28 พ.ค. 2021 เวลา 07:53 • ข่าว
กินนิ่ม! 'บัชชาร' คว้าชัยเลือกตั้งประธานาธิบดีซีเรียด้วยคะแนน 95.1% อยู่ต่ออีก 7 ปี
บัชชาร อัลอะสัด คว้าชัยเลือกตั้งประธานาธิบดีซีเรียอีกครั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นจนเกือบล้นหีบใส่บัตรเลือกตั้งที่ 13,540,860 คะแนน คิดเป็น 95.1% สูงกว่าเมื่อปี 57ที่เขาได้คะแนนเสียง 10,319,723 คะแนน คิดเป็น 92.20 % หรือมีคนนิยมชมชอบเพิ่มอีกกว่า 3.2 ล้านคนแม้สงครามกลางเมืองจะเข้าสู่ปีที่ 11 แล้ว
ส่วนคู่แข่งที่ได้อันดับ 2 กวาดคะแนนไป470,276 คะแนน คิดเป็น 3.3% และอันดับ 3ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 213,966 คะแนน คิดเป็น 1.5%
กระทรวงมหาดไทยซีเรียระบุว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ราว 14.2 ล้านคน คิดเป็น 78.6% ของผู้มีสิทธิ์ หมายความว่าบัชชารได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่อย่างแท้จริง (เสียงส่วนใหญ่จากผู้มาใช้สิทธิ์ส่วนใหญ่)
ทว่าก็มีจุดน่าสังเกตอยู่เพราะแม้จะมีการเปิดให้ชาวซีเรียที่อาศัยอยู่ในต่างแดนได้เลือกตั้งล่วงหน้าแต่ก็อนุญาตเฉพาะผู้ที่เดินทางออกจากประเทศโดยมีตราประทับอย่างถูกต้องบนหนังสือเดินทางเท่านั้น ไม่นับรวมบรรดาผู้ลี้ภัยกว่า 11 ล้านคนที่หนีตายจากภัยสงครามไปยังประเทศต่าง ๆ ซึ่งกลุ่มนี้คิดเป็นประชากรราว 50% ของประเทศ
ก่อนการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันพุธ (26 พ.ค. 64) รัฐบาลตะวันตกหลายชาติทั้งสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, ฝรั่งเศษและอิตาลีออกแถลงการณ์ขู่ว่าจะบอยคอตผลการเลือกตั้งหากว่าเป็นไปโดยไม่ “บริสุทธิ์และยุติธรรม”
ขณะที่ตุรกีประเทศเพื่อนบ้านที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากสงครามซีเรียและมีบทบาทอย่างมากในความพยายามแก้ปัญหาในซีเรียก็ออกแถลงการณ์ประณามการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าไม่ยุติธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่สะท้อนความต้องการที่แท้จริงของประชาชน ไม่ปฏิบัติตามมติที่ 2254 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติซึ่งเกี่ยวกับการแก้ปัญหาทางการเมืองสำหรับความขัดแย้งในซีเรีย และยังเผยให้เห็นท่าทีที่ไม่จริงใจของระบอบอะสัด (Assad’s regime) ต่อกระบวนการทางการเมืองอีกด้วย
กระทรวงการต่างประเทศตุรกีชี้ชัดไปอีกว่าระบอบอะสัดไม่ควรได้รับอนุญาตให้สร้างความชอบธรรมแก่ตนเองผ่านการจัดการเลือกตั้งที่กำหนดผลเอาไว้ล่วงหน้าแล้วเช่นนี้
อย่างไรก็ตามฝ่ายรัฐบาลซีเรียบอกว่าคำวิจารณ์ของเหล่าชาติตะวันตกนั้น “ไร้ค่า” และการที่การเลือกตั้งทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่นแม้อยู่ในภาวะสงครามก็สะท้อนว่า “ซีเรียกำลังกลับสู่ความปกติ”
มีการสำรวจความเห็นของประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิในกรุงดามัสกัสปรากฏว่าล้วนมีจุดยืนสนับสนุนบัชชาร อัลอะสัด โดยพวกเขาบอกว่าเป็นผู้นำคนเดียวที่สามารถฝ่าฟันสงครามที่ดำเนินมานานกว่าทศวรรษได้ แต่เมื่อถามประชาชนในพื้นที่ยึดครองของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ผู้คนที่นั่นไม่ได้มีจุดยืนต่อต้านรัฐบาลเพียงเท่านั้นแต่พวกเขาต่างมีจุดยืนต่อต้านการเลือกตั้งครั้งนี้และมองว่าเป็นเพียงละครฉากหนึ่งที่ระบอบอะสัดจัดขึ้นเท่านั้น ขณะที่ในพื้นที่ปกครองตนเองของกลุ่มชาวเคิร์ดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้คนที่นั่นระบุว่าการเลือกตั้งไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาต้องใส่ใจ
ชัยชนะที่คาดเดาได้ครั้งนี้ทำให้บัชชารในวัย 55 ปีจะเป็นผู้นำซีเรียไปอีกอย่างน้อย 7 ปีเต็ม เขาแถลงผ่านบัญชีเฟซบุ๊กที่ใช้หาเสียงว่า “ขอขอบคุณชาวซีเรียที่มีความรักชาติและมีส่วนร่วมกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่ออนาคตของลูกหลานและเยาวชนชาวซีเรีย ขอให้เรามาเริ่มต้นกันตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เพื่อสร้างความหวังและสร้างประเทศซีเรียร่วมกัน”

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา