19 พ.ค. 2021 เวลา 22:12 • การเมือง
bacha bazi ธรรมเนียมการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กชาย ปัญหาในมุมที่มืดที่สุดของอัฟกานิสถานที่ถูกมองข้าม
ถ้าพูดถึงอัฟกานิสถานในเวลานี้ หลายคนน่าจะนึกถึงการที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐฯ ประกาศจะถอนกองกำลังอเมริกันทั้งหมดออกจากประเทศนี้ไปภายใน 11 กันยายนของปีนี้ เพื่อยุติสงครามที่กินเวลายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ถึง 20 ปี นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประกาศทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายด้วยการบุกอัฟกานิสถานเพื่อโค่นล้มรัฐบาลตาลีบัน และทำการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ของโอซามะ บิน ลาเด็น มาตั้งแต่ปี 2001
แต่การติดหล่มอยู่ในสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้นของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานไม่ใช่ปัญหาด้านที่มืดที่สุด และปัญหาด้านมืดที่สุดก็ไม่ใช่ปัญหาที่อัฟกานิสถานเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดรายใหญ่ของโลกอย่างฝิ่น แต่ปัญหาที่ซุกอยู่ในมุมที่มืดที่สุดของประเทศนี้ก็คือวัฒนธรรมการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กชายที่เรียกว่า bacha bazi ซึ่งคนอัฟกันที่เคร่งศาสนาหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องนี้เพราะเป็นสิ่งต้องห้ามทั้ง ๆ ที่รับรู้ว่ามีธรรมเนียมนี้จริงในสังคม
Photo: Daily Pakistan
•bacha bazi คืออะไร
bacha แปลว่า ‘เด็กชาย’ bazi แปลว่า ‘เกม หรือ เล่น’ ในภาษาอังกฤษแปลศัพท์คำนี้ว่า ‘boy play’ หรือบางทีก็เรียกว่า ‘dancing boy’ โดยรวมแล้วคำว่า bacha bazi นี้หมายถึงธรรมเนียมที่เด็กชายอายุน้อยจะถูกบังคับให้แต่งกายอย่างผู้หญิงแล้วออกมาร่ายรำให้ความบันเทิงแก่ชายที่สูงวัยกว่าที่มีเงิน มีอำนาจ และเป็นผู้ครอบครองเด็กชายเหล่านี้ และโดยปกติแล้วเด็กเหล่านี้จะถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วย
ธรรมเนียมนี้เป็นที่ยอมรับในอัฟกานิสถาน โดยเฉพาะแถบชนบทของอัฟกานิสถาน มาเป็นเวลานานนับหลายร้อยปีแล้ว จนกระทั่งเมื่อตาลีบันเรืองอำนาจกลายเป็นรัฐบาลจึงประกาศให้ธรรมเนียมนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมายในทศวรรษที่ 1990 แต่เมื่อรัฐบาลตาลีบันถูกโค่นล้มโดยกองกำลังสหรัฐฯ ในปี 2001 ธรรมเนียมนี้จึงกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีความพยายามที่จะขจัดธรรมเนียมนี้ออกไปแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวงของรัฐบาลอัฟกานิสถานและความลังเลของสหรัฐฯ ที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาภายในของประเทศนี้ (ซึ่งย้อนแย้งกับการที่เข้าไปแทรกแซงประเทศนี้มานานนับ 20 ปี)
ธรรมเนียมนี้กลายเป็นปัญหาเพราะเด็กถูกบังคับและกลายเป็นการค้ามนุษย์ เหยื่อมักจะถูกทำทารุณกรรมทางเพศ และมักจะถูกทุบตีจนกระดูกหัก เลือดตกในอวัยวะภายใน และบางรายถึงแก่ความตาย มีเด็กจำนวน 81 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่ต้องการทำอาชีพนี้
จนกระทั่งในปี 2017 รัฐบาลอัฟกานิสถานเพิ่งพยายามจะแก้ปัญหานี้ด้วยการออกกฎหมายให้ bacha bazi เป็นอาชญากรรมผิดกฎหมาย
ภาพชื่อ Dance of a bacha ถ่ายที่ Samarkand เมื่อประมาณปี 1905 – 1915 โดย Sergei Mikhailovich Prokudin-Gorskii Photo: Library of Congress
•ที่มาของธรรมเนียม bacha bazi
bacha bazi เป็นธรรมเนียมที่ปรากฏในแถบเอเชียกลางมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณ แต่รูปแบบใหม่ของธรรมเนียมนี้ที่ปรากฏในอัฟกานิสถานนั้นมีประมาณช่วงศตวรรษที่ 19 และถูกระบุว่าเป็นธรรมเนียมที่มักเกิดขึ้นในหมู่ชายผู้มั่งคั่งร่ำรวยของชนเผ่า Pashtun ซึ่งจะนำเอาเด็กชายมาใช้สร้างความบันเทิงทางเพศ
1
เหตุใดจึงไม่ใช้ผู้หญิง? นั่นเป็นเพราะว่าในดินแดนหลายส่วนของอัฟกานิสถานผู้หญิงจะถูกห้ามมิให้มาประกอบอาชีพสร้างความบันเทิงและมาร้องรำทำเพลงในที่สาธารณะ เด็กผู้ชายจึงถูกนำมาทำสิ่งนี้เพื่อเป็นการทดแทน ปรากฏการณ์นี้เรียกว่าเป็นการกลับกันทางเพศ เมื่อศาสนาอิสลามซึ่งเป็นสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่และกีดกันเพศหญิง เมื่อแทบจะไม่ได้มีการปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงดังนั้นเด็กผู้ชายจึงกลายเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความโรแมนติกและดึงดูดทางเพศให้แก่ชายผู้ทรงอำนาจในแถบชนบทของอัฟกานิสถานแทน
คำถามต่อมาคือธรรมเนียม bacha bazi เกิดขึ้นได้อย่างไรในสังคมที่เคร่งศาสนาอิสลามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งตามหลักศาสนาอิสลามการร่วมเพศทางทวารหนักและกระทำทางเพศต่อเด็กชายนั้นผิดหลักศาสนา แต่กลับกลายเป็นว่าธรรมเนียมนี้เป็นสิ่งยอมรับได้ ซึ่งคำถามนี้ไม่มีคำตอบที่แน่ชัด แต่มีผู้พยายามศึกษาเรื่องนี้และให้คำอธิบายว่าตามบรรทัดฐานทางสังคมของชาว Pashtun ไม่ถือว่าเรื่อง bacha bazi เป็นเรื่อง ‘รักร่วมเพศ’ หรือ ‘ไม่ถูกหลักศาสนาอิสลาม’ แต่อย่างใด โดยถือว่าหากชายผู้อุปถัมภ์ไม่ได้รักเด็กชายคนนั้นแล้วการกระทำทางเพศที่เกิดขึ้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าตำหนิ แถมยังเป็นสิ่งที่ถูกศีลธรรมมากกว่าการทำให้สตรีสักคนหนึ่งแปดเปื้อนเสียอีก
2
มีคำกล่าวทั่วไปในอัฟกานิสถานว่า “ผู้หญิงมีไว้เลี้ยงลูก ส่วนเด็กผู้ชายมีไว้เพื่อความเพลิดเพลิน”
ในอดีตแถบนี้เป็นชนบทที่ห่างไกลและไม่รู้ภาษาอารบิกซึ่งเป็นภาษาหลักของศาสนาอิสลามกัน จึงทำให้ชาวอัฟกันยอมให้ธรรมเนียมทางสังคมอยู่เหนือหลักคำสอนทางศาสนา ซึ่งรวมถึงการละเว้นหลักคำสอนเรื่องรักร่วมเพศและการร่วมสังวาสเชิงสำส่อนเช่นนี้ด้วย
เด็กชายที่ถูกนำมาเป็น bacha bareesh (แปลว่า เด็กชายไร้หนวด) จะมีอายุตั้งแต่ 9 ขวบถึง 18 ปี เด็กเหล่านี้มักจะมีพื้นเพมาจากครอบครัวที่ยากจน แล้วถูกขายให้แก่ผู้อุปถัมภ์ที่ร่ำรวยและมีอำนาจ โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่ไร้หนวดเคราและมีลักษณะเหมือนผู้หญิงจะยิ่งเป็นที่ต้องการตัวมากจากบรรดาชายที่เป็นพ่อค้าวาณิชย์ที่ร่ำรวยหรือขุนศึกที่ทรงอำนาจ ซึ่งคนกลุ่มนี้สามารถทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจโดยที่ไม่ถูกลงโทษ
2
พ่อแม่ของเด็กจะถูกชักจูงให้มอบลูกชายให้โดยจะได้รับการตอบแทนเป็นเงิน อีกทั้งเด็ก ๆ จะมีงานทำและได้เรียนหนังสือ ซึ่งหากมองจากภายนอกเด็กชายเหล่านี้ทำงานเป็นนักเต้นในงานเลี้ยงส่วนตัว แต่เด็กชายจำนวนมากมักถูกบังคับให้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับนายของตัวเอง
งานเลี้ยงส่วนตัวที่ว่านี้จะมีการใช้โถงขนาดใหญ่เพื่อเป็นสถานที่ในการจัดงานเลี้ยง และมีเหล่าเด็กผู้ชายออกมาเต้นรำแบบยั่วยวนในชุดผู้หญิง มีกระดิ่งผูกที่เท้า และมีผ้าคลุมศีรษะไว้ ซึ่งจะมีการแห่แหนร่ายรำกันหลายชั่วโมง งานเลี้ยงเช่นนี้เป็นวาระที่ทำให้มีการซื้อขายเด็กชายนักเต้นนี้ขึ้น ทันทีที่งานเลี้ยงเลิก เด็กจะถูกขายให้แก่ผู้ที่ให้ราคาสูงสุดหรือถูกแบ่งปันกันในไปในหมู่ผู้มาร่วมงานเลี้ยงเพื่อกระทำชำเราทางเพศ ส่วนเด็ก ๆ จะได้รับเงินหรืออาหารเป็นการตอบแทนพอเป็นพิธี หากเด็กคนใดปฏิเสธมักจะถูกข่มขืน หรือบางรายที่พยายามหนีจะถูกฆ่า และพอเมื่อเด็กเหล่านี้โตขึ้นมาก็จะถูกลอยแพทอดทิ้งไปไร้ซึ่งอนาคตเพราะไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือในระหว่างที่ถูกใช้เป็นเครื่องบำเรอกามให้กับนายเหนือหัวของตน
3
ในยุคทศวรรษที่ 1980 เมื่อกลุ่มมูจาฮิดีนต่อสู้กับสหภาพโซเวียตเพื่อขับไล่กองกำลังของฝ่ายหลังออกไปจากอัฟกานิสถาน บรรดาขุนศึกของกลุ่มมูจาฮิดีนได้นำธรรมเนียมปฏิบัติเช่นนี้มาใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงสถานะทางสังคมและความมีอำนาจ โดยขุนศึกแต่ละคนจะมีเด็กชายราวหนึ่งถึงสองคนอยู่ในสังกัดเพื่อรับใช้ส่วนตัวและสร้างความเพลิดเพลินทางเพศให้แก่ตัวเอง ซึ่งขุนศึกเหล่านี้นำหลักความเชื่อทางศาสนามาใช้ในทางที่ผิดเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองและผลประโยชน์ส่วนตน โดยได้ประกาศให้ bacha bazi เป็นสิ่งยอมรับได้
1
เมื่อเกิดสงครามกลางเมืองในอัฟกานิสถานแล้วเข้าสู่ยุคที่ตาลีบันปกครองประเทศ ตาลีบันเกลียดชังธรรมเนียมนี้อย่างหนัก มีการนำคำสอนในศาสนาอิสลามมาประกาศใช้เป็นกฎหมาย ธรรมเนียมนี้ผิดหลักคำสอนทางศาสนาและกลายเป็นสิ่งกฎหมาย ระหว่างปี 1993-2001 ผู้ลักลอบกระทำความผิดในกรณีนี้มีโทษถึงตาย
2
bacha bazi กลับมาแพร่หลายอีกครั้งหลังจากที่สหรัฐฯ ส่งกองกำลังบุกอัฟกานิสถาน Photo: Frontline
•การกลับมาของธรรมเนียม bacha bazi
ในปี 2001 เมื่อสหรัฐฯ บุกอัฟกานิสถาน ตาลีบันถูกโค่นล้มไป แล้วมีรัฐบาลใหม่ที่สหรัฐฯ หนุนหลังเข้ามาปกครองประเทศแทนที่ แนวปฏิบัตินี้ก็กลับมาใหม่ ซึ่งบรรดากลุ่มผู้นำกองกำลังมูจาฮิดีนที่เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมรบทัพจับศึกกับกองกำลังสหรัฐฯ ในการโค่นล้มรัฐบาลตาลีบันเป็นผู้ฟื้นฟูธรรมเนียมนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะขุนศึกเหล่านี้เมื่อตั้งรัฐบาลใหม่กลายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐในตำแหน่งสำคัญ ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าหลวงปกครองเขตต่าง ๆ รัฐมนตรีตำแหน่งสำคัญ หัวหน้าตำรวจ หรือแม้กระทั่งผู้บัญชาการในกองทัพ และเมื่อคนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับ bacha bazi ก็ไม่ถูกลงโทษแต่อย่างใด
มีรายงานว่าผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ ผู้หนึ่งที่ทำร้ายหัวหน้ากองกำลัง(ที่สหรัฐฯ หนุนหลังอยู่)เนื่องจากชายคนนี้ล่ามโซ่เด็กชายคนหนึ่งไว้บนเตียงเพื่อเป็นทาสทางเพศ ผลจากการกระทำของนายทหารอเมริกันคนนี้ต่อผู้นำคนดังกล่าวคือการถูกปลดออกจากตำแหน่งและถูกส่งตัวกลับจากอัฟกานิสถาน
สงครามที่ยืดเยื้อในอัฟกานิสถานทำให้ปัญหานี้กลับมาแพร่หลายยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่อัฟกานิสถานที่เกี่ยวข้องก็มิได้ลงมือแก้ปัญหานี้ ฝ่ายเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานเองก็รู้เห็นว่ามีการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นและรู้ว่าเด็กชายจำนวนมากถูกล่วงละเมิดทางเพศแต่ไม่ได้ลงมือทำอะไรเพราะต้องการรักษาพันธมิตรเอาไว้มิให้เหล่าตาลีบันกลับมามีอำนาจใหม่อีกครั้ง โดยกองกำลังสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานมีนโยบายเพิกเฉยต่อการกระทำ bacha bazi ของพวกที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ แถมยังบอกเสียอีกว่าให้เอาหูไปนาเอาตาไปไร่เพราะมันเป็นธรรมเนียมของคนที่นี่
เมื่อธรรมเนียมนี้เป็นสัญลักษณ์ถึงความมีอำนาจ หลังปี 2001 การประพฤติปฏิบัติเช่นนี้ก็กระจายไปทั่วอัฟกานิสถาน เด็กผู้ชายถูกข่มขืน ลักพาตัว และซื้อขาย เพราะ ‘ผู้ล่า’ กลายมาเป็นผู้มีอำนาจในสังคม สำหรับพวกที่ไม่มีความสามารถที่จะซื้อเด็กผู้ชายได้ก็สามารถซื้อหาแผ่นดีวีดีที่มีขายทั่วไปอย่างเปิดเผยตามท้องถนน
การที่สหรัฐฯ กลับมาให้โอกาสกับกลุ่มที่ถูกกดขี่ในยุคตาลีบันเรืองอำนาจ เช่น ผู้หญิง และการที่ตาลีบันถูกโค่นล้มไปทำให้เกิดสุญญากาศในการบังคับใช้กฎหมายที่ปราบปรามผู้ที่เกี่ยวข้องกับ bacha bazi อย่างรุนแรงนั้นได้กลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้ bacha bazi ยิ่งแพร่หลายมากขึ้น ในเมื่อผู้หญิงถูกนำมาใช้ให้ความบันเทิงไม่ได้ก็เอาเด็กผู้ชายมาใช้แทน ในเมื่อไม่มีการลงโทษก็ยิ่งกระทำการได้โดยสะดวกโยธินยิ่งขึ้น
1
ความอดอยากยากจนที่เกิดจากสงครามยิ่งทำให้พ่อแม่ขายลูกชายกิน เด็กชายยากจนจำนวนมากถูกล่อลวงตามท้องถนนเพราะได้รับคำลวงว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น บ้างก็ถูกลักพาตัวไปจากครอบครัว ครอบครัวชาวอัฟกานิสถานที่มีลูกหลายคนกระเหี้ยนกระหือรือที่จะมอบลูกชายให้แก่ขุนศึกหรือเจ้าหน้าที่รัฐถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าลูกชายจะถูกกระทำทางเพศอย่างไร เพราะต้องการได้มาซึ่งเกียรติยศแก่วงศ์ตระกูลและเงินทองที่จะได้รับเป็นการตอบแทน
2
เด็กชายเหล่านี้จะถูกนำตัวไปเพื่อเตรียมพร้อมเพื่อมีความสัมพันธ์กับชายที่สูงวัยกว่า ด้วยการถูกจับแต่งตัวเป็นผู้หญิง ถูกจับแต่งหน้า ฝึกให้เต้น ซึ่งเป็นความยินยอมโดยไม่พร้อมใจเพราะต้องทำเพื่อครอบครัว
ภาพกราฟฟิคแสดงปัญหา bacha bazi ในอัฟกานิสถาน Photo: AFP
•ปัญหาที่เป็นมากกว่าปัญหาในท้องถิ่น
bacha bazi ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศของอัฟกานิสถานในอนาคต เพราะเด็กชายที่ถูกใช้เป็น bacha bazi ไม่ได้รับการศึกษาใด ๆ และไม่ได้รับการฝึกฝนให้มีทักษะในการประกอบอาชีพอะไร ทักษะที่เด็กเหล่านี้มีคือแค่การเต้นรำเท่านั้น และมีข้อมูลว่ามีชายชาว Pashtun ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ที่มีเด็กชายบำเรอทางเพศ และพบว่าชายผู้ที่ทำธรรมเนียมนี้เคยถูกกระทำเช่นนี้มาก่อน พอเติบใหญ่ขึ้นมากลายเป็นขุนศึกก็ทำอย่างที่ตัวเองเคยถูกกระทำ ซึ่งจะกลายเป็นวงจรอุบาทว์ต่อไป
ยิ่งธรรมเนียมนี้แพร่หลายมากขึ้นเท่าใด ผู้หญิงยิ่งกลายเป็นพลเมืองชั้นสองและถูกเลือกปฏิบัติมากยิ่งขึ้น และจะยิ่งไม่ได้รับการเหลียวแลหรือได้รับโอกาสให้มีความทัดเทียมเท่าเพศชาย โอกาสจะได้รับการศึกษาก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้นเพราะจะถูกมองว่ามีหน้าที่เพียงเพื่อสืบพันธุ์เท่านั้น
เมื่อสหรัฐฯ เพิกเฉยไม่มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหานี้ เมื่อถอนกองกำลังออกไป สุดท้ายกลุ่มตาลีบันจะกลับมาใหม่ เพราะเมื่อธรรมเนียม bacha bazi กลายเป็นเรื่องปกติปฏิบัติกันอย่างแพร่หลายยิ่งกระตุ้นให้กลุ่มตาลีบันต้องการกลับมาบังคับใช้กฎหมายตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลามอีกครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ เพราะรู้จุดอ่อนว่ามีการนำธรรมเนียมนี้กลับมาใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐบาลใหม่ กลุ่มตาลีบันจึงใช้เด็กชาย bacha bazi เป็นเครื่องมือแทรกซึมเข้าไปเพื่อจับตัวและสังหารบรรดาเจ้าหน้าที่เหล่านี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตำรวจ เฉพาะในปี 2016 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกฆ่าโดยวิธีนี้ตายไปหลายร้อยคนภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน
ปัญหานี้ไม่ได้เกิดเฉพาะแค่ในอัฟกานิสถานเท่านั้น บางส่วนของประเทศปากีสถานก็มีการปฏิบัติตามธรรมเนียมนี้อย่างแพร่หลายเช่นกัน
1
ขุนศึกบางคนมีทาสทางเพศที่เป็นเด็กชายในความครอบครองนับเป็นสิบคน Photo: Express.co.uk

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา