12 พ.ค. 2021 เวลา 00:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Fermi Paradox - มนุษย์ต่างดาวไปไหนหมด? ตอนที่ 4 (ตอนจบ.)
.
.
.
.
.
https://images.app.goo.gl/bMpAyHpW4nA5Wsnt5
คำอธิบายกลุ่มที่ 2 ) คำอธิบายในกลุ่มนี้ เป็นคำอธิบายสามัญทั่วไป โดยตัดหลักการที่ว่าเราพิเศษหรือมีเหตุการณ์พิเศษใด ๆ เกิดขึ้นเพราะมันไม่มีหลักฐานอะไรชี้ชัด กลุ่มคำอธิบายนี้ไม่รีบด่วนสรุปว่าการที่เรายังไม่มีหลักฐานของการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตอื่นหรือฉลาดกว่าเรานั้น พวกเขาจะไม่มีอยู่จริง โดยจะอธิบายสาเหตุของการที่เรายังไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของเขาได้โดยใช้เพียงแค่หลักสามัญทั่วไป เสนอความเป็นไปได้ออกมา 10 ข้อดังนี้
ความเป็นไปได้ที่ 1 ) สิ่งมีชีวิตที่ฉลาดมากๆ อาจจะเคยมาที่โลกแล้ว แต่มาก่อนที่เราจะเกิด > มนุษย์อยู่บนโลกนี้มาเพียงแค่ 50,000 ปีเท่านั้น และประวัติศาสตร์มนุษย์เคยถูกบันทึกเพียงแค่ 5,500 เท่านั้น ในช่วงนั้นอาจจะเป็นพรานหรือนักหาของป่า เจอมนุษย์ต่างดาวเข้าไป พวกเขาก็คงไม่มีวิธีอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับอนาคตก็เป็นได้
ความเป็นไปได้ 2) มีการสร้างอาณานิคมทั่วกาแล็กซี่แล้ว เพียงแต่ว่าเราอยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญของกาแล็กซี่  >  อาจจะมีการสร้างอาณานิคมต่าง ๆ กระจายอยู่เต็มทั่วกาแล็กซี่ก็ได้ มีการสร้างความเจริญ มีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานกระจายไปทั่ว และไม่มีใครเดินทางถ่อมาถึงที่นี่ที่ห่างไกลอยู่บนปลายแขนเกลียวของกาแล็กซี่เพราะมันอาจจะยากหรือไม่มีประโยชน์อะไร
ความเป็นไปได้ 3) แนวคิดในการสร้างอาณานิคมไปทั่วกาแล็กซี่ เป็นแนวคิดที่ล้าหลังอย่างสิ้นเชิงจนน่าขำ สำหรับสปีชีส์ที่ก้าวหน้ากว่าเรา > นึกถึงอารยธรรม Type 2 ที่สามารถใช้พลังงานดาวฤกษ์ของตัวเองได้ อาจมีเทคโนโลยีที่ลดการใช้ทรัพยากรณ์ลงจนแทบไม่จำเป็นต้องหาเพิ่มจากที่อื่นอีก และมันมีความเจริญที่สุดอยู่ที่บ้านเกิดของเขาเอง มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเดินทางจากบ้านอันแสนสุขเพื่อจะไปที่อื่นที่ว่างเปล่าและหนาบเหน็บ ไร้ซึ่งความเจริญ
ความเป็นไปได้ 4) มีอารยธรรมนักล่าที่น่ากลัวอยู่นอกโลก และสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดส่วนใหญ่รู้ดีว่าไม่ควรที่จะป่าวประกาศกระจายสัญญาณออกไปและโฆษณาว่าตัวเองอยู่ไหน > นี่อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมจานดาวเทียมของเราถึงรับสัญญาณไม่ได้เลย และมันก็หมายถึงว่าเราเป็นพวกที่ อ่อนสุด ๆ เพราะทำเรื่องโง่และเสี่ยงมาก ๆ ที่จะป่าวประกาศถึงการมีอยู่และตำแหน่งของเราออกไปนอกโลก แม้กระทั่ง Carl Sagan ก็เสนอว่า “เด็กใหม่ในจักรวาลที่แปลกประหลาดและคาดเดาไม่ได้ ควรที่จะฟังอยู่อย่างเงียบ ๆ เป็นเวลานาน ๆ ค่อย ๆ เรียนรู้เกี่ยวกับจักรวาล ก่อนที่จะตะโกนออกไปในป่าที่เราไม่รู้จักและไม่เข้าใจ”
ความเป็นไปได้ 5) มันมีอยู่เพียงแค่หนึ่งอารยธรรมที่เหนือกว่า เป็นหนึ่งอารยธรรม “สุดยอดนักล่า” (แบบที่มนุษย์เป็น บนโลกของเรา >  ซึ่งเจริญไปไกลกว่าอารยธรรมอื่นๆ ทั้งหมดมาก และทำการรักษาให้มันเป็นอย่างนั้นโดยการกำจัดอารยธรรมที่ฉลาดอื่นๆ ทั้งหมด ที่เจริญถึงจุดหนึ่ง > ถ้าเป็นจริงก็เป็นเรื่องที่แย่มาก เพราะถ้าอารยธรรมถึงจัดที่พัฒนาในจุด ๆ หนึ่ง อารยธรรมที่สูงสุดก็จะกำจัดทิ้ง เพื่อควบคุมให้มันป็นอย่างเดิม ทฤษฎีนี้นำไปสู่แนวคิดที่ว่าใครเป็นสปีชีส์แรกที่พัฒนาถึงขั้นสุดก่อนเพียงแค่นี้ก็เป็นฝ่ายชนะแล้ว
1
ความเป็นไปได้ 6) มันมีความเคลื่อนไหวและสัญญาณต่างๆ มากมาย แต่เทคโนโลยีเรายังไม่ก้าวหน้าพอ และเรากำลังฟังผิดอย่าง > มันเหมือนกับเราเดินเข้าไปในตึกหนึ่ง แล้วเกิดวิทยุ walkie-talkie แล้วคุณไม่ได้ยินอะไรเลย คุยเลยคิดเอาเองว่าติดนี้ไม่มีใครอาศัยอยู่ ซึ่งที่จริงแล้วคนในตึกนี้เขาใช้ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ในการติดต่อสื่อสารกันอยู่ หรือจะเป็นอย่าง Carl Sagan บอกไว้ว่าสมองเราอาจจะเร็วหรือช้ากว่าพวกเขามาก ยกตัวอย่างเช่น เราพูดคำว่า "Hello" ใช้เวลา 2 วินาที แต่พวกเขาอาจจะใช้เวลาถึง 12 ปีในการพูดคำเดียวกัน
https://images.app.goo.gl/khSy5osXWfAPSCPp8
ความเป็นไปได้ 7) เรากำลังรับการติดต่อสื่อสารจากสิ่งมีชีวิตนอกโลก แต่รัฐบาลปิดบังไว้
https://images.app.goo.gl/b9xg9h4ZkeM4etSG9 , https://images.app.goo.gl/V9qTemAXhn2sbkaN7
ความเป็นไปได้ 8) เหล่าอารยธรรมที่เหนือกว่าเรา รู้ว่าเราอยู่ที่นี่และกำลังเฝ้าดูเราอยู่ (หรือเรียกว่า “Zoo Hypothesis” - สมมติฐานสวนสัตว์) > บางทีอารยธรรมที่เจริญไปไกลแล้ว อาจจะอยู่ในจักรวาลที่มีกฎหมายเข้มงวด และเราก็อยู่ในพื้นที่เขตสงวนในอุทยานแห่งชาติที่กว้างใหญ่ และอาจจะมีฎสำหรับดาวเคราะห์แบบเราว่า "ดูได้แต่ห้ามจับ"
ความเป็นไปได้ 9) อารยธรรมระดับสูงกว่าเราอยู่นี่แล้ว อยู่รอบๆ ตัวเราเต็มไปหมด แต่เรายังล้าหลังเกินกว่าที่รับรู้ถึงพวกเขาได้  > บางทีไม่ใช่ว่าเราไม่ได้รับสัญญาณอะไรทั้งนั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีของเราในตอนนี้ เราอาจจะไม่เข้าใจการมีอยู่ หรือการกระทำต่าง ๆ ของอารยธรรมที่เจริญไปไกลกว่าเรามาก และถึงเขาพยายามจะสอนเรา มันก็เหมือนกับเราสอนมดเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต
Michio Kaku สรุปไว้ แบบนี้: ลองนึกถึงรังมดกลางป่า และข้าง ๆ รังมดนั้น เขากำลังสร้างทางด่วน 10 เลน และคำถามคือ พวกมดจะสามารถเข้าใจได้ไหมว่าทางด่วน 10 เลน คืออะไร? และพวกมดจะสามารถเข้าใจเทคโนโลยีและจุดประสงค์ของสิ่งมีชีวิตที่กำลังสร้างทางด่วนอยู่ข้างๆ พวกมันได้ไหม?
ความเป็นไปได้ 10) เราเข้าใจผิดทั้งหมดเลยเกี่ยวกับสภาพความเป็นจริงของเรา > จริง ๆ แล้วเราอาจจะเข้าใจอะไรผิดไปหมดเลย จักรวาลที่เราเข้าใจคือย่างหนึ่ง แต่จริง ๆ แล้วมันอาจจะคืออีกอย่างหนึ่ง หรือเราเข้าใจการมีอยู่ของเราผิด จริง ๆ แล้วเราอาจจะเป็นเพียงภาพจำลองจากการวิจัยของนักวิจัยดาวอื่น ซึ่งอาจจะถูกโปรแกรมไว้ว่า เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวในโปรแกรมนี้
https://images.app.goo.gl/FRtLYFfmSxpBLX3T6
เป็นอย่างไรบ้างครับ กับ Fermi Paradox  ซึ่งสำหรับผมที่ชอบเรื่อง Sci-Fi วิทยาศาสตร์อยู่แล้วรู้สึกว่าจักรวาลที่เรารู้จักมันยังมืดมิดและซ่อนกลอะไรไว้อีกมายมาย คอยที่จะให้มนุษย์อย่างเราแก้ปริศนาไปเรื่อย ๆ และถึงแม้ว่าในอนาคตจะมีข่าวใดข่าวหนึ่งเป็นไปตามทฤษฎีที่ว่ามา มันก็ยังน่าตื่นเต้นอยู่ดี ถึงแม้ว่าข่าวนั้นมันจะหมายถึง เรื่องแย่ ๆ ในอนาคต แล้วท่านผู้อ่านล่ะครับ รู้สึกอย่างไรบ้าง หลังอ่านจบ สามารถคอมเม้นต์แลกเปลี่ยนเรื่องเล่ากันได้นะครับ หรือมีเรื่องอะไร หัวข้ออะไรน่าสนใจก็อย่าลืมบอกผมด้วยน้า ผมจะได้ตามอ่านด้วย
.
.
.
.
.
ฝากกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจ แล้วพบกันใหม่ในเรื่องเล่าครั้งหน้าครับ
ขอบคุณเนื้อหาและรูปจากบทความแปลทั้งหมดจาก
Source : Fermi Paradox - มนุษย์ต่างดาวไปไหนหมด? | JaakJai
ขอบคุณครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา