31 พ.ค. 2021 เวลา 06:08 • ประวัติศาสตร์
ทำความสะอาด..อุบลราชธานี
เขียนเมื่อ 11 มิ.ย.2556
ผลการสำรวจผลกระทบจากทุ่นระเบิดในประเทศไทยขององค์การเพื่อความช่วยเหลือแห่งชาวนอร์เวย์ (Norwegian People's Aid : NPA และศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (Thailand Mine Action Center : TMAC) เมื่อปี พ.ศ.2544 พบว่าในประเทศไทยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดที่ยังตกค้างและถูกฝังอยู่ จากผลพวงของการสู้รบตามแนวชายแดนในอดีตที่ผ่านมา จำนวนถึง 2,557 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 25 จังหวัด และหนึ่งในนั้นคือ จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีพื้นที่ที่คาดว่ายังมีทุ่นระเบิดตกค้างและฝังอยู่ถึง 131.62 ตารางกิโลเมตร TMAC ได้เริ่มการปฏิบัติการกวาดล้างและเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
พื้นที่สงสัยว่ามีทุ่นระเบิดตกค้างและฝังอยู่ ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จำนวน 131.62 ตร.กม.
ผมมาทำหน้าที่หัวหน้าส่วนประสานการปฏิบัติและประเมินผลของ TMAC เมื่อเดือนตุลาคม 2555 ผมรู้สึกแปลกใจว่า เวลาล่วงมาแล้วถึง 11 ปี แต่ในพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี ไม่เคยมีหน่วยงานใดเข้าไปดำเนินการกวาดล้างและเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างเป็นจริงเป็นจังเลย มีเพียงแค่เข้าไปกวาดล้างและเก็บกู้พื้นที่บางส่วน ตอนก่อสร้างถนนเข้าสู่ช่องเม็กเท่านั้น ในขณะที่จังหวัดต่างๆ มีการจัดหน่วยงานเข้าไปดำเนินงานกวาดล้างและเก็บกู้ทุ่นระเบิด และสามารถทำให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยแล้วถึง 7 จังหวัด คงเหลือพื้นที่ที่มีดำเนินการกวาดล้างและเก็บกู้ฯ ในปัจจุบันสลับกันไปมาในแต่ละปีอยู่ 17 จังหวัด ส่วน จ.อุบลราชธานี เป็นจังหวัดเดียวที่ไม่ได้รับการเหลียวแลและไม่มีแผนที่จะเข้าไปดำเนินการ
ผมพยายามถามผู้บังคับบัญชาและผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคนในวงการทุ่นระเบิด ก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้อย่างชัดเจน
"บ้างก็ว่าเป็นพื้นที่กันชนระหว่างไทย ลาวและกัมพูชา จึงไม่อยากเก็บกู้ระเบิดออก เอาไว้เป็นเครื่องกีดขวางป้องกันตามแนวชายแดน"
"บ้างก็ว่าเอาทุ่นระเบิดไว้ป้องกันทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่จากพวกลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์"
"บ้างก็ว่านายทุนและนักการเมืองไม่ยอมให้เข้าไป เกรงว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปรู้ความลับเรื่องการทำผิดกฎหมายและอิทธิพลเถื่อนตามแนวชายแดนฯลฯ"
จนบัดนี้ ผมก็ยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงเลยว่า
"เหตุผลที่ไม่กวาดล้างและเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี มันคืออะไรแน่"
ทำความสะอาด..อุบลราชธานี (Cleanup Ubonratchathani)
อยู่ๆ เมื่อกลางเดือน พ.ค.2556 ทางองค์กรพัฒนาเอกชนชื่อว่า Anti-Personnel Landmines Detection Product Development : APOPO และมูลนิธิถนนเพื่อสันติภาพ (Peace Road Organization : PRO) ได้ขออนุญาตจากกองบัญชาการกองทัพไทย เข้าปฏิบัติการสำรวจพื้นที่สงสัยว่ามีทุ่นระเบิด ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ด้วยวิธีการสำรวจที่ไม่ใช่ทางเทคนิค ในพื้นที่ อ.นาจะหลวย และ อ.บุณฑริก จ..อุบลราชธานี ซึ่งได้รับการอนุญาต และขณะเดียวกันหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ก็เปลี่ยนแผนการปฏิบัติงานประจำปีเข้าไปกวาดล้างและเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี เช่นกัน
นายตรีภพ ตรีมรรคา ผู้จัดการภาคสนาม APOPO-PRO ชี้แจงการเข้าสำรวจพื้นที่สนามทุ่นระเบิด ในที่ประชุมประจำเดือนของ อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี วันที่ 4 มิ.ย.2556
เหตุการณ์นี้ ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการที่มีการเข้าปฏิบัติการกวาดล้างและเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างเป็นจริงเป็นจังใน จ.อุบลราชธานี
ผมรู้สึกดีใจที่มีการเริ่มปฏิบัติการด้านการกวาดล้างและเก็บกู้ทุ่นระเบิดใน จ.อุบลราชธานี เสียที หลังจากที่สงสัยมานาน แต่ก็ยังไม่คลายสงสัยอยู่ดี ว่าการเข้าปฏิบัติงานใน จ.อุบลฯ ครั้งนี้เป็นไปอย่างกะทันหัน และก็ไม่รู้ว่าการปฏิบัติงานด้านทุ่นระเบิดใน จ.อุบลฯ นี้ จะต่อเนื่องยาวนานแค่ไหน
ได้มีโอกาสสนทนาบอกเล่า ถึงสถานการณ์พื้นที่ทุ่นระเบิดใน จ.อุบลราชธานี กับนายปัญญา จินตะเวช ส.ส.อุบลราชธานี เขต 9
ไม่มีหลักประกันได้ว่า พื้นที่ 131.62 ตารางกิโลเมตร ของ จ.อุบลราชธานี จะถูกกวาดล้างและเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยได้หมดเมื่อใด....หากวันหนึ่งข้างหน้า APOPO-PRO ไม่มีเงินจากต่างชาติมาช่วยเหลือบริจาคให้ทำงานต่อ และกองบัญชากองทัพไทยไร้ซึ่งนโยบายโดยต่อเนื่อง...
แต่สิ่งที่ผมกลัวที่สุดว่างานด้านกวาดล้างและเก็บกู้ทุ่นระเบิดใน จ.อุบลฯ จะหยุดและสะดุดลง ก็เพราะนายทุน ข้าราชการ นักการเมือง และผู้มีอิทธิพล ที่เป็นเหลือบหากินอยู่กับสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดนของ จ.อุบลฯ จะเป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้งานนี้..จบลง..
#ทุ่นระเบิด #อุบลราชธานี

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา