เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 & สงครามโลกครั้งที่ 2 (WWI & WWII)
สงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นเป็นสงครามขนาดใหญ่ ส่งผลต่อแทบทุกประเทศบนโลก
หากแต่สงครามทั้งสองก็มีความเหมือนและแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน
สำหรับสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น ก็มีสาเหตุเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ
สงครามโลกครั้งที่ 1
สาเหตุหลักๆ ก็คือดินแดนต่างๆ ล้วนแต่ต้องการจะขยายอำนาจ ช่วงชิงทรัพยากรของดินแดนอื่น
เมื่อดินแดนแต่ละแห่งพยายามจะขยายอำนาจ ความขัดแย้งระหว่างดินแดนต่างๆ ก็ได้ขยายขึ้นเรื่อยๆ แต่ละฝ่ายต่างก็จ้องอีกฝ่าย รอเวลาให้มีเหตุก่อสงคราม
ฟางเส้นสุดท้ายมาถึง เมื่อ “อาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันท์แห่งออสเตรีย (Archduke Franz Ferdinand of Austria)” รัชทายาทแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และพระชายาถูกลอบปลงพระชนม์ ทำให้ความขัดแย้งกลายเป็นสงคราม อีกทั้งยังมีกรณีที่เซอร์เบียพยายามจะต่อสู้เพื่ออิสรภาพ
การปลงพระชนม์อาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันท์แห่งออสเตรียและพระชายา
เมื่อความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ละชาติต่างก็มีผลประโยชน์และข้อตกลงร่วมกัน ทำให้ไอของสงครามระอุไปทั่ว
ชาติแต่ละแห่งเริ่มถูกดึงเข้ามาอยู่ในความขัดแย้งมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้โลกถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย
นั่นคือ “มหาอำนาจกลาง (Central Powers)” และ “สัมพันธมิตร (Allied Powers)”
เมื่อแบ่งฝัก แบ่งฝ่ายอย่างชัดเจน สงครามโลกครั้งที่ 1 ก็เริ่มต้นอย่างชัดเจนในปีค.ศ.1914 (พ.ศ.2457)
มหาอำนาจกลาง ประกอบด้วยเยอรมนี จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ตุรกี และบัลแกเรีย
สัมพันธมิตร ประกอบด้วยฝรั่งเศส อังกฤษ รัสเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา
ผู้นำแต่ละชาติของทั้งสองฝ่าย
การต่อสู้ส่วนมากจะเป็นในสนามเพลาะ อาวุธส่วนมากคือปืนกล รถถัง ก๊าซพิษ
ที่อังกฤษ มีผู้อาสาเข้าร่วมกับกองทัพกว่าหนึ่งล้านคน
รถถังคันแรกในสงคราม ก็เป็นฝ่ายอังกฤษที่นำมาใช้ในปีค.ศ.1916 (พ.ศ.2459) เนื่องจากอังกฤษต้องการยานพาหนะที่ปลอดภัยและแข็งแรง
สงครามโลกครั้งที่ 1 จบลงในปีค.ศ.1918 (พ.ศ.2461) โดยมีทหารต้องสังเวยชีวิตราวๆ 10 ล้านคน พลเมืองอีกเจ็ดล้านคน
หนึ่งในสามของทหารเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สเปน และการสิ้นสุดสงคราม ยังเป็นจุดจบของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีและจักรวรรดิอ็อตโตมัน
การสิ้นสุดของสงคราม เกิดขึ้นเมื่อมีการทำสนธิสัญญาแวร์ซาย (Treaty of Versailles) ซึ่งเยอรมนีต้องจ่ายเงินค่าปฏิกรสงครามเป็นจำนวนมาก
การทำสนธิสัญญาแวร์ซาย (Treaty of Versailles)
21 ปีต่อมา สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ได้เกิดขึ้น ซึ่งรุนแรงกว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 และกินระยะเวลานานกว่าด้วย
โลกได้แบ่งออกเป็นสองฝ่ายอีกครั้งในปีค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) โดยเยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น อยู่ฝ่าย “อักษะ (Axis)” และฝรั่งเศส อังกฤษ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และจีน อยู่ฝ่าย “สัมพันธมิตร (Allied)”
“อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler)” เป็นทหารในสงครามโลกครั้งที่ 1 และเขาเคยเห็นว่าเยอรมนีผิดพลาดอะไรบ้าง รวมทั้งการที่เยอรมนีเป็นผู้แพ้สงครามและต้องจ่ายค่าปฏิกรสงครามจำนวนมหาศาล
เขาต้องการล้างแค้น
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler)
นอกจากนั้น ฮิตเลอร์ยังเหยียดชาติพันธุ์ ต้องการจะกำจัดชาวยิวให้หมดไป รวมทั้งทุกคนที่ต่อต้านเขาและให้การช่วยเหลือชาวยิว
สงครามในครั้งนี้เริ่มต้นจากเยอรมนี นำโดยฮิตเลอร์ ซึ่งทำการโจมตีโปแลนด์ ทำให้อังกฤษและฝรั่งเศสทำการโจมตีกลับเพื่อตอบโต้
ในสงครามนี้มีการใช้อาวุธที่ทันสมัยและรุนแรงกว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 มาก สร้างความเสียหายที่รุนแรงกว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 หลายเท่า
อาวุธในสงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงในปีค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้นสูงกว่า 60 ล้านคน รวมทั้งชีวิตประชาชนที่ตายจากสงคราม โรคระบาด และความอดอยาก
นอกจากนั้น ชาวยิวที่เสียชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ก็สูงถึงหกล้านคน
เป็นอีกครั้งที่เยอรมนีพ่ายแพ้ และผู้นำพรรคนาซีของเยอรมนีหลายรายก็ถูกนำตัวขึ้นศาล ตัดสินโทษในฐานะของอาชญากรสงคราม
มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพที่ญี่ปุ่นในปีค.ศ.1951 (พ.ศ.2494)
การลงนามสนธิสัญญาสันติภาพกับญี่ปุ่น ค.ศ.1951 (พ.ศ.2494)
ทั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 มีความคล้ายและต่างกันในหลายๆ ข้อ
สงครามทั้งสองครั้งนั้น มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อีกทั้งแต่ละดินแดนยังทำสงครามเพื่อขยายอำนาจ หากแต่ข้อแตกต่างก็คือ ในสงครามโลกครั้งที่ 1 สาเหตุหลักๆ มาจากการขยายดินแดน แสวงหาแหล่งทรัพยากร ในขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สาเหตุหลักๆ มาจากลัทธิความเชื่อและการสร้างสังคมคอมมิวนิสต์
สำหรับสงครามโลกครั้งที่ 3 จะเป็นอย่างไรนั้น ไม่มีใครทราบ และทุกคนได้แต่หวังว่าจะไม่มีทางเกิดขึ้น
- 34
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
