6 พ.ค. 2021 เวลา 07:45 • หนังสือ
#51 เล่ม 2 บทที่ 19 หน้า 295 ~ 299
...
...
...
N : หน้า A-4 พาดหัวข่าวว่า `สำนักงานกลางใหม่กดดันให้หยุดอคติเรื่องที่พักอาศัย` โดยเนื้อข่าวบอกว่า "เจ้าหน้าที่จากสำนักงานกลางที่ดูแลจัดหาที่พักอาศัยกำลังเสนอแผนบังคับ...เป็นความพยายามอย่างจริงจังที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพื่อขจัดการกีดกันทางเชื้อชาติในด้านที่เกี่ยวข้องกับที่พักอาศัย"
G : สิ่งที่พวกเธอต้องถามกับตัวเองก็คือ ทำไมถึงต้องให้บังคับกัน❓
N : เรามีพระราชบัญญัติเรื่องความเสมอภาคด้านที่พักอาศัยซึ่งห้ามกีดกันเรื่องที่พักอาศัยบนพื้นฐานของเชื้อชาติ สีผิว การนับถือศาสนา เพศ ภูมิลำเนา ภาวะทุพพลภาพ หรือสถานะของครอบครัว แต่เอาเข้าจริงๆก็มีชุมชนท้องถิ่นหลายแห่งที่แทบจะไม่ทำอะไรเลยเพื่อขจัดอคติพวกนี้
ผู้คนจำนวนมากในประเทศนี้ก็ยังคงรู้สึกว่าเราจะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำกับทรัพย์สินส่วนตัวของเรา ซึ่งรวมถึงการเลือกจะให้หรือไม่ให้ใครเช่าก็ได้
G : ถ้าหากยอมให้ทุกคนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินทำอย่างนั้นได้ การเลือกทำแบบนั้นก็จะมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เกิดจิตสำนึกแบบรวมหมู่และทัศนคติที่ครอบคลุมไปทั่วในเรื่องประเภทและชนชั้นของผู้คนขึ้น จากนั้นประชากรจากหลายภาคส่วนก็จะถูกตัดโอกาสทั้งหมดอย่างเป็นระบบจากการหาสถานที่ที่เหมาะสมในการพักอาศัย
ทีนี้เมื่อไม่มีที่พักอาศัยที่เหมาะสมในราคาที่สามารถจ่ายได้แล้ว เจ้าของที่ดินหรือเจ้าของที่พักในแหล่งเสื่อมโทรมก็จะสามารถคิดราคาที่สูงลิบลิ่วสำหรับที่พักสภาพย่ำแย่ที่แทบจะไม่ได้รับการดูแลหรือไม่มีการบำรุงรักษาอะไรเลย และเหล่าคนรวยผู้มีอำนาจก็จะสามารถขูดรีดคนจนจำนวนมากมายได้อีกครั้ง คราวนี้ภายใต้หน้ากากของคำว่า "สิทธิในทรัพย์สิน"
N : คือว่า...คนที่เป็นเจ้าของก็ควรจะมีสิทธิบ้างไม่ใช่หรือครับ
G : แล้วเมื่อไหร่ถึงจะถือว่าสิทธิของคนเพียงหยิบมือเดียวล่วงล้ำสิทธิของคนหมู่มากล่ะ❓
🔸นี่คือคำถามที่สังคมอารยะทั้งหมดต้องเผชิญ🔸 และเป็นคำถามที่คงอยู่มาตลอด
✴️ จะมีวันนั้นไหมวันที่ผลประโยชน์สูงสุดของทุกๆคนจะเข้ามาแทนที่สิทธิส่วนบุคคล❓
✴️ สังคมที่มีความรับผิดชอบด้วยตัวมันเอง❓
กฎหมายเรื่องความเสมอภาคด้านที่พักอาศัยคือวิธีที่พวกเธอบอกว่า "มี"
การไม่ยอมปฏิบัติตามหรือไม่ยอมบังคับใช้กฎหมายนี้คือวิธีที่คนรวยและมีอำนาจตอบว่า "ไม่มีหรอก ทั้งหมดนั่นเป็นสิทธิส่วนบุคคลของเรา"
ขอบอกอีกครั้งว่า ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของเธอและทีมบริหารของเขากำลังบังคับใช้กฎหมายนี้อยู่ ใช่ว่าประธานาธิบดีอเมริกันทุกคนจะพร้อมเผชิญหน้ากับเหล่าผู้ร่ำรวยและมีอำนาจที่อยู่อีกฝ่ายหนึ่งหรอกนะ
N : ครับ บทความในหนังสือพิมพ์บอกว่าเพียงช่วงเวลาไม่นานหลังคลินตันเข้ารับตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ที่ดูแลหน่วยงานด้านที่พักอาศัยได้เริ่มการตรวจสอบการกีดกันเรื่องนี้มากกว่าที่เคยมีการตรวจสอบในช่วงสิบปีที่ผ่านมารวมกันเสียอีก
โฆษกของ "กลุ่มที่พักอาศัยที่เป็นธรรม" ซึ่งเป็น กลุ่มที่ปรึกษาระดับชาติในวอชิงตันแถลงว่า การกัดไม่ปล่อยของทีมบริหารคลินตันที่จะให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมายความเสมอภาคด้านที่พักอาศัยเป็นเรื่องที่คณะบริหารก่อนหน้านี้พยายามทำมาหลายปีแล้ว
G : ดังนั้นประธานาธิบดีคนนี้ถึงได้สร้างศัตรูในหมู่ผู้ร่ำรวยและมีอำนาจเพิ่มมากขึ้นไปอีก ทั้งผู้ผลิตและโรงงานอุตสาหกรรม บริษัทยาและบริษัทประกัน แพทย์และกลุ่มบริษัททางการแพทย์ รวมไปถึงเหล่านักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ คนเหล่านี้มีเงินและมีอิทธิพลมาก
อย่างที่ฉันได้ให้ข้อสังเกตไปนั่นล่ะว่า ให้จับตาดูคลินตันไว้ได้เลยว่าต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
N : แม้ในขณะที่กำลังเขียนอยู่นี้ (เมษายน 1994) คลินตันก็เจอกับแรงกดดันเข้าให้แล้ว
G : หนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 9 เมษายน 1994 ได้บอกอะไรที่เกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์มนุษย์กับเธอบ้าง❓
N : กลับไปที่หน้า A-14 มีรูปผู้นำทางการเมืองของรัสเซียกำลังแกว่งกำปั้นอยู่ ใต้รูปมีพาดหัวข่าวว่า "เชอรินอฟสกี้ทำร้ายเพื่อนสมาชิกในสภา" เนื้อข่าวบอกว่า วลาดิเมียร์ เชอรินอฟสกี้ ต่อยกับคนอื่นอีกแล้วเมื่อวานนี้ด้วยการกระหน่ำชกสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน และประกาศลั่นใส่หน้าว่า "กูจะให้มึงไปเน่าตายอยู่ในคุก❗ กูจะถอนเครามึงให้ร่วงทีละเส้นเลย!"
G : แล้วพวกเธอก็สงสัยว่าทำไมประเทศต่างๆถึงก่อสงครามกัน❓ นี่คือผู้นำสำคัญที่มีบทบาทต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งใหญ่ เขาต้องพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายด้วยการต่อยสมาชิกฝ่ายค้านในห้องประชุมสภา
💢เผ่าพันธุ์ของพวกเธอยังคงล้าหลังและป่าเถื่อนอย่างมาก การใช้กำลังคือทั้งหมดที่พวกเธอเข้าใจ💢
มันไม่มีกฎที่แท้จริงอยู่บนโลกของพวกเธอหรอก
🔸กฎที่แท้จริงคือกฎของธรรมชาติ (Natural Law)🔸 ซึ่งอธิบายไม่ได้และไม่จำเป็นต้องอธิบายหรือสั่งสอนใดๆด้วย
✴️ทว่าจะเป็นที่สังเกตเห็นได้✴️
กฎที่แท้จริงคือกฎที่ผู้คนยินยอมพร้อมใจด้วยความเต็มใจที่จะถูกปกครอง เพราะพวกเขาก็ถูกปกครองด้วยกฎของธรรมชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ข้อตกลงจึงไม่เชิงว่าเป็นข้อตกลงมากไปกว่าการยอมรับร่วมกันถึง 🔸สิ่งที่เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว🔸 (กฎของธรรมชาติ)
กฎเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องบังคับ เพราะมันถูกบังคับใช้ไปเรียบร้อยแล้วโดยอัตโนมัติตามกฎ 🔸ทำสิ่งใดย่อมได้รับสิ่งนั้น🔸★
★ ทุกๆการกระทำ (คิด พูด ทำ) จะก่อให้เกิดผลลัพธ์บางอย่างที่ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ และมันก็ส่งผลต่อกันและกัน เช่น เมื่อสิ่งนี้มี...สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิด...สิ่งนี้จึงเกิด เมื่อไม่มีสิ่งนี้...สิ่งนี้ก็ไม่มี เพราะสิ่งนี้หายไป...สิ่งนี้ก็หายไป เป็นต้น พุทธเรียกสิ่งนี้ว่า กฎแห่งความเป็นเช่นนั้นเอง (อิทัปปัจจยตา) หรือ กฎแห่งเหตุและผล (หว่านสิ่งใดย่อมได้รับสิ่งนั้น) ~ แอดมิน
✴️ ฉันจะยกตัวอย่างให้ดูสักเรื่อง สิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงจะไม่เอาค้อนทุบหัวตัวเองเพราะมันเจ็บ แล้วพวกเขาก็จะไม่เอาค้อนไปทุบหัวคนอื่นด้วยเหตุผลเดียวกัน
✴️ สิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการแล้วจะสังเกตเห็นได้ว่าหากเธอเอาค้อนไปทุบใครบางคน คนๆนั้นก็จะเจ็บ หากเธอยังไม่หยุดทำอย่างนั้น คนๆนั้นก็ต้องโกรธ หากเธอทำให้คนๆนั้นโกรธต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายคนๆนั้นก็จะไปหาค้อนมาทุบเธอคืน
✴️ สิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการแล้วจึงเข้าใจดีว่า หากเธอเอาค้อนไปทุบคนอื่นนั่นหมายความว่าเธอกำลังเอาค้อนทุบตัวเธอเอง มันไม่สำคัญหรอกว่าเธอจะมีค้อนมากกว่าหรืออันใหญ่กว่าหรือเปล่า เพราะไม่ช้าก็เร็วเธอก็จะต้องเจ็บตัว
✨ผลลัพธ์นั้นเป็นที่สังเกตเห็นได้✨
✴️ สิ่งมีชีวิตที่ยังไม่วิวัฒนาการ (สิ่งมีชีวิตที่ล้าหลังและป่าเถื่อน) ก็สังเกตเห็นอย่างนั้นเหมือนกัน... 💢เพียงแต่ไม่สนใจ💢
🌟 สิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการแล้วไม่ปรารถนาที่จะเล่นเกม "ค้อนใครใหญ่สุดเป็นผู้ชนะ"
💢 แต่สิ่งมีชีวิตที่ยังไม่วิวัฒนาการจะเล่นเกมนี้เป็นแค่เกมเดียวไม่เล่นเกมอื่น
ยิ่งกว่านั้นนะ เกมนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นเกมของพวกผู้ชาย ท่ามกลางสายพันธุ์ของพวกเธอ มีผู้หญิงน้อยมากที่ปรารถนาจะเล่นเกม "ค้อนทุบกันมันส์ดี"
แต่ผู้หญิงจะเล่นเกมใหม่ พวกเธอจะบอกว่า "ถ้าหากฉันมีค้อนล่ะก็ ฉันจะใช้ค้อนเพื่อสร้างความยุติธรรม ฉันจะใช้ค้อนเพื่อสร้างเสรีภาพ ฉันจะใช้ค้อนเพื่อสร้างวิธีให้เหล่าพี่น้องหญิงชายของฉันรักกัน ไปให้ทั่วทั้งแผ่นดิน"
N : พระองค์กำลังบอกว่าผู้หญิงวิวัฒน์มากกว่าผู้ชายหรือครับ❓
...
...
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา