12 พ.ค. 2021 เวลา 12:05 • ประวัติศาสตร์
“Samantha Smith” สาวน้อยนักเรียกร้องสันติภาพ
ในทุกวันนี้ หากใครได้เดินทางไปรัฐจอร์เจีย เมืองออกัสตา สหรัฐอเมริกา จะเห็นรูปปั้นของเด็กหญิงผู้หนึ่งตั้งอยู่ เป็นอนุสรณ์สถานให้ผู้คนระลึกถึงเธอ
เธอเป็นเด็กหญิงที่มีชีวิตอยู่บนโลกเพียง 13 ปี หากแต่ความรักสงบ รักสันติภาพของเธอ ทำให้คนทั้งโลก รวมทั้งผู้นำหลายๆ ประเทศยกย่องและเอ็นดู
เธอชื่อ “Samantha Smith”
รูปปั้น Samantha Smith
Samantha มีชีวิตที่สั้นมาก เพียงแค่ 13 ปีเท่านั้น หากแต่เธอก็เติบโตมาในช่วงของสงครามเย็นในต้นยุค 80 (พ.ศ.2523-2532) และเป็นทูตที่อายุน้อยที่สุดของสหรัฐอเมริกา
ตำแหน่งที่เธอได้รับนี้ พาเธอไปสู่สหภาพโซเวียต ญี่ปุ่น และฮอลลีวู้ด หากแต่ความรุ่งโรจน์ของเธอก็ต้องจบลงในเวลาอันสั้น
Samantha เกิดที่สหรัฐอเมริกาในปีค.ศ.1972 (พ.ศ.2515) โดยมีพ่อเป็นศาสตราจารย์ทางด้านวรรณคดี และมีแม่เป็นนักสังคมสงเคราะห์
Samantha เติบโตมาอย่างเด็กธรรมดา เข้าเรียนตามปกติ
Samantha Smith
ขณะมีอายุได้ 10 ขวบ Samantha นั้นติดตามข่าวบ้านเมือง และกังวลใจเรื่องการเพิ่มจำนวนระเบิดนิวเคลียร์ รวมทั้งความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามกับสหภาพโซเวียต
ในเวลานั้น “Yuri Andropov” เพิ่งก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสหภาพโซเวียตในปีค.ศ.1982 (พ.ศ.2525) และรัฐบาลอเมริกันก็ไม่ค่อยวางใจในตัวของ Andropov ทำให้เกิดความตึงเครียดไปทั่ว
Yuri Andropov
ความกังวลที่มีก็คือ การพัฒนาอาวุธและการสร้างอาวุธของกองทัพจำนวนมาก ซึ่งอาวุธเหล่านั้นอาจจะสามารถยิงลงมาจากบนอวกาศได้
ด้วยความกังวลนี้ ทำให้ชาวอเมริกันมองว่าการขึ้นสู่อำนาจของ Andropov อาจจะเป็นก้าวแรกที่นำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ระหว่างสองประเทศ
นิตยสาร Time ได้ลงภาพและบทความเกี่ยวกับ Andropov ในฉบับวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ.1982 (พ.ศ.2525) ซึ่ง Samantha ก็ได้อ่านบทความในนิตยสารนี้ และถามผู้เป็นแม่ว่า
“ในเมื่อทุกคนต่างก็กลัวเขา ถ้าอย่างนั้น ทำไมถึงไม่มีใครซักคนเขียนจดหมายหาเขา ถามเขาว่าเขาอยากจะก่อสงครามจริงๆ หรือไม่?”
ผู้เป็นแม่ได้ตอบว่า
“ลูกก็ลองดูสิ”
นิตยสาร Time ฉบับที่ Samantha อ่าน
Samantha นั้นเอาจริง เธอเขียนจดหมายหา Andropov โดยมีเนื้อความว่า
“เรียนท่าน Andropov”
“หนูชื่อ Samantha Smith อายุ 10 ขวบ หนูขอแสดงความยินดีกับตำแหน่งใหม่ของท่าน”
“หนูมีความกังวลเรื่องสงครามนิวเคลียร์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกา ท่านจะโหวตมั้ยคะว่าจะให้มีสงครามหรือไม่?”
“หากท่านไม่ต้องการให้มีสงคราม ได้โปรตตอบหนูทีว่าท่านจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดสงคราม”
“คำถามนี้ท่านไม่จำเป็นต้องตอบ แต่หนูอยากรู้ว่าทำไมท่านจึงต้องการจะยึดครองโลก หรืออย่างน้อยก็คือประเทศของหนู”
“พระเจ้าสร้างโลกขึ้นมาเพื่อให้เราอยู่กันอย่างสงบสุข ไม่ใช่ต่อสู้”
“ด้วยความเคารพ
Samantha Smith”
จดหมายของ Samantha
ปรากฎว่าจดหมายของ Samantha นั้นไปถึง Andropov และถูกนำตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ของสหภาพโซเวียต และ Andropov ก็ได้เขียนจดหมายตอบ Samantha โดยส่งถึงในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ.1983 (พ.ศ.2526)
ใจความที่อดีตผู้นำสหภาพโซเวียตเขียนตอบ Samantha คือ
“ถึง Samantha”
“ฉันได้รับจดหมายของหนูแล้ว ซึ่งก็เหมือนกับจดหมายอีกหลายฉบับในเวลานี้ ที่ส่งมาถึงฉันจากประเทศของหนูและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก”
“หนูบอกว่าหนูกังวลใจว่าจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างเราสองประเทศหรือไม่ และหนูก็ถามว่าเราจะทำอะไรเพื่อป้องกันไม่ให้สงครามเกิดขึ้นหรือไม่”
“คำถามของหนูเป็นคำถามที่สำคัญที่สุดเท่าที่บุคคลที่มีความคิดคนหนึ่งจะถาม และฉันจะตอบอย่างจริงจังและตรงไปตรงมา”
“ใช่แล้ว Samantha พวกเราในสหภาพโซเวียตได้พยายามทำทุกทางเพื่อไม่ให้โลกเกิดสงคราม ซึ่งนี่คือสิ่งที่ชาวโซเวียตทุกคนต้องการ นี่คือสิ่งที่ผู้ก่อตั้งชาติของเรา Vladimir Lenin ได้สอนเรา”
“เราต้องการสันติภาพ มีอย่างอื่นที่เราต้องทำ เช่น การเพาะปลูก การก่อสร้างและทำงานประดิษฐ์ การเขียนหนังสือและบินออกไปยังอวกาศ”
“เราต้องการสันติภาพสำหรับพวกเรา และสำหรับทุกคนบนโลกนี้ สำหรับลูกหลานของเรา และสำหรับหนู Samantha”
“หากผู้ปกครองของหนูอนุญาต ฉันขอเชิญหนูมาประเทศของเรา ซึ่งเวลาที่เหมาะที่สุดก็คือฤดูร้อนนี้ หนูจะได้พบเพื่อนใหม่ ได้เยี่ยมชมค่ายเด็กนานาชาติ และเห็นด้วยตาตัวเองว่าที่สหภาพโซเวียตนี้ ทุกคนล้วนมีสันติภาพและมิตรภาพ”
“ขอบคุณมากสำหรับจดหมายของหนู ฉันขอให้หนูพบแต่ความสุข”
“Y. Andropov”
Samantha ตอบรับคำเชิญของ Andropov และได้เยี่ยมเยียนสหภาพโซเวียตในปีค.ศ.1983 (พ.ศ.2526)
Samantha ใช้เวลาอยู่ในสหภาพโซเวียตเป็นเวลาสองสัปดาห์ในฐานะแขกของ Andropov
เมื่อกลับมายังสหรัฐอเมริกา เธอก็ได้รับการต้อนรับราวกับคนดัง
1
มีการเชิญเธอไปสัมภาษณ์ยังรายการโทรทัศน์ต่างๆ อีกทั้งมีขบวนพาเหรดให้เธอในเมืองที่เธออยู่ และเธอยังได้รับเชิญจากญี่ปุ่นให้เข้าพบนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นอีกด้วย
Samantha ในญี่ปุ่น
ภายหลัง Samantha ได้เขียนหนังสือ บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของเธอในสหภาพโซเวียต อีกทั้งยังได้ไปแสดงในซีรีส์ทางโทรทัศน์อีกด้วย
25 สิงหาคม ค.ศ.1985 (พ.ศ.2528) Samantha และพ่อได้ขึ้นเครื่องบินกลับบ้านจากการถ่ายภาพยนตร์ หากแต่เครื่องบินลำที่เธอเดินทางนั้นประสบอุบัติเหตุตก ทำให้ทุกคนบนเครื่องเสียชีวิต รวมทั้ง Samantha
Samantha มีอายุเพียง 13 ปี
ความตายของ Samantha สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลก ผู้นำชาติต่างๆ ได้ออกมากล่าวแสดงความเสียใจ รวมทั้ง Andropov ก็ออกมากล่าวแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ Samantha
Samantha นั้นเสียชีวิตมานานเกือบ 40 ปีแล้ว หากแต่ภาพเด็กหญิงผู้ใฝ่หาสันติภาพ ชิงชังสงคราม ยังคงติดอยู่ในใจของใครหลายคน
เชื่อว่าทุกคนที่เคยได้สัมผัสกับเธอ คงลืมเธอไม่ลงเป็นแน่
โฆษณา