรรมชาติ กฎนั้นจะสังเกตไม่ได้ (สังเกตไม่เห็น) ดังนั้นถึงจำเป็นต้องอธิบายให้เธอฟัง ถึงจำเป็นต้องบอกกับเธอว่าทำไมมันถึงเป็นผลดีต่อเธอ มันถึงจำเป็นต้องแสดงให้เธอเห็น
นี่ไม่ใช่งานง่ายๆเพราะถ้าอะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์ต่อเธอแล้วละก็ 🔸มันจะเห็นได้อย่างชัดเจนในตัวมันเอง🔸
💢มีแต่สิ่งที่เห็นได้ไม่ชัดในตัวเองเท่านั้นที่จำเป็นต้องอธิบาย💢
ต้องอาศัยคนที่ไม่ปกติธรรมดาและมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมากเท่านั้นถึงจะโน้มน้าวผู้คนให้เชื่อในบางสิ่งที่ไม่มีความชัดเจนในตัวเองได้ ด้วยเหตุนี้พวกเธอถึงได้สร้างนักการเมืองขึ้นมา
รวมทั้งเหล่านักการศาสนาทั้งหลาย
นักวิทยาศาสตร์จะไม่พูดมาก โดยปกติแล้วพวกเขาก็ไม่ใช่คนช่างพูดเท่าไหร่อยู่แล้ว และก็ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นด้วย เวลาพวกเขาทดลองอะไร หากสำเร็จก็แค่แสดงให้ดูว่าทำอะไรลงไปบ้าง ผลลัพธ์จะพูดแทนพวกเขาเอง
พวกนักวิทยาศาสตร์จึงมักจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพร่ำเพ้อเพราะไม่จำเป็น เหตุผลของสิ่งที่ทำนั้นชัดเจนในตัวมันเองอยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้นนะถ้าคนพวกนี้ลองทำอะไรแล้วไม่สำเร็จ ก็ไม่มีอะไรต้องพูดถึงให้มากความ
แต่พวกนักการเมืองไม่เป็นอย่างนั้น แม้ว่าจะล้มเหลวแต่ก็จะพล่าม จริงๆแล้วยิ่งล้มเหลวมากเท่าไหร่ยิ่งพล่ามมากเท่านั้น
ความจริงเรื่องของศาสนาก็ไม่ต่างกัน ยิ่งล้มเหลวมากเท่าไหร่ยิ่งเทศนามากเท่านั้น
แต่ฉันจะบอกเธอว่า...
✴️เธอจะพบสัจจะและพระเจ้าได้ในที่เดียวกัน
✴️นั่นคือ "ในความเงียบงัน"
✴️เมื่อเธอได้พบกับพระเจ้าและเข้าถึงสัจจะแล้ว 🔸ก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเกี่ยวกับมันทั้งนั้น มันจะชัดเจนในตัวมันเอง🔸
✴️หากเธอเอาแต่คอยพูดถึงแต่เรื่องของพระเจ้า นั่นอาจเป็นเพราะเธอยังคงพยายามเสาะหาอยู่ แต่ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่เรื่องเสียหาย 🔸แค่รู้ไว้ว่าเธออยู่ตรงไหนก็พอ🔸
N : แต่เหล่าครูบาอาจารย์ทั้งหลายก็พูดเรื่องพระเจ้าอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่หรือครับ แล้วเราเองก็พูดถึงเรื่องนี้กันมาตลอดทั้งเล่ม
G : เธอจะสอนในสิ่งที่เธอเลือกจะเรียนรู้ และใช่... หนังสือเล่มนี้พูดถึงเรื่องฉัน รวมไปถึงเรื่องชีวิต ซึ่งทำให้มันชี้ประเด็นที่พูดอยู่ตรงนี้ได้ดีมากว่า ที่เธอต้องเข้ามาข้องเกี่ยวกับการเขียนหนังสือเล่มนี้ก็เพราะ 🔹เธอยังคงเสาะหาอยู่นั่นเอง🔹
N : ใช่ครับ
G : แน่นอน 🔸นี่ไม่ต่างจากคนที่กำลังอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่เลย🔸
แต่เรากำลังคุยถึงเรื่องสร้างสรรค์กันอยู่ เธอถามฉันในตอนเริ่มของบทนี้ว่า ถ้าฉันไม่ชอบสิ่งที่เห็นบนโลกแล้วทำไมถึงไม่ลงมือเปลี่ยนมันเสียเอง
ฉันไม่ตัดสินในสิ่งที่เธอทำหรอก เพียงแค่สังเกต และนานๆทีก็อธิบายสิ่งที่ฉันสังเกตเห็นให้ฟัง... อย่างที่ฉันทำอยู่ในหนังสือเล่มนี้
แต่ตอนนี้ฉันต้องถามเธอกลับว่า (ลืมเรื่องที่ฉันสังเกตเห็นและได้อธิบายให้ฟังไปก่อน) ตัวเธอเองรู้สึกอย่างไรเมื่อสังเกตเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกของเธอในตอนนี้❓
แค่หนังสือพิมพ์ของวันนี้วันเดียวเธอก็ได้รู้ว่า...
๏ หลายประเทศปฏิเสธที่จะให้สิทธิขั้นพื้นฐานแก่แรงงาน
๏ คนรวยก็รวยขึ้นส่วนคนจนก็จนลงท่ามกลางเศรษฐกิจที่ถดถอยในเยอรมนี
๏ รัฐบาลต้องบังคับเจ้าของสินทรัพย์ให้ทำตามกฎหมายความเสมอภาคด้านที่พักอาศัยในสหรัฐฯ
๏ ผู้นำที่มีอำนาจตะโกนบอกฝ่ายค้านว่า "กูจะให้มึงไปเน่าตายอยู่ในคุก! กูจะถอนเครามึงให้ร่วงทีละเส้นเลย!" ในขณะที่กำลังชกหน้าฝ่ายตรงข้ามที่นอนกองอยู่บนพื้นสภานิติบัญญัติในรัสเซีย
มีอะไรอีกไหมในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ที่จะแสดงให้ฉันเห็นถึงสังคม "ศิวิไลซ์" ของพวกเธอ❓
N : มีข่าวหนึ่งในหน้า A-13 หัวข้อข่าวว่า "พลเรือนคือผู้ที่รับเคราะห์มากที่สุดในสงครามกลางเมืองของแองโกลา" ใต้หัวข้อข่าวบอกว่า "ในพื้นที่ที่เกิดจลาจล ผู้บัญชาการระดับสูงอาศัยอยู่ในที่พักสุดหรู ในขณะที่คนหลายพันคนกำลังอดตาย"
G : พอเถอะ เห็นภาพแล้ว นี่แค่หนังสือพิมพ์ของวันเดียวเองนะ
N : แค่ส่วนเดียวของหนังสือพิมพ์วันเดียวด้วยซ้ำครับ นี่ผมยังเปิดไปไม่พ้นส่วนแรกเลย
G : ดังนั้นฉันจะบอกเธออีกครั้งว่า ระบบเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และศาสนาของโลกใบนี้ยังล้าหลังและป่าเถื่อนอยู่มาก และฉันจะไม่ทำอะไรเพื่อเปลี่ยนมันทั้งนั้น ด้วยเหตุผลที่ฉันได้บอกไป...
✴️เธอต้องมีเจตจำนงเสรีและสามารถเลือกได้อย่างอิสระในเรื่องพวกนี้ เพื่อเธอจะสามารถมีประสบการณ์ถึงเป้าหมายสูงสุดที่ฉันมีต่อเธอได้
✴️นั่นคือ "ให้เธอได้รู้จักตัวเองในฐานะผู้สร้าง"
จนถึงตอนนี้หลังจากเวลาผ่านไปแล้วหลายพันปี พวกเธอวิวัฒน์กันมาได้แค่นี้ นี่คือสิ่งที่พวกเธอได้สร้างกันขึ้นมา
เธอไม่รู้สึกว่ามันน่าโมโหบ้างหรือไง❓
ทว่าเธอก็ทำดีอยู่อย่าง...เธอมาหาฉันเพื่อขอคำแนะนำ
"อารยธรรม" ของพวกเธอได้หันหาพระเจ้ามานับครั้งไม่ถ้วน พร้อมไต่ถาม "พวกเราผิดพลาดที่ตรงไหน❓" "พวกเราจะทำให้ดีกว่านี้ได้อย่างไร❓" แม้เธอจะเพิกเฉยต่อคำแนะนำของฉันอย่างเป็นระบบในโอกาสต่างๆ
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันหยุดส่งคำแนะนำมาให้เธอหรอกนะ ฉันก็ไม่ต่างอะไรจากพ่อแม่ที่ดี ที่พร้อมให้ข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์แก่เธอเสมอเมื่อถูกร้องขอ ✨และฉันยังคงรักเธอต่อไปแม้จะถูกละเลย✨
ฉันกำลังอธิบายสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง และกำลังบอกเธอว่าเธอสามารถทำได้ดียิ่งกว่านี้ได้อย่างไร
ฉันกำลังทำอย่างนั้นด้วยการกระตุ้นให้เธอรู้สึกโมโห เพราะต้องการให้เธอหันมาใส่ใจ
ฉันว่าฉันทำได้สำเร็จนะ
N : อะไรจะเป็นเหตุให้เกิดการยกระดับจิตสำนึกครั้งใหญ่อย่างที่พระองค์ได้พูดมาหลายครั้งแล้วในหนังสือเล่มนี้ครับ❓
G : กำลังมีการสกัดทิ้งอย่างช้าๆเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ เรากำลังกระเทาะชั้นหินที่เรียกว่าประสบการณ์มนุษย์ที่เป็นส่วนเกินและไม่เป็นที่ต้องการออกไปทีละน้อย...ในฐานะปฏิมากรที่กำลังสลักเสลาเพื่อสร้างสรรค์และเผยแสดงความงดงามที่แท้จริงของประติมากรรมในขั้นสุดท้าย
N : เรา❓
G : เธอและฉัน(ผ่านหนังสือที่เรากำลังเขียนกันอยู่นี้) รวมถึงคนอื่นๆอีกมากมาย 🌟ทุกคนคือผู้นำสาร🌟
นักประพันธ์ ศิลปิน ผู้ผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ นักดนตรี นักร้อง นักแสดง นักเต้น ครูบาอาจารย์ ชามาน★ ผู้นำทางจิตวิญญาณ นักการเมือง ผู้นำ (ใช่แล้ว ที่ดีๆและจริงใจก็มีอยู่เหมือนกัน!) แพทย์ นักกฎหมาย (ใช่แล้ว ที่ดีๆและจริงใจก็มีอยู่เหมือนกัน!) พ่อแม่และปู่ยาตายายในห้องนั่งเล่น ห้องครัว สวนหลังบ้านทั่วทั้งอเมริกา และทั่วทั้งโลก
★ชาแมน (Shaman) : ชาวอินเดียนแดงผู้มีพลังบำบัดรักษาและมีภูมิปัญญาลึกซึ้งทางจิตวิญญาณ อาศัยอยู่แถบทวีปอเมริกาเหนือ
~ ผู้แปล
🌟พวกเธอคือผู้แผ้วทาง
🌟พวกเธอคือผู้นำแสงสว่าง
🌟จิตสำนึกของคนมากมายกำลังยกระดับขึ้น
✴️ก็เพราะเธอ✴️
...
...
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา