12 มิ.ย. 2021 เวลา 05:56 • ประวัติศาสตร์
จ้าวพ่านเอ๋อร์ คณิกาผู้กล้าหาญและชาญฉลาด
เพิ่งได้อ่านเรื่องย่อซีรีส์เรื่องใหม่ เมิ่งหวาลู่ 《梦华录》ที่ หลิวอี้เฟย นำแสดง เรื่องของ จ้าวพ่านเอ๋อร์ เจ้าของโรงน้ำชาในหังโจว มีคู่หมั้นชื่อ โอวหยางซวี่ ไปสอบขุนนางที่เมืองหลวง สอบได้ทั่นฮวา (ยังไม่ได้จอหงวนด้วยซ้ำ) ก็เลยขอถอนหมั้น จ้าวพ่านเอ๋อร์ ไม่ยอมตัดใจ ออกเดินทางไปเรียกร้องความเป็นธรรมที่เมืองหลวง ระหว่างทางได้ช่วย ซ่งหยิ่นจาง หญิงสาวที่ถูกหลอกให้แต่งงานและโดนสามีทำร้าย และยังช่วย ซุนซานเหนียง ที่ชีวิตแต่งงานล้มเหลวจนมากระโดดน้ำตาย
หลังจากมาถึงเมืองหลวง จ้าวพ่านเอ๋อร์ ยังถูกคู่หมั้นขับไล่ ทั้งสามคนจึงตัดสินใจเปิดโรงน้ำชาขึ้นที่เมืองหลวง และใช้ความสามารถดูแลกิจการ สร้างฐานะจนกลายเป็นโรงน้ำชาที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหลวงได้ในที่สุด ตัว จ้าวพ่านเอ๋อร์ เอง ในที่สุดก็ละวางความแค้นที่มีต่อ โอวหยางซวี่ พร้อมทั้งเปิดประตูสู่ความเท่าเทียมให้กับผู้หญิงในยุคโบราณ
เป็นซีรีส์แนวนำเสนอสิทธิสตรีแบบที่เริ่มเห็นมากขึ้นในละครยุคนี้ ช่วงครึ่งแรกของเรื่อง เป็นพล็อตที่คุ้นเคยเอามากๆ นึกถึงนิทานจีนโบราณหรือเกล็ดประวัติศาสตร์แนวหญิงคณิกาที่ส่งเสียคู่หมั้นให้ได้ร่ำเรียนหนังสือ แล้วยังให้เงินเดินทางไปสอบที่เมืองหลวง พอได้เป็นขุนนางก็ทอดทิ้งคู่หมั้นเก่าที่มีบุญคุณอย่างไม่ไยดี เรื่องแบบนี้มีมากมายที่กลายเป็นโศกนาฏกรรมเล่าขาน อย่างเช่นเรื่องของ ตู้สือเหนียง เรื่องราวพวกนี้สะท้อนชีวิตหญิงสาวยุคโบราณได้อย่างดี
พอลองค้นดู ก็พบว่าละครเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากบทละครเพลงหยวนฉวี่ (元杂剧) เรื่อง “จ้าวพ่านเอ๋อร์ช่วยหญิงคณิกา” 《赵盼儿风月救风尘》ของกวนฮั่นชิง (关汉卿 ) ในสมัยราชวงศ์หยวนจริงๆ แต่เนื้อเรื่องในต้นฉบับต่างจากบทละครดัดแปลง และต่างจากที่คิดเอาไว้ค่อนข้างมากทีเดียว
ละครเรื่องนี้มี 4 องก์ เรื่องมีอยู่ว่า ซ่งหยิ่นจาง เป็นหญิงคณิกาที่รักกันกับ โจวเส่อ แต่เธอมีคู่หมั้นอยู่แล้ว เป็นบัณฑิตชื่อ อันซิ่วสือ พอเขารู้เรื่องเลยไปขอให้ จ้าวพ่านเอ๋อร์ ที่สนิทสนมเหมือนพี่สาวให้ช่วยเหลือ จ้าวพ่านเอ๋อร์ เองก็เป็นหญิงคณิกา เคยวาดฝันถึงชีวิตแต่งงานที่มีความสุขมาก่อน แต่ประสบการณ์ทำให้รู้ว่าผู้หญิงที่ประกอบอาชีพอย่างเธอนั้นยากที่จะมีชีวิตแต่งงานอย่างมีความสุข จ้าวพ่านเอ๋อร์ รู้ว่า โจวเส่อ เป็นพวกสำมะเลเทเมาเที่ยวผู้หญิง ไม่ใช่สามีที่ดีแน่นอน ก็รับปากช่วย
จ้าวพ่านเอ๋อร์ ไปถาม ซ่งหยิ่นจาง ว่าทำไมอยากแต่งงานกับเขา ซ่งหยิ่นจาง บอกว่าเพราะโจวเส่อปรนนิบัติเธออย่างดี หน้าร้อนก็ช่วยถือพัด หน้าหนาวก็อุ่นผ้าให้ห่ม ไม่ว่าจ้าวพ่านเอ๋อร์เกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่ยอมเชื่อ สุดท้าย โจวเส่อกับซ่งหยิ่นจางก็แต่งงานกัน และย้ายจากเมืองหลวงไปอยู่เจิ้งโจว แต่ทันทีที่แต่งเข้าบ้าน โจวเส่อก็เริ่มด่าว่าและทุบตีเธออย่างหนักเรื่อยมา สุดท้าย ซ่งหยิ่นจาง แอบขอเพื่อนบ้านให้ช่วยส่งจดหมายหาแม่ แม่ก็รีบไปขอความช่วยเหลือจาก จ้าวพ่านเอ๋อร์ ทันที
จ้าวพ่านเอ๋อร์ คิดแผนการได้แล้วก็รีบเดินทางไปเจิ้งโจว แสร้งทำเป็นหลงรัก โจวเส่อ และอิจฉาที่เขาแต่งงานกับคนอื่น โจวเส่อ พอเห็นหญิงสาวในชุดยั่วยวนก็หลงกล ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องหลายวัน ซ่งหยิ่นจาง มาตามหา พอเห็นว่าเป็น จ้าวพ่านเอ๋อร์ เท่านั้นก็รีบแกล้งทำเป็นโกรธเอะอะโวยวาย จ้าวพ่านเอ๋อร์ ยื่นคำขาดให้ โจวเส่อ เขียนใบหย่า เธอถึงจะยอมแต่งงานกับเขา โจวเส่อยังไม่ค่อยตายใจ บอกให้ จ้าวพ่านเอ๋อร์ สาบาน เธอก็สาบานทันที
โจวเส่อ ตกหลุมพราง ยอมกลับบ้านเซ็นใบหย่า แต่พอกลับมาไม่พบจ้าวพ่านเอ๋อร์ก็แค้นใจมาก รีบตามสองสาวมาจนทัน คว้าเอาใบหย่ามาฉีกทิ้ง แต่ จ้าวพ่านเอ๋อร์ คำนวณไว้หมดแล้ว ใบหย่าของจริงยังเก็บไว้ในที่ปลอดภัย และบอกว่าตัวเองไม่เคยเชื่อคำสาบาน หากคำสาบานพวกนี้เป็นจริงได้ เธอคงตายไปนานแล้ว (เอากับเธอสิ) หลังจากนั้นก็จัดการไปฟ้องศาลว่า โจวเส่อ หลอกภรรยาคนอื่นไปแต่งงาน พอแต่งแล้วก็หย่าทิ้ง พร้อมเอาใบหย่ามาเป็นหลักฐาน ผสมโรงกับ อันซิ่วสือ ที่นัดแนะกันมาก่อน ก็ไปตีกลองร้องทุกข์พอดี สุดท้ายศาลสั่งลงโทษโบย โจวเส่อ 60 ไม้ และให้ ซ่งหยิ่นจาง กลับไปอยู่กับ อันซิ่วสือ ในฐานะภรรยา ละครเรื่องนี้จบลงอย่างมีความสุข (เป็นสองสาวที่มีความ sense and sensibility มากๆ)
1
เรื่อง “จ้าวพ่านเอ๋อร์ช่วยหญิงคณิกา” มีจัดแสดงทั้งในรูปแบบอุปรากรจีน และยังเคยทำเป็นละครขนาดสั้น 6 ตอนจบมาก่อน เมื่อปี 2002 เรื่องนี้ ฟ่านปิงปิง แสดงเป็น ซ่งหยิ่นจาง
ถ้าพูดถึงบทละครจีนโบราณแนวเพื่อนหญิงพลังหญิง ยังคิดถึงอุปรากรจีนอีกเรื่องหนึ่งที่ชื่อว่า “ฟ้องสามี” 《告亲夫》เป็นเรื่องของ เหลียงไฉ บัณฑิตหนุ่มรักกันกับ ชิวหรง ลูกสาวครูใหญ่ ก่อนจากกันเหลียงไฉสัญญาว่าจะมาสู่ขอ แต่พอกลับบ้านพบว่าพ่อเขาได้สู่ขอหญิงสาวอีกคนให้เขาเรียบร้อย พอชายหนุ่มเห็น ซู่เจิน หน้าตาสะสวยก็ลืมคนรักไปจนหมดสิ้น หลายเดือนผ่านไป ชิวหรง พร้อม รั่วหยุน สาวใช้เดินทางมาตามหาคนรัก แต่ เหลียงไฉ กลับจ้างคนให้ฆ่าปิดปากทั้งสองเสีย ซู่เจิน จับได้จึงแอบปล่อยทั้งสองหนีไป ชิวหรง และ รั่วหยุน หนีจนมุม ต้องกระโดดลงแม่น้ำ ซู่เจินที่ไล่ตามมา ถูก เหลียงไฉ ผลักตกน้ำเพื่อปิดปากไปอีกคน โชคดีที่ทั้งสามรอดตาย แต่เพราะชิวหรงกำลังตั้งครรภ์ทนความลำบากไม่ไหวจึงเสียชีวิต ซู่เจิน กับ รั่วหยุน ถือจดหมายเลือดเข้าฟ้องนายอำเภอ ซึ่งก็คือพ่อแท้ๆ ของเหลียงไฉ หลักฐานแน่นหนา นายอำเภอจนใจได้แต่ตัดสินโทษประหารลูกชายตัวเอง
นิทานหรือบทละครที่สะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำ การถูกกดขี่ข่มเหงของผู้หญิง ไม่ว่าเป็นหญิงสาวธรรมดาหรือหญิงคณิกาก็ตาม หลายเรื่องสามารถจบลงด้วยดีอย่างเรื่องของ จ้าวพ่านเอ๋อร์ และ ซ่งหยิ่นจาง แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจบลงด้วยโศกนาฏกรรม ก็ได้แต่หวังว่าจากนี้จะมีเรื่องราวที่จบลงอย่างมีความสุขและชัยชนะของผู้หญิงมากยิ่งขึ้น
หมายเหตุ: กวนฮั่นชิง (关汉卿 ) ผู้แต่งบทละครเรื่องนี้ ได้ชื่อว่าเป็น “หนึ่งในสี่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งบทละครหยวนฉวี่” เรื่องราวส่วนใหญ่สะท้อนถึงความเสื่อมโทรมและมืดมนในสังคมช่วงสมัยราชวงศ์หยวน “แค้นโต้วเอ๋อ” 《窦娥冤》บทละครโศกนาฏกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุด ได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนแห่งบทละครหยวนฉวี่ ก็เป็นผลงานของ กวนฮั่นชิง
ภาพประกอบจาก https://www.sohu.com/a/445022302_467532
โฆษณา