3 มิ.ย. 2021 เวลา 06:10 • ประวัติศาสตร์
#26 The Brain Club : History เที่ยวบินมรณะ
“ สิ่งที่ลูกชายของผมต้องการ คือการได้เห็นโลกกว้าง ” แซปส์ฟอร์ดผู้พ่อเล่า ภายหลังจากสูญเสียลูกชายไปแบบไม่คาดฝัน และเรื่องราวต่อไปนี้คือภาพวินาทีชีวิตของเด็กชายคนนึงที่ต้องตกลงมาจากเครื่องบินโดยสาร
เด็กชายในภาพคือ คีธ แซปส์ฟอร์ด (Keith Sapsford) หนุ่มน้อยชาวออสซี่วัย 14 ปี ในช่วงนั้น ครอบครัวแซปส์ฟอร์ดได้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างประเทศ แต่หลังจากที่พวกเขากลับมาบ้านที่ชานเมืองแรนด์วิค ทางตะวันออกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ก็เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น
สำหรับเด็กชายที่รักการผจญภัยอย่างแซปส์ฟอร์ด การกลับบ้านรอบนี้ก็เป็นเหมือนการกลับไปเจอความจริงเดิมๆ สุดแสนน่าเบื่อ เขาไม่อยากอยู่ในออสเตรเลีย การผจญภัยในต่างแดนของเขามันจบลงแล้วหรือ? นี่คือคำถามในหัวที่ยากจะเข้าใจ จนทำให้แซปส์ฟอร์ดเริ่มกลายเป็นเด็กมีปัญหา
ครอบครัวกำลังตกอยู่ในความสับสน จนในที่สุดพวกเขาตัดสินใจส่งแซปส์ฟอร์ดไปยัง " Boys' Town " สถาบันนิกายโรมันคาธอลิก ที่ขึ้นชื่อเรื่องการบำบัดช่วยเหลือเด็กมีปัญหา
คงไม่มีเด็กคนไหนอยากเข้าไปสถาบันดัดนิสัยหรอก สำหรับแซปส์ฟอร์ดก็เช่นกัน เพราะเข้าไปอยู่ได้ไม่ครบอาทิตย์ก็แอบหนีออกมาจากสถาบัน โดยไม่มีใครตามตัวเจอตลอดช่วง 2-3 วัน
จนในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 1970 แซปส์ฟอร์ดหลบหนีมาถึงสนามบินซิดนีย์ ที่ในตอนนั้นระบบมาตรฐานรักษาความปลอดภัยไม่ได้เข้มงวดเท่าปัจจุบัน คือสาเหตุที่ทำให้เด็กน้อยสามารถแอบเข้าไปภายในได้อย่างง่ายดาย
ในตอนนั้นมีเครื่องเจ๊ต Douglas DC-8 กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางไปยังญี่ปุ่น เมื่อเจ้าหนูแซปส์ฟอร์ดผ่านมาเห็น จึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปที่เครื่อง และซ่อนตัวอยู่ในช่องเก็บล้อเงียบๆ ในตอนนั้นเจ้าหนูแซปส์ฟอร์ดอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปลายทางเที่ยวบินนี้จะไปลงที่ไหน แค่ขอให้พ้นไปจากที่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ในตอนนั้นมีช่างภาพมือสมัครเล่นนามว่าจอห์น กิลพิน ( John Gilpin ) ที่กำลังถ่ายภาพในสนามบินตามประสาคนชอบเล่นกล้อง โดยในตอนนั้นเขาไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนที่เก็บภาพเหตุการณ์สลดที่กำลังจะเกิดได้โดยบังเอิญ
Douglas DC-8 ใช้เวลา 2 - 3 ชั่วโมงในการเตรียมตัวเพื่อออกเดินทางโดยไม่มีใครรู้เลยว่ามีเด็กชายซ่อนตัวในช่วงเก็บล้อ เครื่องเริ่มออกบินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนมีการเปิดช่องเก็บล้ออีกรอบเพื่อเก็บล้อเข้า ทำให้เจ้าหนูแซปส์ฟอร์ดที่ซ่อนอยู่แบบไม่มีหลักยึดเกาะ ร่วงลงจากเครื่องที่ระดับความสูง 200 ฟุต ลงไปกระแทกพื้นด้านล่างเสียชีวิตทันที
ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาทำการตรวจสอบช่องเก็บล้อเครื่องบินลำดังกล่าว พบหลักฐานเป็นรอยนิ้วมือ รอยเท้า และเศษเส้นด้ายเสื้อที่แซปส์ฟอร์ดใส่ตกค้างอยู่
เหตุการณ์สลดครั้งนี้เริ่มกลายเป็นข่าว มีผู้เชี่ยวชาญออกมาให้ความเห็นว่า ถึงแม้เด็กคนนี้จะโชคดีไม่ตกลงมาตาย แต่เชื่อว่าการสูญเสียจะยังเกิดอยู่ดี เพราะเจ้าหนูแซปส์ฟอร์ดสวมเพียงเสื้อเชิ้ตแขนสั้น และกางเกงขาสั้นเท่านั้น ซึ่งไม่อาจทนต่ออุณหภูมิหนาวเย็น และการขาดออกซิเจนที่รุนแรงในสภาะวะสูงขนาดนั้นได้
1
ประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากเกิดเหตุการณ์ทั้งหมด ช่างภาพสมัครเล่นกิลพินนำรูปที่ถ่ายได้ทั้งหมดไปล้าง จนได้รูปใบนึงที่เผยให้เห็นร่างของเด็กชายกำลังร่วงตกลงมาจากเครื่องบิน โดยพยายามยกมือเพื่อคว้าอากาศที่ว่างเปล่า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา