Blockdit Logo (Mobile)
ตึกรามบ้านช่อง
•
23 พ.ค. 2021 เวลา 14:23 • ศิลปะ & ออกแบบ
กรุงเทพเมืองเทพสร้าง เมื่อเมืองและประชาชนไม่อยู่ในโจทย์ของผู้มีอำนาจ (1)
“เมืองหลวง ควันและฝุ่นมากมาย ที่สูดดมเข้าไป ร่างกายก็เป็นภูมิแพ้” บทเพลงที่บอกเล่าบรรยากาศอันชวนคัดจมูกน้ำมูกไหลของกรุงเทพเมื่อ7ปีก่อน ผ่านมาเกือบทศวรรษ ฝุ่นควันเหล่านั้นมิได้จางหายไป มีแต่จะพอกพูนจนผู้คนชินชา ข้อมูลจากThe world air quailty project สะท้อนภาพความจริงที่ว่าคนกรุงมีวันที่อากาศบริสุทธิ์เพียง71วันต่อ1ปีในปี2563 หรือไม่ถึง20%ใน1ปี โดยเราต้องสูดดมPM2.5ในระดับวิกฤติยาวนานถึงสองสัปดาห์ด้วยกัน แค่คิดก็แสบจมูกแล้ว
นอกจากค่าPM2.5ที่สูงลิบ พื้นที่สีเขียวซึ่งเป็นพื้นที่ที่พอจะช่วยบรรเทาสภาวะมลพิษทางอากาศก็กลับมีปริมาณน้อยนิดเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรของเมืองฟ้าเมืองสวรรค์แห่งนี้ จากเกณฑ์มาตรฐานของWHOระบุไว้ว่า ปริมาณพื้นที่สีเขียวต่อประชากรที่มีคุณภาพจะต้องอยู่ที่ 9 ตารางเมตร/คน โดยในปี2563 กทม.ประกาศว่าตอนนี้เรามีพื้นที่สีเขียวอยู่ถึง6.9 ตารางเมตรต่อคน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องจริงที่ไม่จริง เพราะหากพินิจดูไปในรายละเอียดแล้วจะพบว่าตัวเลขนี้มิได้ถูกคำนวณร่วมกับจำนวณประชากรแฝงของกรุงเทพมหานคร หากแต่เลือกคำนวณจากประชากรที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในกรุงเทพเท่านั้น ซึ่งตัวเลขที่ควรจะเป็นจริง ๆ นั้นควรจะอยู่ที่ 3.8-4.7 ตารางเมตร/คน หรือไม่ถึงครึ่งจากเกณฑ์ของWHO นอกจากนี้หากเราเลือกคำนวณจากเฉพาะพื้นที่สีเขียวที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถเข้าไปเดินเล่น ไปพักผ่อนได้ ไม่นับเกาะกลางถนนที่ต้องเสี่ยงชีวิตข้ามไปหา เราจะมีพื้นที่สีเขียวอยู่เพียง0.88 ตารางเมตร/คนเท่านั้น อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มเศร้าใจพิกล แต่ในข่าวร้ายเรายังมีข่าวดี(หรือเปล่า) โดยกทม.ได้ประกาศไว้ว่าจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพเมืองเทพสร้างแห่งนี้ให้ได้ถึง10ตารางเมตร/คนภายในปี2573 หรืออีก9ปีข้างหน้า ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพื้นที่สีเขียวเหล่านั้นจะเป็นพื้นที่คุณภาพดีให้ชาวกรุงได้เพลิดเพลินกับอากาศบริสุทธิ์เสียที
ฝุ่นควัน มลพิษ พื้นที่สีเขียว ความเลวร้ายที่กล่าวมาข้างต้นเหล่านี้แม้ไม่มีใครบอกก็สามารถรับรู้ได้ แต่ภาวะน่าเป็นห่วงอีกหนึ่งอย่างที่กำลังดำเนินไปอย่างเงียบๆโดยที่เราไม่ได้สังเกตกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่เร่งด่วนและร้ายแรง นั่นก็คือภาวะกรุงเทพจมน้ำนั่นเอง โดยคุณทราบหรือไม่ว่าบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานครนั้นสูงกว่าระดับน้ำทะเลเพียง50เซนติเมตร หรือสูงเพียงความสูงของเก้าอี้หนึ่งตัว บางพื้นที่ก็ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลเสียด้วยซ้ำ โดยปัญหานี้มิใช่เพียงเรื่องของสภาวะโลกร้อนที่ส่งผลโดยตรงต่อระดับน้ำทะเลในทุกๆปี หากแต่มันซับซ้อนมากกว่านั้น สภาวะการโตแบบเมืองเดี่ยวของกรุงเทพมหานครส่งผลโดยตรงต่อการจมลงของเมือง อาคารสูงกว่า20,000ตึก รถยนต์กว่า9,000,000คันกำลังรุมขย่มให้เมืองจมลงปีละ3เซนติเมตร ซึ่งหากเมืองกำลังจมลงด้วยอัตรานี้ เราจะเจอสภาวะน้ำท่วมเกือบครึ่งเมืองทุกครั้งที่ฝนตกหนักภายในปี2573 จากการประมาณการของงานวิจัยจากธนาคารโลก นอกจากนี้จากการประมาณการหลายๆแห่งยังบอกอีกว่าในอีก15-30ปี หลายส่วนของกรุงเทพจะไม่สามารถอยู่อาศัยได้จากสภาวะเมืองจมน้ำ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณอาจกำลังเก็บกระเป๋าเตรียมย้ายประเทศ หรือกำลังเริ่มต้นเรียนภาษาพัฒนาตัวเอง แต่เราในฐานะนักออกแบบที่หวังดีต่อเมืองจึงมาชวนตั้งคำถามและชวนคุยถึงการช่วยกู้เมืองกรุงเทพให้กลับมาสดใสและน่าอยู่อีกครั้ง โดยตอนต่อไปผมจะมาเล่าในมุมมองที่เล็กลงมาว่าในรายละเอียดแล้ว อะไรบ้างที่กำลังเกิดขึ้นกับเมืองเรา ฝากติดตามด้วยนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา