อย่าบู้ฟสิ เดี๋ยวก๊อกซะเลย
บู้ฟ (Boov) กับก๊อก (Gorg) เป็นตัวการ์ตูนเอเลี่ยนจาก Home ภาพยนตร์ของ Dreamworks ที่ฉายเมื่อปี 2015 เล่าเรื่องความขัดแย้งระหว่างสองเผ่าพันธุ์ต่างดาว โดยแทรกทัศนะคติเกี่ยวกับความเป็นเพื่อน ครอบครัว การเผชิญหน้าและแก้ไขปัญหาผ่านสองตัวละครหลักคือบู้ฟโอ้และเด็กหญิงทิปที่เป็นมนุษย์
เรื่องย่อคือ บู้ฟขโมยหินจากก๊อกจึงถูกตามล่า บู้ฟหนีมาถึงโลกแต่ก๊อกก็ตามมาได้อีก บู้ฟรีบหนีอีกครั้งแต่แล้วเปลี่ยนใจวนกลับมาที่โลกและคืนหินให้ก๊อก ท้ายที่สุดทั้งสองก็ Go Party !
เป็นไงล่ะ 🤣 ผมอุตส่าห์เล่าโดยไม่เปิดเผยส่วนสำคัญของเรื่องเลยนะ ขนาดชื่อตัวละครหลักยังไม่กล่าวถึงเลย
ล้อเล่นครับ 👻 งั้นเอาใหม่ ผมเล่าแบบยาว ๆ น่าจะดีกว่า
⚠️ คำเตือน ⚠️ เนื้อหาต่อไปนี้เปิดเผยส่วนสำคัญของภาพยนตร์เรื่องโฮม
โอ้ (จิม พาร์สัน) กับทิป (รีฮานน่า) จับพลัดจับผลูเจอกันในร้านสะดวกซื้อ ทิปเป็นเด็กหญิงที่รอดจากท่อดูดจับมนุษย์ของยานบู้ฟและต้องการตามหาลูซี่ แม่ของเธอที่ถูกจับหายตัวไป เธอมีสัตว์เลี้ยงเป็นแมวสามสีตัวอวบชื่อพิก
ส่วนโอ้เป็นบู้ฟนักโทษหลบหนี เขาถูกตามล่าเพราะส่งจดหมายผิด แทนที่จะส่งให้แค่เพื่อน ๆ ที่อยู่อาศัยในละแวกเดียวกันกลับกดปุ่มส่งให้ทุกคนทั่วทั้งจักรวาลแทน ซึ่งนั่นหมายความว่าก๊อกจะได้รับอีเมลล์นั้นด้วย หากก๊อกมาถึงเมื่อไรบู้ฟและโลกจะต้องพังพินาศอย่างแน่นอน กัปตันของบูฟจึงประกาศจับโอ้ฐานกระทำผิดร้ายแรงให้เผ่าพันธุ์มีอันตราย
ภาพโปรโมท "โอ้" และ "ทิป" จากเว็บไซต์ของเมเจอร์ซีนิเพล็กซ์
ในตอนแรกทั้งสองทะเลาะกัน ทิปเกลียดโอ้รวมทั้งพวกบูฟที่ยึดโลกและพรากแม่ไป แต่เมื่อจำต้องร่วมทางกันและได้พูดคุยกันมากขึ้นทิปก็เปิดใจยอมรับโอ้ โอ้สัญญากับทิปว่าจะช่วยทิปตามหา “แม่ฉัน” (My mom) หรือก็คือแม่ของทิป ซึ่งเขาก็เรียกเช่นนี้ตลอดทั้งเรื่อง
ขออธิบายเพิ่มว่าบู้ฟมีความเข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเทียบได้กับเด็กประถมต้น ภาษาที่บู้ฟใช้จึงมีการเรียงคำที่แปลก ๆ อยู่เสมอ นอกจากนี้ “โอ้” ก็ไม่ใช่ชื่อตัว แต่เหมือนเป็นการล้อหรือบูลลี่เสียมากกว่า คือมีที่มาจากเสียงถอนหายใจของบู้ฟอื่น ๆ ที่เอือมระอาเขา
“โอ้ มัน (ก่อเรื่อง) อีกแล้วสินะ”
และถึงแม้ผมจะเรียกโอ้ว่าเขา แต่ในภาพยนตร์ไม่ได้บอกว่าบู้ฟมีเพศหรือไม่รวมถึงมีลูกหลานได้อย่างไร มีเพียงโอ้เล่าถึงพวกบู้ฟว่ามีช่วงวัยทารกซึ่งช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และต้องเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด
โอ้รู้ว่ายังมีเวลาพอจะเข้าระบบเพื่อยกเลิกข้อความในจดหมายพร้อมกับตามหา “แม่ฉัน” ที่สำนักงานใหญ่ของบู้ฟในปารีส ทั้งสองจึงเดินทางไปที่ปารีสโดยสลัชเชียส รถยนต์ที่โอ้ดัดแปลงให้บินได้
ทิปช่วยโอ้ปลอมตัวเพื่อลักลอบเข้าสำนักงาน โอ้ยกเลิกข้อความนั้นและทั้งสองได้รู้ว่าแม่ของทิปอยู่ที่ออสเตรเลีย จากนั้นทั้งสองก็เกือบถูกจับกุมทว่าหนีเอาตัวรอดมาได้
โต๊ะเจรจาระหว่างกัปตันเสม็กตัวแทนของบู้ฟ (ซ้าย) กับก๊อก (ขวา)
ทั้งบู้ฟและก๊อกสองเผ่าพันธุ์ต่างดาวแม้มีสติปัญญาและวิทยาการสูงล้ำแต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่มีระหว่างกันได้เลย
ในภาพยนตร์ไม่ได้กล่าวถึงความขัดแย้งก่อนหน้านั้นว่าคืออะไร โอ้เพียงแค่เล่าให้ทิปฟังว่าก่อนที่บู้ฟจะเอาแต่หลบหนีก๊อกอย่างทุกวันนี้ กัปตันของบู้ฟชื่อเสม็ก (Smek) เคยไปเจรจากับก๊อก แต่ด้วยความกลัวและลนลานจึงวิ่งชนข้าวของต่าง ๆ ของก๊อกแล้วหยิบฉวยหินก้อนหนึ่งมา เสม็กประดับมันบนคทาและเรียกมันว่า ชัชเช่อ (Shusher ที่มาจาก shush หรือเสียง “ชู่ว” ให้เงียบ) ซึ่งพากย์ไทยเรียกมันว่าจงเงียบ
และนับแต่นั้นบู้ฟก็หนีก๊อกมาตลอดเพราะพวกก๊อกเป็นผู้พรากทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นยาน ตัวบู้ฟหรือดาวที่บู้ฟอยู่อาศัย ก๊อกทำลายทุกอย่างที่ว่านั้นจนสิ้นซาก (We calls Gorg the takers because if you has something, they takes it.)
กัปตันเสม็กชูชัชเช่อ ให้เสียงโดยสตีฟ มาร์ติน
ก่อนหน้านั้นตอนที่โอ้พูดถึงกัปตันของเขา ทิปก็ด่าด้วยความโมโหว่ากัปตันเสม็กปัญญานิ่ม (Captain Smek is an idiot.) และนั่นก็เป็นความจริง เสม็กเป็นกัปตันที่โง่เง่าและขี้ขลาด เขาถนัดเรื่องพูดเอาหน้าด้วยการใช้คทาโขกบู้ฟอื่นที่แสดงความเห็นได้หลักแหลมกว่าแล้วขโมยทั้งหมดมาพูดแทน หรือไม่ก็ใช้คทาฟาดบู้ฟที่ทำให้เขาเสียหน้า และทุกครั้งที่มีอันตรายเขาจะหนีก่อนบูฟอื่นเสมอ
แต่แล้วระหว่างที่โอ้กับทิปเดินทางไปออสเตรเลีย ฝูงยานบินทรงกลมของบู้ฟก็บินมาโอบล้อมสลัชเชียสของพวกเขาไว้ พวกบู้ฟเริ่มการอพยพอีกครั้ง มียานบินสีดำรูปทรงพีระมิดมีแฉกแหลมคมของก๊อกไล่ล่าพวกบู้ฟอย่างเอาเป็นเอาตาย โอ้ยิงยานก๊อกลำหนึ่งตกแต่สลัชเชียสก็เสียหายและตกด้วย
โอ้ลนลาน อยากอพยพหนีแต่ต้องซ่อมสลัชเชียสก่อน และวิธีการที่เป็นไปได้มากที่สุดคือใช้ซูเปอร์ชิพของก๊อก แต่โอ้กลัวก๊อกและมองว่าโอกาสสำเร็จของวิธีนี้ต่ำกว่าครึ่งจึงควรเลิกล้มแล้วหาวิธีอื่น ทว่าทิปกลับมองต่างออกไป
“มีโอกาสสำเร็จก็ทำไป"
ทิปต่อว่าโอ้เป็นเชิงกระเซ้า “อย่าบู้ฟนักสิ” แล้วเดินนำโอ้ไปที่จุดตกของยานก๊อก โอ้ที่เริ่มทำใจได้จึงคุ้ยเขี่ยซากยานและพบว่ามันเป็นยานรบไร้พลขับ ยิ่งไปกว่านั้นเขาได้ซูเปอร์ชิพของก๊อกมายกระดับสลัชเชียส ทั้งสองไปถึงออสเตรเลียแต่โอ้กับทิปก็ทะเลาะกันอย่างรุนแรง โอ้ไม่ทำตามสัญญาที่จะตามหาแม่ทิปและหนีเอาตัวรอด
ยานแม่ของก๊อกไล่หลังยานแม่ของบู้ฟมาติด ๆ และโอ้ช่วยบู้ฟไว้ด้วยความกล้าหาญ เขาวิ่งเข้าหาห้องควบคุมขณะที่บู้ฟอื่น ๆ ลนลานหนีแล้วใส่ซูเปอร์ชิบลงไป ยานของบู้ฟจึงทำความเร็วจนหนีพ้นจากก๊อกอีกครั้ง โอ้กับเสม็กโต้คารมณ์กันต่อหน้าเหล่าบู้ฟและบู้ฟทั้งหลายก็ยอมรับโอ้เป็นกัปตันแทนที่เสม็ก เขาถือชัชเช่อและกลายเป็นผู้นำของเหล่าบู้ฟ
โอ้นึกถึงทิปและคำสัญญาจึงขับยานกลับโลก เขาช่วยทิปตามหา “แม่ฉัน” จนเจอ ทว่ายานแม่ของก๊อกก็มาถึงโลกและโอ้ตระหนักได้ว่าก๊อกอาจแค่ต้องการหินบนคทาเท่านั้น โอ้จึงนำมันไปคืน เขาเกือบตายด้วยเครื่องจักรบดขยี้ดาวแต่โชคดีที่เขี้ยวยักษ์ของเครื่องจักรยังมีช่องว่างพอที่บู้ฟจะแทรกตัวอยู่ได้
ทิปกับแม่ฉันเป็นพยานให้โอ้ส่งมอบ "ก้อนหิน" คืนก๊อก
เมื่อบู้ฟคืนหินก้อนนั้นให้ก๊อกและทั้งสองได้เจรจากันเรียบร้อยแล้ว ทิปกับแม่จึงได้รู้ว่าหินก้อนนั้นเปรียบเหมือนชะตากรรมของก๊อก เนื่องจากภายในบรรจุประชากรรุ่นใหม่ทั้งหมดของก๊อกเอาไว้ และก๊อกที่เห็นคือก๊อกเพียงหนึ่งเดียวของเผ่าพันธุ์ที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งอาจตีความได้ว่าก๊อกที่เราเห็นเป็นปลาดาวสีส้มในชุดเกราะนั้นคือก๊อกโตเต็มวัยที่นับวันก็จะแก่ตัวลงไปเรื่อย ๆ
ก๊อกสุดท้าย (The last Gorg) ของจักรวาล
ท้ายที่สุดบู้ฟก็ไม่ต้องหนีก๊อกอีกต่อไป บู้ฟได้อยู่ร่วมกับมนุษย์บนโลกและจัดงานเลี้ยงฉลองกัน
หลังจากดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบผมได้ข้อคิดที่ว่า
อย่าให้สัญชาติญาณชี้นำการแก้ปัญหา
ก๊อกกับบู้ฟเหมือนเป็นตัวแทนสัญชาติญาณของสิ่งมีชีวิต นั่นคือการตอบสนองแบบสู้หรือหนี (Fight or Flight) ซึ่งทั้งสองอย่างอาจมีหรือไม่มีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาเลยก็เป็นได้
ก๊อกไล่ล่าบู้ฟ ระบายความเกรี้ยวกราดใส่บู้ฟและทุกสิ่งรอบข้างเมื่อไม่ได้หินกลับคืนมาสักที ความรุนแรงมักเป็นทางเลือกของฝ่ายที่เลือกได้ และมันก็สร้างความเสียหายกับผู้กระทำและสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ
ส่วนบู้ฟนั้นหนีเพื่อเอาตัวรอด และนั่นเป็นเพียงการพาตัวเองไปพ้นจากปัญหาซึ่งก็พ้นได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ประเดี๋ยวก๊อกตามเจอแล้วก็ต้องหนีอีก
ผมคาดเดาว่าทุกสิ่งที่บูฟกับก๊อกสร้างและใช้นั้นอาจแฝงสัญลักษณ์เป็นนัยยะด้วย นั่นคือของ ๆ บูฟจะมน เป็นทรงกลมหรือวงกลม ส่วนของ ๆ ก๊อกจะคล้ายผลึกที่มีความเรียบกับสัน ขอบ รวมถึงเหลี่ยมมุมและแฉกแหลมคม
ส่วนโค้งมนและทรงกลมอาจหมายถึงความเคลื่อนไหว การไม่หยุดนิ่งและการหนีในลักษณะของทรงกลมที่กลิ้งและหลุดรอดจากการหยิบจับได้ง่ายกว่ารูปทรงอื่น ขณะที่ความเรียบอาจหมายถึงความคงที่ นิ่ง แน่นอนตายตัว ร่วมกับแฉกแหลมเหมือนหนามที่พร้อมทิ่มแทงซึ่งเป็นอันตรายได้
หรือทั้งหมดนั้นอาจเป็นเพียงความละเมอเพ้อพกของผมเอง ทุกสิ่งที่ทั้งสองเผ่าพันธุ์สร้างแค่สะท้อนมาจากตัวตนและรูปกายพวกเขา นั่นคือบูฟมีหัวนุ่มนิ่มและก๊อกเป็นปลาดาวห้าแฉกที่มีม่านตาเป็นรูปสี่เหลี่ยม หรือเป็นเพียงผลจาก concept art ของทีมผู้สร้างสำหรับมนุษย์ต่างดาวคนละเผ่าพันธุ์
เอ๊ะ ! นี่มันการ์ตูนของดรีมเวิร์กส์ไม่ใช่ดิสนีย์ซะหน่อย แต่ก็ไม่รู้สินะ
ในชีวิตของเราทุกคนล้วนมีปัญหาต่าง ๆ แวะเวียนเข้ามาทักทาย เราไม่ควรปล่อยให้ตัวเองตอบสนองไปตามสัญชาติญาณหรือตามความเคยชินไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกับปัญหาที่ซับซ้อนและมีผลกระทบต่อเนื่อง ซึ่งหากไม่แก้ไขแล้วปัญหาที่ว่านั้นอาจพาให้ชีวิตของทั้งตนเองและคนใกล้ตัวล่มจมได้
ผมเชื่อว่าทุกคนคงเคยเป็นทั้งก๊อกและบู้ฟกันมาบ้างไม่มากก็น้อยสุดแท้แต่ชนิดของปัญหาและทางเลือก แต่หากสังเกตข่าวสารต่าง ๆ จะพบว่าพฤติกรรมใน “แบบก๊อก” กลับกลายเป็นข่าวให้เห็นมากกว่า “แบบบู้ฟ” ซึ่งผลลัพธ์นั้นล้วนเลวร้าย
ฉะนั้นหากเรามีปัญหา ในเบื้องต้นเราควรอดทนและมีใจคอหนักแน่น จะได้ไม่เป็นอย่างก๊อกที่ดูบ้าคลั่งและทำลายดาวไปแล้วไม่รู้กี่ดวง และอย่าเอาแต่หนีปัญหาแบบบู้ฟ เพราะการหนีปัญหานั้นบางครั้งรังแต่จะทำให้ปัญหาใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่ว่ามีปัญหาอะไรก็ตาม การตั้งสติคิดทบทวนทำความเข้าใจหาเหตุผล ย่อมพาให้เราเจอทางแก้ได้ในที่สุด ทางแก้นั้นอาจเป็นคนที่เราต้องไปขอความช่วยเหลือ เป็นสิ่งของบางชิ้นหรือเป็นการทำสมาธิให้จิตใจสงบ
หากพบหนทางแก้ไขเราก็ควรลองดูก่อน มีโอกาสสำเร็จก็ทำไป ดีกว่าหลงกับการประเมินหรือมโนภาพบางอย่างจนถูกบังตาว่าโอกาสสำเร็จต่ำไม่ทำแล้วกัน หรือยอมแพ้ง่าย ๆ แล้วโทษว่ามันแก้อะไรไม่ได้หรอก
ทางแก้ไขปัญหาอาจมีหลากหลาย แต่บางทีก็มีเพียงหนึ่งเดียว ที่สำคัญคือส่วนใหญ่มันไม่ประนีประนอม คุณไม่จำเป็นต้องชอบมัน คุณแค่ต้องทำมัน
แต่เชื่อเถอะครับว่าการแก้ปัญหานั้น ท้ายที่สุดย่อมเป็นผลดีทั้งกับตัวเองและคนรอบข้าง ไม่มีโทษเลย
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
